SHORT CUT
เวียดนามยุบกระทรวง หวังปฏิรูปสู่ประเทศพัฒนา ไทยติดกับ ราชการทำงานทับซ้อนระบบล้าหลัง ปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ดีของประเทศ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง การปรับตัวและพัฒนาประสิทธิภาพของภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศเวียดนามแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานรัฐอย่างจริงจัง ด้วยการยุบรวมกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปัญหา ระบบราชการที่ใหญ่โต เทอะทะ มีหน่วยงานเต็มไปหมดแต่ขาดประสิทธิภาพ และถูกมองว่าเป็นการ แบ่งผลประโยชน์มากกว่าการตอบโจทย์ประชาชน
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายประเทศรายได้สูงภายในปี 2045 เวียดนามได้ดำเนินการลดขนาดและยุบรวมหน่วยงานรัฐครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดปัญหาการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม การปรับโครงสร้างนี้ครอบคลุมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์ รัฐบาลกลาง สมัชชาแห่งชาติ และหน่วยงานระดับจังหวัด คาดว่าจะกระทบเจ้าหน้าที่และข้าราชการกว่า 100,000 คน
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ความตั้งใจจริงในการลดขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ของเวียดนาม
การลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ การลดจำนวนบุคลากรลง ทำให้รัฐบาลสามารถ เสนอเงินเดือนที่สูงขึ้นให้กับข้าราชการที่เหลืออยู่ และ ดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาทำงานในภาครัฐ ได้มากขึ้น การอนุมัติโครงการลงทุนจากต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
ในขณะที่เวียดนามกำลังเดินหน้า ระบบราชการไทยยังคงติดอยู่ในวังวนของปัญหาเดิมๆ น่วยงานราชการมีจำนวนมากแต่ขาดประสิทธิภาพ ติดกับดักระบบราชการ (red tape) มีกฎระเบียบที่ล้าหลัง วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง
ระบบราชการไทยถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศมากกว่าจะเป็นกลไกขับเคลื่อน แม้จะมีความพยายามในการปฏิรูปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
จากข้อมูลการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 พบว่า 10 กระทรวง/หน่วยงานแรก ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงถึง 1,894,809 ล้านบาท โดยหลายกระทรวงมี งบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เช่น กระทรวงการคลัง (14.73%) กระทรวงมหาดไทย (8.57%) และกระทรวงสาธารณสุข (8.84%)
นอกจาก งบประมาณที่สูงเกินความจำเป็นแล้ว ยังพบว่า หลายหน่วยงานมีการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน เช่น การขุดท่อประปาที่ต้องซ่อมแซมฟุตบาทซ้ำซ้อน เนื่องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบท่อประปาและฟุตบาทเป็นคนละหน่วยงานกัน รวมไปถึงปัญหาถนนเส้นเดียวที่ต้องประสานงานกับหน่วยงานราชการถึง 18 หน่วยงาน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง ความไม่มีประสิทธิภาพและการขาดการบูรณาการในการทำงานของหน่วยงานราชการไทย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิรูประบบราชการไทยได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมราชการที่ไม่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กระบวนการประเมินผลงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ การกระจายอำนาจที่ยังไม่สมบูรณ์ การขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
การปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานรัฐเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา แต่ ความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงของผู้นำประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตัวอย่างของเวียดนามแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เป็นไปได้ หากมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหา
ประเทศไทยควรเรียนรู้จากบทเรียนของเวียดนามและประเทศอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จในการปฏิรูปภาครัฐ เร่งแก้ไขปัญหาเรื้อรัง ปรับปรุงกฎระเบียบ พัฒนาระบบและวัฒนธรรมองค์กร และที่สำคัญที่สุดคือ สร้างผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
อ้างอิง
ธุรกิจ / กรุงเทพธุรกิจ 1 / กรุงเทพธุรกิจ 2 / BBC / 101 / 101 /