SHORT CUT
กระทรวงการคลัง ลุยดัน ‘แม่ค้าขายหมูปิ้ง’หน้าซอยขายผ่านอีคอมเมิร์ซ เร่งฟื้นเศรษฐกิจให้เร็ว เห็นผลยาว คนละครึ่งเกิดแน่ ต.ค.นี้
ณ ตอนนี้คนไทยคาดหวังมากๆกับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในเร็วๆวันนี้ โดยเฉพาะ กระทรวงการคลัง ที่เสมือนเส้นเลือดใหญ่ของประเทศที่ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ล่าสุด นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประกาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้ากระทรวงการคลังเป็นวันแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยได้ประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ท่ามกลางการต้อนรับของผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง
พร้อมกันนี้ได้มอบนโยบายเร่งด่วนว่า กระทรวงการคลังมีแนวทางนโยบายเศรษฐกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี โดยจะมุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใต้หลักการ "Quick, Big, Win" คือ ต้องรวดเร็ว มีขนาดใหญ่พอ และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย หัวใจสำคัญของนโยบายคือ "ฟื้นสั้น มุ่งยาว" ซึ่งหมายถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ต้องคำนึงถึงผลดีในระยะยาวควบคู่กันไปด้วย เป้าหมายคือการฟื้นเศรษฐกิจให้เร็ว เพิ่มศักยภาพให้คนไทยสามารถหารายได้ได้มากขึ้น และกระจายประโยชน์ไปทั่วประเทศ โดยทั้งหมดนี้จะดำเนินการภายใต้กรอบเวลา 4 เดือน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมคือโครงการคนละครึ่ง Plus ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้หลังสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคมนี้ โครงการนี้ไม่เพียงแต่กระตุ้นการใช้จ่ายในระยะสั้น แต่ยังคำนึงถึงผลระยะยาว โดยผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าเพื่อจูงใจให้คนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนPlus ที่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพ (Reskill/Upskill) ของผู้ค้า โดยจะมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในเรื่องการทำบัญชีให้ง่ายขึ้น และส่งเสริมให้สามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (e-commerce) เพื่อขยายตลาดจากเดิมที่ขายได้เพียงในพื้นที่จำกัดการมีระบบบัญชีที่ดีจะช่วยให้ผู้ค้าเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
อันนี้เป็นนโยบายที่ท่านนายกมอบไว้ก็คือจะให้พ่อค้าแม่ค้าขายหมูปิ้งที่เคยขายได้แค่ในซอย ให้เขาสามารถไปขายเข้าสู่ระบบที่เรียกว่า e-commerce ขายบนออนไลน์ อาจจะขายได้ 10 ซอย หรือทั้งอำเภอก็จะพยายามทำให้ได้ ซึ่งคนละครึ่งพลัสจะเชื่อมยกระดับให้คนมีความสามารถมากขึ้น ศักยภาพมากขึ้น แล้วก็ในเรื่องบัญชีเนี่ยก็ไปเชื่อมต่อให้ครบทั้งวงจร ก็จะคุยกับสถาบันการเงิน ช่วยให้เขาก็จะรู้ว่าต้นทุนเขาเป็นเท่าไหร่ บริหารจัดการง่ายขึ้น ธนาคารเองก็จะยินดีที่จะปล่อยสินเชื่อ เราจะเน้นให้ฟื้นเศรษฐกิจให้เร็ว ให้ควิก และบิ๊ก และวิน ฟื้นสั้น มุ่งยาว ฟื้นสั้นคนละครึ่งมุ่งยาวยกระดับศักยภาพให้คนไทยเก่งขึ้น ให้เขามีความสามารถในการหารายได้ได้มากขึ้น แล้วก็กระจายตัวทั้งประเทศ อันนี้คือเรียกว่าเป็นโครงหลักของนโยบายเศรษฐกิจ
ในด้านการลงทุนและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ กระทรวงการคลังจะเน้นการปลดล็อกอุปสรรคเพื่อให้นักลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สามารถลงทุนได้จริง โดยจะปรับปรุงกฎเกณฑ์และขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ เช่น การขอใช้น้ำและไฟฟ้า ให้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ๆของประเทศให้เกิดขึ้นจริงภายใน 4 เดือน
รวมถึงการผลักดันโครงการด้าน พลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ลอยน้ำ (solar floating) และโซลาร์บนหลังคา (solar rooftop) ซึ่งได้มีการทำโครงการนำร่องไว้แล้ว และจะขยายผลไปทั่วประเทศ โดยได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว โครงการเหล่านี้สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณภาครัฐ
กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับ วินัยและธรรมาภิบาลทางการคลัง เป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยทุกนโยบายที่ออกมาจะมีการเปิดเผยข้อมูลต้นทุนและผลประโยชน์ (benefit cost) อย่างโปร่งใส พร้อมกันนี้จะมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ในส่วนที่ไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย และจะมีการปรับปรุง กรอบงบประมาณระยะปานกลาง (Medium-Term Fiscal Framework) ครั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้
โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่จะควบคุมการขาดดุลงบประมาณไม่ให้เกิน 3% ของ GDP ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด และจะทำให้เห็นผลจริง สำหรับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะมาจากงบประมาณเดิมที่มีอยู่ โดยไม่มีการเพิ่มงบประมาณปี 2569 แต่จะเน้นการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพและตรงเป้าหมายมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง