เปิดชัดๆ “หากกัมพูชาตัดสัมพันธ์ทูตกับไทย ใครเจ็บกว่ากัน?”

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชานั้นแน่นแฟ้น โดยเฉพาะในมิติทางเศรษฐกิจ หากเกิดสถานการณ์สมมติที่กัมพูชากับไทยตัดความสัมพันธ์กันอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบที่จะตามมานั้นจะหนักหนาแค่ไหน

ไทยเป็นบ้านของแรงงานกัมพูชา 5 แสนคน 

แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทยมากกว่า 1.2 ล้านคนส่งเงินกลับประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 103,000 ล้านบาทต่อปี หากต้องเดินทางกลับกะทันหัน จะไม่เพียงแต่ทำให้รายได้ส่วนนี้หายไป แต่ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อระบบแรงงานภายในประเทศ เสี่ยงต่อภาวะว่างงานและความยากจนในระดับครัวเรือนอย่างกว้างขวาง

กัมพูชาใช้สินค้าจากไทยจนเป็นเรื่องปกติ

ในด้านเศรษฐกิจ กัมพูชาจะได้รับผลกระทบหนักจากการหยุดชะงักของการค้า โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี สินค้าจำเป็นอย่างอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และชิ้นส่วนเครื่องจักร หากขาดแหล่งนำเข้าเหล่านี้จะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนและราคาพุ่งสูงทันที

ไทยเป็นแหล่งพลังงานสำคัญหล่อเลี้ยงกัมพูชา

ในด้านพลังงาน แม้กัมพูชาพยายามลดการพึ่งพาไทย แต่การเชื่อมโยงระบบสายส่งยังคงมีอยู่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะตามแนวชายแดน หากการตัดสัมพันธ์ทำให้ต้องยุติความร่วมมือ อาจเกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าและโครงการพัฒนาร่วมในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลก็ต้องชะงักลง

ชาวกัมพูชาลี้ภัยมาไทยตั้งแต่สมัยเขมรแดงจนถึงปัจจุบัน

ผลกระทบทางสังคมก็รุนแรงไม่แพ้กัน การเดินทางกลับของแรงงานจำนวนมากจะสร้างปัญหาสิทธิมนุษยชน การว่างงาน และภาระทางสังคม  ความร่วมมือด้านการศึกษา สาธารณสุข และวัฒนธรรมต้องยุติลง ซึ่งถือเป็นการสูญเสียโอกาสในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการสร้างความเข้าใจกันระหว่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ‘กัมพูชา’ส่งเสริมนักลงทุนต่างชาติ ใช้กลไกตลาดกำหนดราคา 
• พรรคไทรวมพลัง ร่วมกับกองทัพ สร้าง “ปราการแนวหน้า” ป้องกันชายแดน
• สรวงศ์ ยืนยัน นายกอิ๊ง “ไม่ลาออก - ไม่ยุบสภา” ลุยต่อแก้วิกฤตประเทศ