แม่คน VS แม่หมาแมว แม่ยุคใหม่ ต้องขับเคลื่อนด้วยเงินเท่านั้น!

พรุ่งนี้ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติเข้ามาทุกที จะนึกถึงคำว่าแม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง เพราะ…ว่าไม่ว่าจะแม่อะไรก็ล้วนแต่เป็นผู้ให้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่คนแม่หมาแม่แมว แต่การเป็นแม่ก็ต่างกันออกไปตามยุคตามสมัย ตามบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป รวมถึงนวัตกรรม และเทคโนโลยีก็มีส่วนทำให้การเป็นคุณแม่ในยุคใหม่ก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน และต้องปรับตัวมากพอสมควร เพราะทุกอย่างในยุคนี้ต้องขับเคลื่อนด้วยคำว่าเงิน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสูง ทำให้คนไทยรุ่นใหม่ไม่อยากลูก และไม่อยากเป็นคุณ

 

ข้อมูลจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานว่า ปี 2568 ประเทศไทยยังคงเผชิญปัญหาประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เริ่มชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 2560 สาเหตุหลักมาจากอัตราการเกิดต่ำ โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จำนวนเกิดใหม่ต่อปีต่ำกว่า 5 แสนคนขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าทำให้เป็นอัตราเกิดติดลบ แถมยังเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบสัดส่วนผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเกิน 20% ของประชากรทั้งหมด

นอกจากนี้ยังเผชิญกับปัญหาวัยแรงงานลดลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การผลิต และฐานภาษี อีกทั้งคนรุ่นใหม่แต่งงานช้า หรือ ไม่แต่งงาน และเลี่ยงการมีบุตรเพราะภาระค่าครองชีพสูง และมีการย้ายถิ่นฐาน โดยคนวัยทำงานบางส่วนไปทำงานต่างประเทศ ทั้งนี้ UN World Population Prospects คาดว่า ปี 2568 ประชากรไทยจะเหลือราว 66.4 ล้านคน ลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อปี 2562 ที่ประมาณ 66.8 ล้านคน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในทศวรรษหน้า

สาเหตุที่ทำให้ประชากรไทยลดลง มุมมองคนรุ่นใหม่ ยังมีอีกว่า ค่าครองชีพแพงขึ้น ทั้งค่าบ้าน ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าเลี้ยงดูและการศึกษาของเด็กสูงมาก ทำให้คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นภาระระยะยาว บางรายงานไม่มั่นคง หรือรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพความมีกดดันด้านอาชีพและการเงิน  แถมคนรุ่นใหม่ไลฟ์สไตล์และค่านิยมเปลี่ยนไป  ให้ความสำคัญกับอิสระและเวลาส่วนตัว ชื่นชอบใช้เวลาในการท่องเที่ยว ทำงานอดิเรก หรือพัฒนาตนเองและมองว่าการไม่มีลูกทำให้ใช้ชีวิตได้ยืดหยุ่นกว่า

นอกจากนี้ยังมีความกังวลปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมมีความกังวลต่อภาวะโลกร้อน มลพิษ และความไม่มั่นคงทางสังคม แถมยังกลัวว่าลูกจะต้องเติบโตในโลกที่คุณภาพชีวิตแย่ลง และมีปัญหาสุขภาพ การมีบุตรยาก อายุเฉลี่ยที่แต่งงานช้าลงมีความเครียดจากชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกไม่พร้อมมีลูก ไม่เพียงเท่านี้คนรุ่นใหม่ยังมีมุมมองต่อการเป็นพ่อแม่รับรู้ว่าการเลี้ยงลูกต้องใช้ทั้งเวลา พลัง และความรับผิดชอบมากเห็นตัวอย่างคนรอบข้างที่เลี้ยงลูกแล้วเหนื่อยหรือมีปัญหาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกได้ดี

แต่...หากจะโฟกัสไปที่ประเด็นการเป็นคุณแม่ในยุคนี้ ทั้งแม่คน และแม่น้องหมาน้องแมว บอกได้คำเดียวว่ามีค่าใช้จ่ายพอสมควร สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการรายงานผลสำรวจค่าใช้จ่ายตลอดชีวิตของเด็กไทย พร้อมระบุว่าการเลี้ยงลูกจนจบมหาวิทยาลัยใช้เงินเฉลี่ย 1.5–3 ล้านบาท สอดคล้องกับธนาคารโลก หรือ World Bank)  เผยแพร่งานวิจัยด้านต้นทุนการเลี้ยงดูลูกในประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย ชี้ว่าค่าครองชีพและการศึกษาเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ด้าน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และการคลอดในโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน และค่าใช้จ่ายวัคซีนเสริม ดังนี้ ค่าฝากครรภ์โรงพยาบาลรัฐ 3,000–10,000 บาท และเอกชน 15,000–40,000 บาท ค่าคลอดรพ.รัฐ: 5,000–20,000 บาท และ รพ.เอกชน: 60,000–150,000 บาท (หรืออาจสูงกว่านี้ถ้ามีภาวะแทรกซ้อน) นอกจากนี้อุปกรณ์เสริม เช่น วิตามิน, ชุดคลุมท้อง , อัลตราซาวด์พิเศษรวมแล้วหลายหมื่นบาท

ส่วนค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็กปีแรก

• นมผง/นมแม่เสริม: 3,000–6,000 บาท/เดือน
• ผ้าอ้อมสำเร็จรูป: 2,000–4,000 บาท/เดือน
• ของใช้เด็กอ่อน (เตียง, รถเข็น, ขวดนม ฯลฯ) 20,000–60,000 บาท/ครั้ง
• วัคซีนเพิ่มเติมนอกเหนือจากสิทธิ์รัฐ 10,000–30,000 บาท/ปี

ค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลัง 1 ขวบขึ้นไป

• เด็กเล็กในเมืองใหญ่ถ้าเข้า เนอสเซอรี่/โรงเรียนอนุบาลเอกชนอยู่ที่ 5,000–25,000 บาท/เดือน
• ค่าอาหาร, ของใช้, กิจกรรมเสริมพัฒนาการ: 3,000–10,000 บาท/เดือน

ค่าใช้จ่ายจนถึงบรรลุนิติภาวะ

• งานวิจัยของธนาคารโลก ประเมินว่า การเลี้ยงดูลูก 1 คนในไทยจนจบมหาวิทยาลัย อาจใช้เงิน 1.5–3 ล้านบาท
• ถ้าเป็นครอบครัวในเมืองที่ใช้บริการเอกชนมากอาจพุ่ง 4–6 ล้านบาท

ส่วนใครที่อยากเป็นคุณแม่ น้องหมา น้องแมว ในปัจจุบันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงพอสม โดย สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA) เผยว่า

การเลี้ยงน้องหมามีค่าใช้จ่าย ดังนี้

• ค่าอาหาร

อาหารเม็ดเกรดทั่วไป 800–1,500 บาท/เดือน (สุนัขเล็ก)

อาหารพรีเมียม หรือสูตรพิเศษ 1,500–3,000 บาท/เดือน

ขนม/ของเล่นเสริม 200–500 บาท/เดือน

• ค่าดูแลสุขภาพ

วัคซีนประจำปี: 500–1,500 บ./ครั้ง

ยาถ่ายพยาธิ/ยากันเห็บหมัด 200–500 บาท/เดือน

ค่าหมอกรณีเจ็บป่วย เริ่ม 500 บาท ถึงหลักพันต่อครั้ง

• ค่าอุปกรณ์

กรง , ที่นอน ,สายจูง, ชามอาหาร 1,000–3,000 บาท (ซื้อครั้งแรก)

อุปกรณ์อาบน้ำ-แชมพู: 150–300 บ./เดือน

• ค่าตัดแต่งขน/อาบน้ำ

อาบน้ำ-ตัดขน: 300–800 บาท/ครั้ง (เดือนละครั้งหรือสองครั้ง)

การเลี้ยงน้องแมวมีค่าใช้จ่าย ดังนี้

• ค่าอาหาร

อาหารเม็ดเกรดทั่วไป 500–1,000 บาท/เดือน

อาหารเปียก หรือพรีเมียม 1,200–2,500 บาท/เดือน

ขนมแมวเลีย/ของเล่น 100–300 บาท/เดือน

• ค่าทรายแมว

ทรายภูเขาไฟ/เบนโทไนต์ 200–500 บาท/เดือน

• ค่าดูแลสุขภาพ

วัคซีนประจำปี 400–1,200 บาท/ครั้ง

ยาถ่ายพยาธิ/กันเห็บหมัด 100–300 บาท/เดือน

ค่าหมอกรณีเจ็บป่วย 500–3,000 บาท/ครั้ง

• ค่าอุปกรณ์

กระบะทราย , คอนโดแมว , ชามอาหาร 1,000–3,000 บาท (ซื้อครั้งแรก)

ทั้งหมด คือเรื่องราวของคำว่า "แม่" รับวันแม่แห่งชาติ2568 ที่แม่ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแม่คน แม่น้องหมา น้องแมว ก็ต้องมีความเรื่องค่าใช้จ่าย และจะต้องเป็นแม่เมื่อ..พร้อม!!!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คนเลี้ยงหมาแมว เตรียมฝังไมโครชิบให้สัตว์เลี้ยง

• เนชั่นทีวี ร่วมกับ ไทยนิวส์ จัดงานวิ่ง รวมพลคนรักหมาแมว

• วันแม่ 2567 ต้อนรับวันแม่ โดยการปกป้องแม่-ลูกจากมิจฉาชีพทางไซเบอร์