แรงงานกัมพูชา เลือกอยู่ไทยต่อ เพราะมั่นคงกว่า ไทยรับมือยังไง หากฮุนเซนดึงกำลังเดินทางไป!มาตุภูมิ

“สมเด็จฮุนเซน” ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เรียกร้องให้แรงงานกัมพูชาในไทยกลับประเทศ พร้อมประกาศว่าเตรียมงานไว้รองรับแล้ว 230,000 ตำแหน่ง ท่ามกลางข้อพิพาทชายแดนยังไม่คลี่คลายลง ทั้งยังมีรายงานว่าผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญเตรียมรถบัสกว่า 400 คันเพื่อรองรับการเดินทางกลับของแรงงานแล้ว

ขณะเดียวกัน แรงงานกัมพูชาในไทยทยอยออกมาเปิดเผยความในใจ แน่นอนว่ามีความเห็นออกมาหลากหลาย มีทั้งคนที่รู้สึกว่างานฝั่งไทยมีความมั่นคงกว่าในบ้านเกิด หลายคนตั้งรกราก มีครอบครัว อยู่ที่นี่กันแล้ว และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากกลับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประกาศจากฝั่งไทยเรื่องการเนรเทศแรงงานกัมพูชา

แรงงานกัมพูชามีอยู่ในไทยมีอยู่เท่าไร ?

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานระบุว่า ปัจจุบัน มีแรงงานกัมพูชาในไทยอยู่ราว 5 แสนคน แบ่งได้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. แรงงานตามมติครม. ได้รับใบอนุญาตแล้ว 40,942 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 154,607 คน 2. แรงงานที่ได้รับอนุญาตตามมติ ครม. (จดทะเบียนไม่ถูกต้อง) 110,771 คน 3. แรงงานแบบไป-กลับ 184,810 คน 4. แรงงานที่เข้ามาทำงานตาม MOU 184,810 คน

ขณะที่ข้อมูลจากโฆษกกระทรวงแรงงานและฝึกอบรมอาชีวศึกษากัมพูชา (MLVT) เผยว่า จำนวนแรงงานกัมพูชาที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศมีอยู่ราว 1,356,616 คน หญิง 552,851 คน ชาย 803,765 คน โดยกว่า 93% ทำงานอยู่ในไทย

อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบกับแรงงานข้ามชาติในไทยในกลุ่มประเทศ CLMV พบว่า แรงงานเมียนมามีมากที่สุด 1,198,920 คน ถัดมาคือแรงงานกัมพูชา 5 แสนคน อันดับสามได้แก่ แรงงานลาว 225,976 คน และสุดท้ายคือ เวียดนาม 9 คน (ยังไม่รวมที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย)

แล้วรู้ไหมว่าจังหวัดใดมีแรงงานต่างด้าวมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 774,587 คน 2. สมุทรสาคร 288,977 คน 3. สมุทรปราการ 233,753 คน 4. ชลบุรี 198,133 คน 5. ปทุมธานี 178,679 คน

ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอะไร ?

กลับมาที่แรงงานกัมพูชา ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน รายงานว่า ส่วนใหญ่แล้วแรงงานกัมพูชาในไทยประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมก่อสร้างมากที่สุด ถัดมาคือภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ เกษตรและปศุสัตว์ ผลิตหรือจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ลดหลั่นกันไปในจังหวัดต่าง ๆ

จังหวัดตราด แม้ไม่ติดท็อปจังหวัดที่มีแรงงานกัมพูชามากสุดในไทย แต่เป็นกรณีชี้ที่ชี้ให้เห็นว่าแรงงานเหล่านี้มีความสำคัญกับธุรกิจในพื้นที่ จังหวัดตราดเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังชายแดนอำเภอเกาะกง ประเทศกัมพูชา

มีการเดินทางข้ามไปมาระหว่าง 2 ฝั่ง มีการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ รวมถึงกิจการท่าเรือที่สำคัญในการขนส่งสินค้าและอาหารทะเลแช่แข็ง เหล่านี้ล้วนพึ่งพาแรงงานกัมพูชาทั้งสิ้น ส่วนผู้หญิงจำนวนไม่น้อยก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมประมง เพื่อหาเงินอีกทางหนึ่ง

ในแง่ของรายได้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยสารคามพบว่าแรงงานกัมพูชากว่า 74% มีรายได้เพียงพอ และอีก 26% (กรณีศึกษาเฉพาะกลุ่ม) มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ กลุ่มหลังมักมีอาชีพเสริมคือการคัดปลา และนำไปขายที่ตลาด โดยค่าจ้างต่อวันเริ่มต้นที่ 166 - 310 บาทต่อวัน

และเมื่อได้เงินมาแล้ว ส่วนใหญ่มิได้ส่งเงินกลับบ้าน เก็บเงินไว้ใช้จ่าย เพราะล้วนมีครอบครัวและตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศไทยกันหมดแล้ว แต่มีบางส่วนที่ยังโอนเงินกลับไปให้ครอบครัวที่กัมพูชา

“แรงงาน” กลายเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ไทยควรเตรียมตัวรับมืออย่างไร

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานองค์การนายจ้างผู้ประกอบการการค้าและอุตสาหกรรมไทย ให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจว่า นี่คือเกมการต่อรองในเชิงจิตวิทยาทางการเมืองมากกว่าความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะออกมาในรูปแบบไหน ไทยเตรียมพร้อมรับมือ ทั้งภาคแรงงานและอุตสาหกรรม

ฉากทัศน์นี้ ไม่มีใครทราบได้แน่นอนว่าแรงงานกัมพูชาจะตัดสินใจอยู่ต่อหรือกลับประเทศ และกลับประเทศแล้วตำแหน่งงานฝั่งกัมพูชาจะมีเพียงพอสำหรับแรงงานในไทยหลายแสนคนหรือไม่ ซึ่งนายธนิต มองว่าต้องดูกันยาว ๆ

อย่างไรก็ตาม ไทยควรเตรียมรับมือ เช่น เปิดรับแรงงานจากประเทศอื่นเข้ามาทดแทนได้ทันทีหากกัมพูชาดึงแรงงานกลับไปจริง ๆ เช่น เมียนมา จำนวน 500,000 คน ถือว่าน้อยเพราะชาวเมียนมาต้องการเข้ามาทำงานในไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รวมถึงพิจารณาแรงงานจากประเทศอื่น ๆ ด้วย

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, khmertimesskh

ข่าวที่เกี่ยวข้อง