เตือนภัย! การนวดบริเวณต้นคอ บ่า หรือไหล่ หากทำผิดวิธี ก็อาจเสี่ยงกับการทำให้เกิดโรคอัมพาต หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต ปม "ผิงชญาดา" นักร้องสาวไปนวดแล้วเจอหมอนวดบิดคอ เริ่มจากปวดท้ายทอย ก่อนเกิดอาการชา แขนขวาอ่อนแรง ใช้งานไม่ได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง สุดท้ายเสียชีวิต
จากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ Drama-Addict โพสต์แจ้งข่าวเศร้าระบุว่า "ผิง ชญาดา" นักร้องสาวค่ายกีตาร์ เรคคอร์ด ได้เสียชีวิตแล้ว โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ผิงโพสต์อัพเดตชีวิตกับแฟนคลับและผู้ติดตามในโซเชียลฯ ว่า กำลังรักษาอาการป่วยหนักที่เกิดขึ้นเพราะผลกระทบจากการไป "นวด" บริเวณบ่า ไหล่ และหมอนวดยัง "บิดคอ" ให้ด้วย กระทั่งในที่สุดร่างกายอ่อนแรงยกแขนไม่ขึ้น ปวดชาไปทั้งตัว ปวดร้าวลามลงท้องลงขา มีอาการเหมือนไฟช็อตปลายนิ้วจนอยากตัดมือทิ้ง
โดยโพสต์ของ "ผิง ชญาดา" มีการโพสต์ภาพฟิล์มเอ็กซ์เรย์ประกอบ มองเห็นบริเวณข้อต่อคอมีอาการเคลื่อน มีเนื้อหาระบุว่า
"หนูไม่รู้จะเริ่มยังไงดี คนทักถามเยอะมากว่าเป็นอะไร คืองี้หนูไปนวดที่ๆหนึ่งมาค่ะ ในอุดรฯ อาการตอนก่อนไปนวดคือหนูปวดแค่ไหล่เฉยๆ ค่ะ หนูไปนวดครั้งแรกอาการตอนนวดเสร็จปกติค่ะ ผ่านมา 2 วันหนูเริ่มปวดท้ายทอย หนูนึกว่าเป็นอาการปวดของการนวดปกติ (มีบิดคอนะคะ) หลังจากนั้นหนูกินยาระงับอาการ ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์หนูเริ่มมีอาการชาลงแขน ไปนวดอีกหมอคนเดิมห้องเดิม รอบนี้ (บิดคอ) อีกนะคะ ผ่านไป 2 สัปดาห์หนูเริ่มปวดตึงมากๆ มากๆ จนนอนหงายคว่ำไม่ได้ แต่แม่หนูเป็นหมอนวดหนูเรียนนวดมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ หนูชอบนวดมาก หนูยังไม่เอะใจอะไรนึกว่าเป็นเอฟเฟคจากการนวดอีก (ปวดตัวแบบนี้) หนูไปอีก ห้องเดิม เบอร์เดิม แต่เป็นคนใหม่คนนี้นวดแรงบวมช้ำอยู่เป็นสัปดาห์ (ไม่ใช่คนที่บิดคอนะคะ) มีล้วงใต้ราวนม (จั๊กแร้) ค่ะ"
หลังจากนั้นหนูกินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอด เริ่มมีอาการไฟช็อตไปปลายนิ้ว คันมากจนอยากตัดมือทิ้ง ร้อนๆ หนาวๆ ตลอดเวลา ก้มแล้วร้าวลงขา ซีกขวารู้ว่าตัวเองชาก็ตอนทาโคโลญจน์หลังจากรอบที่ 3 ที่ไปนวดค่ะ เริ่มลามไปท้อง ราวนม อาการชาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปอีก 2 อาทิตย์แขนขวาหนูเริ่มยกไม่ได้ (อ่อนแรง) จนถึงตอนนี้ร่างกายหนู ใช้งานได้ไม่ถึง 50% หนูมาเล่าเพราะมีคนถามมาเยอะ อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบนวดมากๆ หนูจะต้องหาย หนูทรมานมาก อยากทำงานแล้ว แต่ตอนนี้รอแค่เวลา ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อมีอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอ บ่า หรือไหล่ หลายๆ คนมักจะเลือกรักษา โดยการนวดเป็นลำดับแรก ซึ่งถึงแม้ว่าเทคนิคการนวดต่างๆ ทั้งการบีบนวด เค้น บิด เอียง หรือดัดต้นคอนั้น จะสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ แต่หากทำผิดวิธี ก็อาจเสี่ยงกับการทำให้เกิดโรคอัมพาตได้เช่นกัน
โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากการที่เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดการอุดตัน ตีบ หรือแตก ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหต เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง แต่สำหรับการนวด หรือดัดกระดูกบริเวณคอนั้น มีโอกาสทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองบาดเจ็บ หรือฉีกขาดได้
เส้นเลือดที่มาเลี้ยงสมองของเรา จะแบ่งเป็น คู่หน้า และคู่หลัง ซึ่งคู่หน้าจะวิ่งผ่านด้านหน้าของกระดูกต้นคอ ส่วนคู่หลังจะวิ่งติดกับกระดูกต้นคอขึ้นไปทางด้านหลัง ดังนั้น เส้นเลือดคู่หลังนี้จึงมีการขยับไปด้วยเวลาหมุนคอ การนวดจัดกระดูกต้นคอที่ผิดท่า หรือการบิดเอียง สะบัดคอที่รุนแรง หรือแม้แต่การกดนวด บีบเค้น ก็ทำให้หลอดเลือดไปกระแทกกับกระดูก ทำให้หลอดเลือดสมองบาดเจ็บ หรือฉีกขาดได้ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ลดลง เกิดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมา
สาเหตุอื่นๆ ที่คล้ายกับการบิด นวดต้นคอ ที่ทำให้หลอดเลือดได้รับบาดเจ็บได้เช่นกัน เช่นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีการแทกของกระดูกต้นคอ การเอียงคอในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ หรือการเหวี่ยงศีรษะอยากรุนแรง การเล่นเครื่องเล่นบางชนิด เช่น roller coaster
ลักษณะอาการที่พบได้ คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดต้นคออย่างเฉียบพลันและรุนแรง บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ หลังจากนั้น จะมีความผิดปกติซึ่งอาการจะขึ้นกับตำแหน่งของสมอง ที่ขาดเลือด โดยถ้าเป็นเส้นเลือดสมองคู่หลังซึ่งพบได้บ่อยกว่า ผู้ป่วยจะมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน เดินทรงตัวลำบาก รวมถึงอาจมีอาการชาหน้า สลับกับชาแขนขาอีกข้าง พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง กลืนลำลัก เป็นต้น แต่ถ้าเป็นอาการของสมองคู่หน้า ผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก หรืออาจมีอาการทางตา เช่น ตาบอดหรือมองไม่เห็นเฉียบพลันได้
ที่มา : เฟซบุ๊ก ผิง ชญาดา , โรงพยาบาลเวชธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง