SHORT CUT
ไม่ใช่เศษทางด่วน! แต่มีคนปา! ตร.รวบแล้วมือปาหินใส่รถบางนา-ตราด อ้างเครียด ดื่มเหล้า โดนข้อหาพยายามฆ่างเป็นคดีร้ายแรง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นบนถนนบางนา-ตราด (ขาเข้า) ช่องทางด่วน ในพื้นที่แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อมีวัตถุคล้ายก้อนคอนกรีตขนาดใหญ่ หรือที่ระบุว่าเป็นก้อนปูน ตกลงใส่รถยนต์ที่กำลังสัญจรอยู่ ทำให้กระจกหน้ารถเสียหายและผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจและความกังวลให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดังกล่าวว่ามาจากโครงสร้างทางพิเศษหรือเกิดจากการกระทำของบุคคล
หลังเกิดเหตุการณ์ นางสาวอรสินี สุวรรณโพธิ์ศรี อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ สีดำ ทะเบียน ฬ 9594 ที่ได้รับความเสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.บางนา เธอเล่าว่า ขณะที่ขับรถมาถึงบริเวณตรงข้ามโรงพยาบาลไทยนครินทร์ ได้มีของตกลงมาใส่รถ ทำให้กระจกหน้ารถและบริเวณด้านหน้าเสียหาย นอกจากนี้เธอยังได้รับบาดเจ็บถลอกเล็กน้อยจากเศษแก้ว
ในเบื้องต้นมีความกังวลว่าวัตถุที่ตกลงมาอาจเป็นชิ้นส่วนจากโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี อย่างไรก็ตาม การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้นำทีมวิศวกรเข้าตรวจสอบพื้นที่แล้วยืนยันว่าโครงสร้างทางพิเศษของ กทพ. ไม่ได้รับความเสียหาย หรือมีร่องรอยคอนกรีตกะเทาะแต่อย่างใด กทพ. ได้ประสานงานกับแขวงทางหลวงสมุทรปราการและเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด
จากหลักฐานกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการกระทำของบุคคลที่โยนก้อนปูนลงมาจากสะพานลอย ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน คนร้ายเป็นชายสวมหน้ากากอนามัย เดินขึ้นสะพานลอยฝั่งเคหะบางนา (ซอยบางนา-ตราด 46) โดยถือถุงหิ้วซึ่งภายในบรรจุก้อนปูน จากนั้นได้หยิบก้อนปูนขว้างลงมาจากสะพานลอยใส่รถยนต์ผู้เสียหายที่ขับผ่านไป และหลบหนีขึ้นรถเมล์ไป นางสาวอรสินีกล่าวว่า เธอรู้สึกเบาใจมากขึ้นเมื่อทราบว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากเศษปูนจากการทางพิเศษ แต่เป็นการกระทำของคน ซึ่งหากจับกุมคนร้ายได้เธอก็จะรู้สึกโล่งใจ จากคลิปวงจรปิด เธอมองว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจปาใส่รถยนต์ของเธอ เธอยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพไว้ได้พบว่าผู้ต้องหามีการเล็งก้อนหินก่อนที่จะปา
ต่อมาวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ตำรวจสามารถติดตามจับกุมชายที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยศาลอาญาพระโขนงได้ออกหมายจับที่ จ.307/2568 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายชลัด แซ่ตั้ง อายุ 45 ปี ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีจนกระทั่งพบว่า นายชลัดได้หลบหนีไปนอนอยู่บริเวณหน้าร้านขายของบริเวณแยกถนนนวมินทร์ ตัดถนนประเสริฐ มนูญกิจ (ในรายงานข่าวอื่นระบุว่าจับกุมได้แถวย่านลาดพร้าว) ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและสอบถาม ซึ่งนายชลัดรับสารภาพตามภาพข้อมูลจากกล้องวงจรปิดว่าเป็นตนเองและเป็นผู้ก่อเหตุใช้ก้อนปูนปามาจากบนสะพานที่เกิดเหตุจริง
ระหว่างการสอบปากคำที่ สน.บางนา ซึ่งมีพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลร่วมสอบปากคำด้วย นายชลัดยอมรับว่าก่อเหตุจริง สาเหตุเกิดจากการดื่มเหล้าขาวขนาดเท่าขวดเครื่องดื่มชูกำลังทำให้ขาดสติ ประกอบกับมีอาการเครียดที่หาเงินไม่ได้ จึงระบายด้วยการปาก้อนปูนใส่รถประชาชน เขากล่าวว่าก้อนหินที่นำมาปานั้นเก็บได้จากข้างทาง ไม่ได้เตรียมการมาแต่แรก
นายชลัดให้รายละเอียดเกี่ยวกับไทม์ไลน์การก่อเหตุในวันที่ 29 เมษายน 2568 โดยประมาณบ่าย 3 โมง ได้เดินทางออกจากซอยไทยสมุทร ขึ้นรถสองแถวที่หน้าปากซอยแล้วไปลงที่ปากซอยบางนา-ตราด 46 จากนั้นถือถุงบรรจุก้อนปูนขึ้นไปบนสะพานลอยฝั่งเคหะบางนา โดยสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และได้ปาก้อนหินลงมาใส่รถประชาชน 2 ก้อน ซึ่งโดนรถทั้ง 2 คัน ก่อนจะเดินลงจากสะพานลอยและขึ้นรถมินิบัสสีส้มหลบหนีไป นอกจากนี้ เขายังยอมรับว่าได้ไปก่อเหตุอีกครั้งในเวลาประมาณ 18.00 น. ที่สะพานลอยหน้าห้างเมกาบางนา โดยโยนหินใส่รถประชาชนไปอีก 2 ก้อน ก่อนจะหลบหนีกลับมาย่านเสรีไทยจนกระทั่งถูกจับกุม
นายชลัดยืนยันว่าในวันเกิดเหตุไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ตำรวจพบประวัติว่าเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดมา 10 ครั้ง และลักขโมยของอีก 2 ครั้ง ทำให้การถูกจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 ของเขา เขายังอ้างว่าไม่เคยก่อเหตุปาหินใส่รถประชาชนมาก่อนและไม่ได้ลอกเลียนแบบเหตุการณ์ที่ถนนพระราม 2 เนื่องจากไม่มีทีวีดูข่าวและไม่มีเงิน โดยอ้างว่าเป็นคนเร่ร่อน เขาได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายด้วย
ด้านนางสาวอรสินี ผู้เสียหาย ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
พลตำรวจตรีนพศิลป์ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือเป็นคดีร้ายแรง พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหา "พยายามฆ่า" ซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องหาถูกจำคุกหลายปี โดยจะนำตัวนายชลัดไปฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนงในวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมนี้
เหตุการณ์ปาก้อนปูนใส่รถบนถนนบางนา-ตราดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 สร้างความกังวลอย่างยิ่ง แต่ได้คลี่คลายลงอย่างรวดเร็วด้วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การสอบสวนยืนยันว่าวัตถุที่ตกลงมาไม่ใช่ชิ้นส่วนจากโครงสร้างทางด่วน แต่เป็นการกระทำโดยเจตนาของบุคคล ผู้ก่อเหตุคือนายชลัด แซ่ตั้ง อายุ 45 ปี ถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา เขาได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจากการดื่มสุรา ความเครียด และปัญหาการเงิน โดยมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี แม้ผู้ต้องหาจะอ้างว่าขาดสติและไม่ได้ตั้งใจเล็ง แต่หลักฐานและคำให้การของผู้เสียหายชี้ให้เห็นถึงลักษณะการกระทำที่เข้าข่ายเจตนา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา "พยายามฆ่า" ซึ่งเป็นคดีร้ายแรง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกระทำที่ประมาทหรือมีเจตนาทำร้ายบนพื้นที่สาธารณะ และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ก่อเหตุอันตรายดังกล่าว