svasdssvasds

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลัง OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเดือนหน้า

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลัง OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเดือนหน้า

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชียในวันจันทร์ หลังจากกลุ่ม OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มการผลิตอีกครั้งในเดือนกันยายน

SHORT CUT

  • ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิต
  • โดยโอเปกพลัสจะเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 547,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดคืน

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชียในวันจันทร์ หลังจากกลุ่ม OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มการผลิตอีกครั้งในเดือนกันยายน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้า  ลดลง 43 เซ็นต์ หรือ 0.62% อยู่ที่ 69.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ  อยู่ที่ 66.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ตกลงกันเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 547,000 บาร์เรลต่อวันสำหรับเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นครั้งล่าสุดในการเร่งเพิ่มการผลิตเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดคืนมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์ของรัสเซีย

โดยสมาชิกโอเปกพลัส 8 ประเทศได้จัดการประชุมทางไกลสั้นๆ ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ต่ออินเดียให้ระงับการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการกดดันให้รัสเซียยอมเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน ภายในวันที่ 8 สิงหาคม

ราคาน้ำมันดิบร่วงหลัง OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเดือนหน้า

ในแถลงการณ์หลังการประชุม โอเปกพลัสได้ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำซึ่งเป็นเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจเพิ่มการผลิตดังกล่าว โดยพิจารณาจากราคาน้ำมันที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้ทางกลุ่มมีความมั่นใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานของตลาดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 8 ประเทศมีกำหนดจะเข้าร่วมการประชุมพร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 7 กันยายน เพื่อประเมินสถานการณ์และอาจพิจารณากลับมาลดกำลังการผลิตอีกครั้ง ขณะที่ทุกฝ่ายจับจ้องไปที่การตัดสินใจของทรัมป์เกี่ยวกับรัสเซียในวันศุกร์นี้

ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกพลัสซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งโลก ได้ลดกำลังการผลิตมาหลายปีเพื่อพยุงราคาน้ำมัน แต่ในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนนโยบายเพื่อพยายามกอบกู้ส่วนแบ่งตลาด โดยส่วนหนึ่งได้ได้รับแรงกระตุ้นจากเสียงเรียกร้องของทรัมป์ให้เพิ่มกำลังการผลิต