SHORT CUT
ผลการศึกษาชี้ คนที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด มักเล่นเกมน้อย กว่าคนที่ไม่ค่อยมีเสน่ห์น่าดึงดูด ความสัมพันธ์ในโลกความจริงคือปัจจัยสำคัญ
ประโยชน์และโทษของการเล่นวิดีโอเกมเป็นที่ถกเถียงในสังคมมาตลอด แต่ความแตกต่างทางรูปร่างหน้าตาของคนที่ใช้เวลาเล่นเกมมากๆ กับคนที่ไม่ค่อยใช้เวลาเล่นเกมเท่าไหร่ ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย
ทุกวันนี้การเล่นเกมได้เปลี่ยนจากงานอดิเรกเฉพาะกลุ่มไปสู่หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมความบันเทิงอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันตลาดการเล่นเกมมีมูลค่า 282 พันล้านดอลลาร์ และมีผู้เล่นเกมวิดีโออยู่ทั่วโลก ประมาณ 3.32 พันล้านคน ทำให้ มีงานวิจัยมากมายที่ศึกษาผลกระทบจากการเล่นวิดีโอเกม ทั้งในเรื่องของพฤติกรรมการเรียนรู้ สุขภาพ ไปจนถึง เรื่องรูปร่างหน้าตาของผู้เล่นเกม
ในเดือน สิงหาคม 2024 ADD HEALTH โครงการวิจัยระยะยาวในสหรัฐอเมริกา ที่ศึกษาพัฒนาการของวัยรุ่นและเยาวชน เผยแพร่ LOOKS AND GAMING: WHO AND WHY? ที่ค้นพบว่า “คนมีเสน่ห์น่าดึงดูดมักเล่นเกมน้อยกว่าคนอื่นๆ”
ผู้ทำวิจัย ได้ตั้งต้นจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งในอดีต ที่เผยว่า อดีตนักกีฬาเชียร์ลีดเดอร์ของ San Francisco 49ers มีบางอย่างที่พิเศษ เพราะสมาชิกที่หน้าตาดีมีผลงานในตลาดแรงงานที่ดีกว่า ส่วนในโลกการศึกษา ครูที่มีเสน่ห์มากกว่ามักจะได้รับผลการประเมินงานที่ดีกว่า และความหล่อสวยที่มองเห็นจากภายนอก ยังส่งผลถึงอายุขัยที่นานกว่าคนแกติอีกด้วย โดยเฉพาะผู้หญิง
แต่ที่สำคัญที่สุด ในบริบทของการศึกษาครั้งนี้ คนที่มีหน้าตาดีกว่ามักได้เปรียบในความสัมพันธ์ทางสังคมอีกด้วย
ทีมวิจัย ‘ADD HEALTH’ จึงเริ่มตั้งคำถามว่า วัยรุ่นและผู้ใหญ่ ที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดมากๆ จะเล่นเกมน้อย หรือไม่เล่นเลยหรือเปล่า เพราะพวกเขาดูจะมีกิจกรรมในโลกความจริงหลายอย่างที่ทำให้ห่างไกลจากการอยู่ในโลกสมมุติ ซึ่งผลที่ได้เป็นไปตามคาด
จากการตรวจสอบกลุ่มตัวอย่างของ Add Health ที่ได้จากการเฝ้าสังเกตวัยรุ่นและผู้ใหญ่เป็นเวลาหลายปี และให้พวกเขาตอบแบบสอบถามเป็นรอบๆ ตามช่วงเวลาการเติบโต พบว่า ความน่าดึงดูดทางกายภาพและเวลาที่ผู้คนทุ่มเทให้กับการเล่นวิดีโอเกมมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ วัยรุ่นอเมริกาโดยเฉลี่ยใช้เวลา 2.6% ของเวลาที่ตื่นนอนไปกับการเล่นเกม ในขณะที่ผู้ใหญ่ใช้เวลา 2.7%
โดยวัยรุ่นรูปร่างหน้าตาดีมีแนวโน้มที่จะเล่นเกมน้อยกว่า ในขณะที่วัยรุ่นที่ดูไม่น่าดึงดูด มักจะใช้เวลาเล่นเกมมากกว่าวัยรุ่นคนอื่นๆ ในแต่ละสัปดาห์ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ที่หน้าตาดีและมีเพื่อนสนิทเยอะ มีแนวโน้มที่จะเล่นเกมน้อยกว่าคนอื่นๆ เช่นกัน โดยเหตุผลคือพวกเขามองว่าการเล่นเกมเป็นงานอดิเรกที่มีค่าใช้จ่ายสูง และถ้าหากพวกเขาเล่นเกม ก็จะใช้เวลาเล่นเกมน้อยกว่าผู้ใหญ่ที่ไม่น่าดึงดูด
ผลการวิจัยนี้ ไม่ได้บอกว่าการเล่นเกมจะทำให้บุคคลนั้นดูหล่อสวยน้อยลงจากงานอดิเรกนี้ แต่คือระดับของความมีเสน่ห์น่าดึงดูดของบุคคลนั้นเอง ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาจะใช้เวลาในโลกของเกมนานแค่ไหน?
คนที่ดูดีอยู่แล้วจะอยู่ในสังคมได้แบบสบายๆ เพราะมีเพื่อนฝูงเยอะและผู้สนับสนุนในชีวิตมาก เลยต้องใช้เวลาในสังคมมากกว่าเวลาเล่นเกม ในทางกลับกัน หากเป็นคนที่มีเสน่ห์น่าดึงดูน้อยลงมา ก็อาจรู้สึกสบายใจที่จะอยู่โลกของเกมมากกว่าเพื่อเลี่ยงโลกความจริงในบางเวลา
สรุปคือ ความสัมพันธ์ในชีวิตจริงของคนเรา มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะใช้เวลาเล่นเกมมากหรือน้อยนั่นเอง เช่น
อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมไม่ใช่สิ่งที่แย่ กลับกันมันยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการคิด การแก้ปัญหา และช่วยบรรเทาความเครียดในชีวิตประจำวัน ของผู้เล่นเกม ขอเพียงแค่อย่าเล่นอยู่ในจอจนละเลยพื้นที่ของเราในโลกความจริงก็พอ
ที่มา : Attractive People Are Less Likely To Play Video Games, NBER Study Says
ข่าวที่เกี่ยวข้อง