SHORT CUT
PEA เดินหน้าเร่งขยายเขตไฟฟ้า ให้ ‘ครัวเรือนรายใหม่’ ไม่มีไฟใช้-อยู่ห่างสายไฟเดิม ด้าน UGT2 อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว แบบเจาะจงแหล่งมา จะให้บริการในเร็วๆ นี้
PEA เดินหน้าเร่งขยายเขตไฟฟ้า ให้ ‘ครัวเรือนรายใหม่’ ไม่มีไฟใช้-อยู่ห่างสายไฟเดิม ด้าน UGT2 อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว แบบเจาะจงแหล่งมา จะให้บริการในเร็วๆ นี้
ไฟฟ้าที่ส่องแสงสว่างช่วงให้เศรษฐกิจไทย ความเป็นอยู่ของคนไทยได้โชติช่วงชัชวาลอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ส่วนเล็กๆในประเทศของเราที่ยังเข้าไม่ถึงไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อีกหนึ่งเฟืองสำคัญที่จะช่วยให้พื้นที่เหล่านั้นได้เข้าถึงการให้บริการไฟฟ้า เพราะไฟฟ้าคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนไทยควรจะเข้าถึง ดังนั้น PEA จึงได้เร่งทำงานเพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงไฟฟ้ามากที่สุด โดย ดร.มงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แถลงผลการดำเนินงาน เนื่องในโอกาสการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคครบรอบ 65 ปี 28 กันยายน 2568
ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้เริ่มต้นจากการบุกเบิกนำไฟฟ้าสู่ประชาชน เร่งรัดพัฒนาไฟฟ้าสู่ชนบทส่งเสริมความเจริญสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมจนสามารถขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงในพื้นที่รับผิดชอบ 74 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ) พัฒนาองค์กรเพื่อก้าวสู่ระดับสากลในธุรกิจพลังงาน พัฒนาคุณภาพระบบไฟฟ้าและการบริการ ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า สร้างคุณค่าสู่สังคม สิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
โดยจะขับเคลื่อนองค์กรสู่ Digital Utility พร้อมพัฒนาปรับเปลี่ยนด้านพลังงานตามความต้องการของลูกค้า ยกระดับโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัยรองรับพลังงานสะอาดและเดินหน้าบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ “ไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” (Smart Energy for Better Life and Sustainability)
PEA มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
การดำเนินการด้านธุรกิจ PEA Climate Solution
ยกระดับการบริการ
-PEA VOLTA เป็นสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าของ PEA เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันให้บริการแล้ว มากกว่า 400 สถานีทั่วประเทศ PEA มีแผนจะลงทุนเพิ่มปีละประมาณ 100 สถานี ในพื้นที่ที่เหมาะสม
-VOLTA CONNEXT ให้บริการ Platform ระบบบริหารจัดการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า แก่ผู้ประกอบการอื่นๆ มาใช้ระบบ PEA Volta โดยผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนพัฒนาแอปพลิเคชันเอง เพื่อช่วยบริหารจัดการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-VOLTA FLEET บริการระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่มองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร ซึ่งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและกระจายวงเงินการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้ความสะดวกสบายจากการชาร์จผ่าน Auto Charge หรือใช้บัตร RFID โดยไม่ต้องโหลดแอป และสามารถตรวจสอบการใช้งานของรถอย่างถูกต้องแม่นยำ
- PEA Smart Plus บริการครบจบใน APP เดียว อาทิ การขอใช้ไฟฟ้า ตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง แจ้งไฟฟ้าขัดข้อง คำนวณค่าไฟฟ้า ชำระค่าไฟฟ้าและชำระค่าบริการอื่นๆ ปัจจุบัน PEA พัฒนาเวอร์ชันใหม่ ที่สะดวก รวดเร็วและดูข้อมูลละเอียดมากขึ้น
- PEA e-Service บริการออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ PEA (www.pea.co.th) เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้า ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสำนักงาน เช่น ขอใช้ไฟฟ้า สอบถามประวัติการใช้ไฟฟ้า ขอรับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (PEA e-Bill) ขอรับบริการติดตั้ง PEA Solar และ ติดตามสถานะธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
- PEA LINE Official Account ภายใต้ชื่อ PEA Thailand เป็นช่องทางให้บริการตรวจสอบ แจ้งเตือน และชำระค่าไฟฟ้า แจ้งเตือนกระบวนการและสถานะการงดจ่ายไฟฟ้า มีริช เมนูที่เชื่อมต่อไปยังบริการอื่นๆ เช่น PEA e-Service และ 1129 PEA Contact Center
- Watt-D Point เป็นการสมัครและสะสมคะแนนผ่านแอปพลิเคชัน PEA Smart Plus เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้แก่ แลกรับเงินคืนค่าไฟฟ้าหรือแลกรับสิทธิพิเศษจากพาร์ทเนอร์ โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนสะสมตั้งแต่เริ่มสมัคร และยังได้รับคะแนนต่อเนื่อง ทั้งจาก “การชำระค่าไฟฟ้าภายในกำหนด” และ “การใช้บริการอื่นๆ ของ PEA”
ก้าวต่อไปของ PEA
โดยเป้าหมายแรกสู่การเป็น Digital and Green Grid และเป็นปีที่ PEA จะเร่งเครื่องสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างแท้จริง หรือ PEA Move to AI Organization เพื่อยกระดับ ความมั่นคง (Reliability), ประสิทธิภาพ (Efficiency) และ ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตอบโจทย์ยุคเปลี่ยนผ่านพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ โดย PEA มุ่งเน้นประเด็นสำคัญดังนี้
- AI Organization นำ AI เพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้าด้วยการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) แทนการรอให้เสียแล้วซ่อม และการบริการที่รวดเร็ว ผ่าน PEA Smart Plus และ LINE OA ช่วยให้ PEA บริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมในระยะยาว และช่วยให้ผู้ใช้ไฟวางแผนการใช้พลังงานเพื่อประหยัดค่าไฟของตนเองได้
- AI for Operations ใช้โดรนและ AI วิเคราะห์ภาพถ่ายต้นไม้ใกล้แนวสายไฟฟ้า เพื่อหาว่าเส้นทางใดที่ต้องทำการตัดต้นไม้ก่อน ส่วนสายส่งไฟฟ้าแรงสูง จะหาจุดชำรุดหรือจุดเสี่ยงโดยอัตโนมัติ ซึ่งลดทั้งความเสี่ยงของพนักงานและเพิ่มความแม่นยำ
- AI for Service PEA พัฒนา Chatbot อัจฉริยะรุ่นใหม่ ที่สามารถเข้าใจภาษาไทยที่ซับซ้อนและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้แบบเรียลไทม์
- AI for Efficiency and New Business ใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการภายใน ลดต้นทุน ยกระดับความโปร่งใส และต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในยุค Electricity 5.0
- AI for Grid พัฒนา AI พยากรณ์โหลด (Load Forecast) และพยากรณ์ปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้บริหารจัดการไฟฟ้าในระบบได้เสถียรยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามมองว่าการเป็น AI Organization จะสำเร็จได้ ต้องมีรากฐานที่มั่นคง คือ บุคลากรของ PEA ต้องมีการ "Upskill และ Reskill" พนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจด้านดิจิทัลและ AI เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มหาศาลให้มีคุณภาพ พร้อมใช้งาน และเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ โดย PEA กำลังทำแพลตฟอร์มข้อมูลกลาง เพื่อให้ AI สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ PEA จะลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงให้สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลและสร้างโมเดล AI ที่ซับซ้อนให้มีความปลอดภัย ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น รองรับการเติบโตในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงไฟฟ้าไทยยิ้มร่า! AI ดันยอดใช้ไฟพุ่ง 3-5 เท่าตัว-ลุยลงทุนเพิ่ม
PEA ไม่ได้งดจำหน่ายไฟฟ้าแก่กัมพูชา ส่วนกัมพูชาไม่ได้ใช้ไฟฟ้าไทยเช่นกัน
PEA คว้า 3 รางวัล Asia Responsible Enterprise Awards 6 ปีติดต่อกัน