svasdssvasds

"ปฏิทินประกันสังคม 2569" 55 ล้าน งบมหาศาลที่ผู้ประกันตนฝากดูแล

"ปฏิทินประกันสังคม 2569" 55 ล้าน งบมหาศาลที่ผู้ประกันตนฝากดูแล

สปส. ไม่สนเสียงประชาชน เตรียมใช้งบ 55 ล้าน ผลิต "ปฏิทินประกันสังคม 2569" แจก แม้เสียงส่วนใหญ่บอก ไม่เอา พร้อมชำแหละงบประมาณ สปส. 10 ปีหลังสุดในการผลิตปฏิทิน

จากกรณีที่ประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย สปส. พิจารณาผลการทำประชาพิจารณ์การยกเลิกจัดทำปฏิทินประจำปีแจกผู้ประกันตน

ผลประชาพิจารณ์การยกเลิกทำปฏิทิน ที่สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกันตนและนายจ้างทำแบบสำรวจเมื่อวันที่ 1 ถึง 30 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังมีกระแสจากสาธารณะไม่พอใจในการใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อผลิตปฏิทินประกันสังคม

จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประกันตน ร้อยละ 62 และนายจ้าง ร้อยละ 66 ต้องการยกเลิกการทำปฏิทิน ขณะที่ผู้ประกันตนและนายจ้าง ร้อยละ 38 ต้องการให้จัดทำปฏิทินต่อ โดยช่วงวัยที่ต้องการปฏิทินมากที่สุดถึง ร้อยละ 81 คือ กลุ่มผู้ประกันตนอายุ 15-25 ปี

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเลขานุการในที่ประชุมยังคงยืนยันการจัดทำปฏิทินปี 2569 เนื่องจากมีการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และยังเห็นถึงความจำเป็นในการแจกจ่าย

 

เปิด 3 เหตุผลหลักที่ สปส. ยังคงยืนยันการผลิตปฏิทิน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่เอกสารจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ ซึ่งระบุข้อความ “ใช้ในราชการสำนักงานประกันสังคมเท่านั้น” โดยในเอกสารได้ชี้แจงถึง 3 เหตุผลหลักที่ สปส. ยังคงยืนยันการผลิตปฏิทิน ดังนี้

  1. สปส. มองว่าปฏิทินเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่สามารถให้ข้อมูลสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนได้ครบทุกมาตรา (มาตรา 33, 39, 40) และสามารถใช้ศึกษาข้อมูลได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นช่องทางแจ้งข้อมูลการติดต่อ สปส. อื่นๆ เช่น สายด่วนและเว็บไซต์
  2. ปฏิทินถูกใช้เป็นสื่อประกอบกิจกรรมประชาสัมพันธ์ทั้งในและนอกสถานที่ รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมของเครือข่าย สปส. เช่น การออกหน่วยเคลื่อนที่และการอบรมให้ความรู้
  3. ปฏิทินช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้ประกันตนจำนวนมาก ที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ สปส. ได้พิจารณาว่า แม้ผลสำรวจจะระบุว่าผู้ไม่ต้องการปฏิทินมีจำนวนมาก (83.78%) แต่ยังคงมีผู้ต้องการปฏิทินถึง 37.58% และหากยกเลิกการจัดทำในทันที อาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้ที่เห็นประโยชน์ของปฏิทิน

จุดเริ่มต้นกระแสคัดค้าน "ผลิตปฏิทิน"

ช่วงต้นปี 2568 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อข้อมูลการใช้เงินทำปฏิทินย้อนหลัง 8 ปี รวมกว่า 400-450 ล้านบาทถูกเปิดเผย โดยกลุ่มภาคประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการใช้งบกองทุนประกันสังคม น.ส.รักชนก ศรีนอก และนายสหัสวรรษ คุ้มคง จากพรรคประชาชน ได้ร่วมกันเปิดโปงเรื่องนี้ผ่านกิจกรรม “HACK งบประกันสังคม” ส่งผลให้ประเด็น “ปฏิทิน 50 ล้านบาท” กลายเป็นข่าวใหญ่

ไทม์ไลน์ "ปฏิทินประกันสังคม"

  • วันที่ 1 - 30 เม.ย. 2568 สปส. เปิดให้ผู้ประกันตนและนายจ้างร่วมตอบแบบสอบถามผ่าน Google Form เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกเลิกการจัดทำปฏิทินประจำปี หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้งบประมาณจำนวนมากในการผลิตปฏิทิน
  • วันที่ 22 พ.ค. 2568 ในการประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย สปส. มีการพิจารณาผลการทำประชาพิจารณ์ โดยพบว่า ผู้ประกันตน 62% และนายจ้าง 66% ต้องการยกเลิกการทำปฏิทิน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเลขานุการในที่ประชุมยืนยันที่จะดำเนินการจัดทำปฏิทินประจำปี 2569 ต่อไป โดยให้เหตุผลว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และยังเห็นความจำเป็นในการแจกจ่าย 
  • วันที่ 23 - 24 พฤษภาคม 2568 เกิดกระแสคัดค้านจากสังคมและนักการเมือง โดย น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของ สปส. ว่าไม่ฟังเสียงประชาชน ขณะที่ รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนในคณะกรรมการประกันสังคม ตั้งคำถามถึงความยึดติดของ สปส. กับการจัดทำปฏิทิน และเรียกร้องให้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว

"ษัษฐรัมย์" ประกาศล้างบาง บอร์ด สปส.

นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน สำนักงานประกันสังคม (บอร์ดใหญ่ประกันสังคม) ทีมประกันสังคมก้าวหน้า เปิดเผยถึงที่ประชุมในอนุฯ ประชาสัมพันธ์ เพื่อพิจารณาผลโหวตยกเลิกการผลิตปฏิทินประกันสังคม ว่า ตามผลสำรวจใน Google Forms นายจ้าง 66% ไม่ต้องการปฏิทิน ผู้ประกันตน 62% ไม่ต้องการปฏิทิน แต่สำนักงานฯ และประธานอนุฯประชาสัมพันธ์ ยืนยันว่ายังไงต้องผลิตปฏิทิน อนุกรรมการ ยกเลิกไม่ได้ บอร์ดยกเลิกไม่ได้ ไม่มีมนุษย์ที่ใดบนโลกนี้ยกเลิกได้ ต้องผลิตเท่าเดิมทุกประการ

ทีมประกันสังคมก้าวหน้าทำเต็มที่เพื่อยกเลิกงบประมาณ 50 ล้านบาทเพื่อไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น เพื่อผู้ประกันตน จากเดิมคิดว่าไม่มีอะไร ตอนนี้เริ่มสงสัยว่า เหตุใดสำนักงานประกันสังคมถึงรักปฏิทิน ถึงขั้นมองข้ามผลโหวตของ นายจ้างและผู้ประกันตน จากนี้ "ล้างบาง" คำเดียว

เปิดตัวเลขงบประมาณ "ผลิตปฏิทิน" ย้อนหลัง 10 ปี

จากรายงานของกรุงเทพธุรกิจ ได้เผยข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ "ผลิตปฏิทิน" ย้อนหลังกลับไประหว่างปี 2558-2568 หรือ 10 ปีงบประมาณ พบว่า มีการจัดซื้อจัดจ้างแทบทุกปี โดยผู้ชนะการเสนอราคา 6 ใน 10 ครั้งดังกล่าวคือ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษ หรือวิธีเฉพาะเจาะจง

รวมวงเงินประมาณ 597.44 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • ปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 54.89 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 54.90 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2566 ไม่พบในฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างว่ามีการผลิตปฏิทิน
  • ปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 54.97 ล้านบาท และมีการว่าจ้างชุมนุมสหกรณ์การเกษตรฯ จัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม โดยวิธีเฉพาะเจาะจงอีก 3.99 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 54.31 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2563 ไม่พบการผลิตปฏิทิน แต่มีการว่าจ้าง ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรฯ ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ (โปสเตอร์) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 3.91 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2562 ในปีนี้ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรฯ มิได้จัดทำปฏิทิน โดย สปส.ดำเนินการประกวดราคาจ้างจัดทำปฏิทินประกันสังคม ประจำปี 2562 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ผู้ชนะการเสนอราคาคือ บริษัท ยูไนเต็ด โปรดักชั่น เพรส จำกัด วงเงิน 53,448,640 บาท
  • ปีงบประมาณ 2561 วงเงิน 76 ล้านบาท และมีการว่าจ้างผลิตครั้งที่ 2 ดำเนินการผลิตปฏิทินแบบแขวนและแบบตั้งโต๊ะ จำนวน 1,285,000 ฉบับ ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงิน 24,210,750 บาท
  • ปีงบประมาณ 2560 วงเงิน 75,905,800 บาท
  • ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 75.91 ล้านบาท
  • ปีงบประมาณ 2558 วงเงิน 75.91 ล้านบาท

ทั้งนี้พบว่าในเส้นทางการแจกจ่ายปฏิทินเหล่านี้ มีปฏิทินของ สปส.บางส่วน ถูกนำไปขายบนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์หลากหลายราคา ทำให้มีการประเมินกันว่า อาจมีเจ้าหน้าที่ของ สปส.นำปฎิทินดังกล่าวไปขายหรือไม่ หากนำไปขายจริง แล้วเงินที่ขายได้เข้ากระเป๋าของใคร 

อนาคตของโครงการนี้ยังไม่แน่นอน และอาจมีการยุติหรือลดขนาดโครงการหากเสียงคัดค้านยังคงหนักแน่นต่อเนื่อง สาธารณชนต่างรอติดตามว่าการจัดทำปฏิทินของ สปส.จะได้รับการปรับปรุงหรือยกเลิกในอนาคตหรือไม่ ท่ามกลางความคาดหวังให้เกิดความโปร่งใสและคุ้มค่าในการใช้งบประมาณกองทุนประกันสังคมมากยิ่งขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related