ระเบิดกัมพูชาลงกลางบ้าน! ชาวบ้านน้ำยืนเสียบ้านทั้งหลัง เล่านาทีระทึกบ้านระเบิดต่อหน้า ธุรกิจร้านค้าเสียหายทั้งหมด ยังไม่รู้อนาคตจะทำอย่างไรต่อ
วันที่ 24 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าว Spring News รายงานจาก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังลงพื้นที่พบนายบุญร่วม ทองวิเศษ อายุ 58 ปี ที่ประสบเหตุบ้านพักอาศัยถูกกระสุนระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ลอยมาระเบิดที่กลางตัวบ้านจำนวน 1 ลูก ทำให้บ้านทั้งหลังได้รับความเสียหาย เมื่อประมาณช่วงสายที่ผ่านมา
นายบุญร่วม กล่าวว่า ขณะนั้นเป็นเวลากลางวันที่คนในบ้านต่างออกไปทำไร่ทำนา ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านพอดี แต่ภรรยาได้ยินเสียงการสู้รบจากบริเวณแนวชายแดน จึงรีบขับรถกลับมาที่บ้านหวังจะเก็บข้าวของมีค่าและสิ่งของสำคัญเพื่ออพยพหนีไปนอกพื้นที่ แต่ในจังหวะที่เปิดรถเพื่อจะลงที่บ้านนั้น ก็พบว่ามีกระสุนระเบิดลอยมาทะลุหลังคาสังกะสี และเจาะเข้ากับพื้นบ้าน ก่อนจะระเบิดออก ทำให้บ้านทั้งหลังได้รับความเสียหาย โดยลูกสาวของตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเศษกระจก และรถยนต์ได้รับความเสียหายกระจกแตก
“หน้าบ้านเพิ่งลงทุนประมาณ 1 แสนบาท ทำเป็นร้านขายของชำ เสียหายทั้งหมด พื้นที่ตรงนี้เมื่อคืนครอบครัวยังนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่เลย วันนี้ไม่เหลือสภาพแล้ว โชคดีไม่ตาย นี่ถ้าระเบิดมันตกมาตอนกลางคืนที่มีคนนอนอยู่เต็มบ้าน ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นยังไง” นายบุญร่วม กล่าว
ขณะที่นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ กังฟู หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง ในฐานะคน อ.น้ำยืน ได้แสดงความเป็นห่วงและขอร้องให้นายบุญร่วมเดินทางออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทะขึ้นอีกในช่วงคืนนี้หรือวันพรุ่งนี้ แต่นายบุญร่วมยืนยันว่าจะขออยู่เฝ้าทรัพย์สินมีค่า เป็นห่วงบ้าน ตนอยู่ได้เพราะเคยฝึกร่วมกับทหารมาก่อน
“อยากให้พี่น้องเป็นห่วงชีวิตของตัวเองมากกว่าทรัพย์สิน เพราะชีวิตของเรานั้นมีค่ามากที่สุด สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่กลับมาเป็นปกติ จึงอยากให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่จุดเสี่ยงทั้งหมดอพยพออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อน ส่วนเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านจะช่วยประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป“ นายวสวรรธน์ กล่าว
ขณะที่นางวาสนา คำโส นายก อบต.โดมประดิษฐ์ กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลจัดงบประมาณเพื่อซ่อมแซมบ้านและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสู้รบในครั้งนี้ด้วย เพราะท้องถิ่นไม่ได้มีเงินมากพอ ตอนนี้ทุกคนที่หน้างานกำลังทำงานกันอย่างหนัก เสียดายที่รัฐบาลแจ้งเตือนผู้นำท้องถิ่นช้าเกินไปทำให้การอพยพประชาชนมีความวุ่นวายเล็กน้อย