svasdssvasds

ทย.ขอความร่วมมืองดจุดบั้งไฟ เสี่ยงกระทบการบินของอากาศยาน ฝ่าฝืนมีโทษ

ทย.ขอความร่วมมืองดจุดบั้งไฟ เสี่ยงกระทบการบินของอากาศยาน ฝ่าฝืนมีโทษ

กรมท่าอากาศยาน ขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วน งดการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน ขึ้นสู่อากาศ หวั่นกระทบการบินในพื้นที่ภาคอีสาน ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

กรมท่าอากาศยานประชาสัมพัน งดการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน ขึ้นสู่อากาศ หลังมีเหตุที่นักบินออกมาโพสต์เจอบั้งไฟระยะใกล้เครื่องบินที่ความสูงเกือบ 8,000 ฟุต โดยระบุว่า ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงประเพณีงานบุญบั้งไฟของท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งประเพณีการจุดบั้งไฟเป็นประเพณีท้องถิ่นดั้งเดิมของชาวอีสาน แต่ปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป มีการแข่งขันความสูงของบั้งไฟ ทำให้ความสูงเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก และเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่ออากาศยาน รวมถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อโซเชียล เรื่องการจุดและปล่อยบั้งไฟในพื้นที่ภาคอีสานและส่งผลกระทบต่ออากาศยานที่ทำการบินในเขตพื้นที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี กรมท่าอากาศยาน ได้รับรายงานจาก ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผอ.ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ว่า ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ได้ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัย เทศกาลบุญบั้งไฟประจำปี 2567 ตามแผนการดำเนินงานที่ได้กำหนดไว้ในคู่มือการดำเนินงานสนามบิน เพื่อให้ผู้ขออนุญาตจุดบั้งไฟ

อาจส่งผลกระทบต่อการบินและอากาศยานในเขตพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้เกิดความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำหนดไว้อย่างเข้มงวด ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้นำแต่ละท้องถิ่นล่วงหน้า ก่อนมีการจัดเทศกาลบุญบั้งไฟ เริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค.2567 เป็นต้นมา

ด้าน นายมนตรี เดชาสกุลสม รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ได้กำชับให้ท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนและทุกภาคส่วน ห้ามจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในห้องที่ เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนและป้องกันอันตราย เนื่องจากไม่มีวิธีใดควบคุมทิศทางของโคมลอย หรือบั้งไฟได้ ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่ออากาศยาน และการมองเห็นของนักบินในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ โดยเฉพาะบริเวณสนามบิน รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงสนามบิน และเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้โดยสาร

ซึ่งกรมท่าอากาศยานได้มีการแจ้งมาตรการในการควบคุม และป้องกันอันตรายจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน หรือวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

  1. ขอให้ผู้ที่จะทำการจุดบั้งไฟ ทำหนังสือขออนุญาตการขอจุดบั้งไฟกับนายอำเภอในท้องที่
  2. ขอให้นายอำเภอแจ้งหนังสือขออนุญาตแจ้งการจุดให้ท่าอากาศยานอุบลราชธานีทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3-7 วันทำการ โดยระบุชื่อผู้ประสานงานการจุดปล่อย และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ประสานงานการปล่อยจุดบั้งไฟ อย่างน้อย 2 ท่าน พร้อมพิกัดการปล่อยบั้งไฟอย่างละเอียดโดยระบุ ละติจูด ลองจิจูด (latitude longitude) เพื่อนำไปประกอบการออกประกาศแจ้งเตือนนักบิน ( NOTAM : Notice To Airmen)
  3. ก่อนการปล่อยบั้งไฟล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 นาที ตลอดจนเฝ้าติดตามการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานีตลอดเวลาที่จุดและปล่อยบั้งไฟ รวมทั้งแจ้งให้ศูนย์ควบคุมการบินอุบลราชธานีทราบ

ทั้งนี้ หากมีผู้ใดที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามคำสั่งมาตรา 44 ของหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ

กรมท่าอากาศยานได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของอากาศยานและผู้โดยสารเป็นสำคัญ ขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น และขอให้งดจุดบั้งไฟในพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศและพื้นที่เสี่ยงตามแนวขึ้น-ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบท่าอากาศยาน รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลการจุดบั้งไฟให้กับศูนย์ควบคุมการบินในพื้นที่ทราบล่วงหน้า เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายร้ายแรงต่อการบินและอากาศยานจากการจุดบั้งไฟ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related