ครม.อนุมัติ ติดโซลาร์ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 2 แสน ผลงาน "ประเสริฐ" ริเริ่ม

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพิจารณาอนุมัติแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนด้วยมาตรการทางภาษี ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่

1. การส่งเสริมการลงทุนและการปรับเปลี่ยนครื่องจักร อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุเพื่อการอนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการทางภาษี โดยสามารถหักทำใช้จ่าย/ รายจ่ายในการซื้อหรือการลงทุนในทรัพย์สินประเภทวัสอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ จำนวน 1.5 เท่าของรายจ่ายจริง 
2. การส่งเสริมการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar rooftop) ในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี โดยสามารถนำเงินลงทุนในการติดตั้งระบบ Solar rootop มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมตา ในวงเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

อย่างไรก็ตามสำหรับแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนด้วยมาตรการทางภาษี ได้ดำเนินมาตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2566 สมัยที่นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ยังเป็นอธิบดี พพ. โดยได้ส่งหนังสือไปหากรมสรรพากร เรื่องขอเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์และวัสดุเพื่ออนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการภาษี ต่อมาได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างอธิบดี พพ. และอธิบดีกรมสรรพากร โดยเห็นชอบร่วมกันในแนวทางส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ด้วยมาตรการภาษี จนนำมาสู่การที่ ครม. อนุมัติในวันนี้
 

เปิดไทม์ไลน์โซลาร์ประชาชนลดหย่อนภาษี

• 24 ก.ค. 66 พพ. ส่งหนังสือไปหากรมสรรพากร เรื่องขอเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมเครื่องจักร อุปกรณ์และวัสดุเพื่ออนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการภาษี
• 8 ส.ค. 66 ประชุมร่วมกันระหว่างอธิบดี พพ. และอธิบดีกรมสรรพากร โดยเห็นชอบร่วมกันในแนวทางส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ด้วยมาตรการภาษี
• 22 ส.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
• 1 ก.ย. 66 นายพีระพันธุ์ เริ่มดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
• 11 ก.ย. 66 รัฐบาลนายกฯเศรษฐาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

 ดังนั้น เห็นได้ชัดว่า พพ. เป็นผู้ริเริ่มมาตรการ Solar ประชาชนลดหย่อนภาษี มาตั้งแต่ 24 ก.ค. 66 ซึ่งเริ่มมาก่อนที่นายพีระพันธุ์ จะเริ่มดำรงตำแหน่ง และก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบาย