J.K. Rowling จากนักเขียนที่ทุกคนรัก สู่ผู้ขัดแย้งสิทธิคนข้ามเพศ

เจ.เค. โรว์ลิง (J.K. Rowling) เป็นที่รู้จักจาก Harry Potter เธอกลายเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลก นิยาย 7 เล่มถูกแปลหลายภาษาและทำรายได้ถล่มทลายจนต่อยอดเป็นภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ของเล่น

กระแสความนิยมดังกล่าวทำให้เธอเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนอ่านหนังสือ ความสำเร็จนี้ทำให้เธอมีทรัพย์สินมหาศาล และเธอใช้ส่วนหนึ่งในการก่อตั้งมูลนิธิ Volant Charitable Trust สนับสนุนหลายองค์กรที่ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก รวมทั้งบริจาค 10 ล้านปอนด์ให้กับศูนย์วิจัยภาวะปลอกประสาทเสื่อมที่ตั้งขึ้นในชื่อของแม่ของเธอ  ในปี 2022 โรว์ลิงยังร่วมก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศในเอดินบะระชื่อ Beira’s Place

แม้จะเป็นที่รักในฐานะนักเขียน แต่โรว์ลิงได้ก้าวเข้าสู่ประเด็นการเมืองเรื่องเพศในช่วงไม่กี่ปีหลัง เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อเดือนธันวาคม 2019 เธอทวีตสนับสนุน มายา ฟอร์สเตเตอร์ ซึ่งถูกเลิกจ้างหลังโพสต์ข้อความว่า “ผู้หญิงข้ามเพศไม่สามารถเปลี่ยนเพศกำเนิดได้  ข้อความดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเธอลดทอนความเป็นผู้หญิงข้ามเพศ แต่โรว์ลิงตอบโต้ว่า เธอรู้จักและรักคนข้ามเพศแต่เธอไม่อาจนิยามเพศได้จากความรู้สึก

“เหตุผลที่ เจ.เค. โรว์ลิง กังวลต่อกระแสคนข้ามเพศ”

ในบทความยาวบนเว็บไซต์ของเธอ (มิถุนายน 2020) โรว์ลิงอธิบาย 5 สาเหตุ ที่ทำให้เธอกังวล ได้แก่  

1. ประสบการณ์ส่วนตัว – โรว์ลิงเปิดเผยว่าเธอเป็นผู้รอดชีวิตจากการถูกทำร้ายทางเพศและความรุนแรงในครอบครัว จึงเขียนเพื่อลดทอนความเงียบของผู้หญิงที่มีประสบการณ์เช่นเดียวกัน
2. ความเห็นใจต่อคนข้ามเพศ – เธอย้ำว่าเห็นใจและต้องการให้คนข้ามเพศมีความปลอดภัย แต่มีความกังวลต่อผลกระทบของนโยบาย “เปิดห้องน้ำ/ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตามการระบุเพศสภาพ”
3. ความปลอดภัยของผู้หญิง – เธอเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้เด็กสาวและผู้หญิงที่เกิดเป็นเพศหญิงไม่ปลอดภัย
4. วิจารณ์การปฏิรูปกฎหมาย - โรว์ลิงกังวลต่อร่างกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้ชายสามารถขอใบรับรองการเปลี่ยนเพศได้เพียงแค่การประกาศตัว โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือรับฮอร์โมน
5. ห่วงเด็กผู้หญิง - เธอเป็นห่วงจำนวนเด็กสาวที่เร่งรีบขอเปลี่ยนเพศและกรณีที่ภายหลังเสียใจกับการตัดสินใจ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าหากเธอเกิดในยุคนี้ อาจถูกโน้มน้าวให้เปลี่ยนเพศเพื่อตอบสนองความคาดหวังของพ่อที่อยากได้ลูกชาย

ท่าทีของโรว์ลิงทำให้หลายคนเรียกเธอว่า TERF ที่แปลว่า เฟมินิสต์สายหัวรุนแรงที่กีดกันคนข้ามเพศ แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้เกลียดและเห็นว่าคนข้ามเพศควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและความปลอดภัย แต่สิทธิของพวกเขาไม่ควรละเมิดสิทธิของผู้หญิงที่เกิดเป็นเพศหญิง

“จุดแตกหักกับนักแสดง Harry Potter” 

การที่โรว์ลิงมีจุดยืนเช่นนี้ กลายเป็นชนวนให้เกิดความร้าวฉานกับบรรดานักแสดงนำจากภาพยนตร์ Harry Potter ที่ครั้งหนึ่งเคยร่วมงานกับเธออย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะแดเนียล แรดคลิฟฟ์ (รับบท แฮร์รี่ พอตเตอร์), เอ็มมา วัตสัน (รับบท เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์) และรูเพิร์ต กรินต์ (รับบท รอน วีสลีย์) ก็แสดงการสนับสนุน โดยยืนเคียงข้างชุมชนคนข้ามเพศอย่างแน่แน่

ท่าทีเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนการประกาศจุดยืนเพื่อสิทธิความเท่าเทียม แต่ยังสร้าง “ระยะห่าง” อย่างเห็นได้ชัด ระหว่างนักแสดงผู้เติบโตมากับโลกเวทมนตร์ และผู้ประพันธ์นิยายที่เคยเป็นเหมือนผู้ให้กำเนิดพวกเขา

ความขัดแย้งกับ เอ็มมา วัตสัน ล่าสุด

ล่าสุด เอ็มม่า วัตสันไปออกรายการพอดแคสต์ในเดือนกันยายน 2025 และพูดถึงความไม่ลงรอยกับเจ.เค. โรว์ลิง เธอบอกว่าแม้จะเห็นต่างเรื่องสิทธิคนข้ามเพศ แต่ก็ยังรักและขอบคุณผู้แต่งที่ให้โอกาสเธอในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ พร้อมทั้งอยากให้ทั้งสองฝ่ายได้คุยกันจริง ๆ ไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ

หลังรายการดังกล่าว นักเสียดสีชาวอังกฤษชื่อ Intel Lady ทำคลิปล้อเลียนคำพูดของวัตสัน โรว์ลิงนำคลิปนั้นไปแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดีย พร้อมแคปชั่นว่า “I’m here for ALL the spoofs” ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเยาะเย้ยและทำให้โอกาสสนทนาจากใจที่วัตสันเสนอดูจะเลือนหายไปทันที

สำหรับโรว์ลิง สิทธิผู้หญิงต้องมาก่อน !

อย่างไรก็ตาม โรว์ลิงยืนยันว่าเธอไม่ได้เกลียดชังคนข้ามเพศและเชื่อว่าพวกเขาสมควรได้รับการปกป้องและมีชีวิตอย่างปลอดภัย แต่เธอให้เหตุผลว่าการขยายสิทธิของคนข้ามเพศต้องไม่กระทบสิทธิของผู้หญิงที่เกิดเป็นเพศหญิง เธอกังวลว่านโยบายที่อนุญาตให้บุคคลที่ระบุตนเป็นผู้หญิงเข้าใช้พื้นที่เฉพาะหญิงโดยไม่ต้องพิสูจน์เพศหรือรับการแปลงเพศจะเปิดโอกาสให้ผู้ชายที่มีเจตนาร้ายแอบอ้างเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ในมุมมองของเธอ การรักษาความปลอดภัยของผู้หญิงที่เกิดเป็นเพศหญิงและเด็กสาวต้องมาก่อน และเธอเชื่อว่าแนวคิด “เพศสภาพสำคัญกว่าเพศกำเนิด” จะลบประสบการณ์และปัญหาที่ผู้หญิงเผชิญในโลกแห่งความเป็นจริง

เหตารณ์นี้แสดงให้เห็นว่า แม้โลกเวทมนตร์ของ Harry Potter จะยังเป็นที่พึ่งพิงทางใจให้แฟน ๆ ทั่วโลกตลอดมา แต่ความขัดแย้งเรื่องเพศก็ทำให้เสียงเริ่มแตก ในอีกด้านหนึ่ง แฟนคลับจำนวนมากแยกแยะผลงานออกจากคนสร้างและยังคงถนอมความรักที่มีต่อโลกเวทมนตร์ ขณะที่บางคนเลือกจะไม่สนับสนุนเธอและหันไปสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบแทน  

รอยร้าวนี้อาจทำให้ผู้คนที่เติบโตมากับเรื่องราวเวทมนตร์ต้องทำใจ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างและนักแสดงกลับเหินห่างขึ้นทุกที

ที่มา deadline,theguardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• เอ็มม่า วัตสัน เปิดใจเหตุพักงานแสดง 5 ปี ไม่คุ้มสุขภาพที่เสียไป ! 
• ดราม่าสเนปผิวดำ ความเท่าเทียม หรือ แขวนนักแสดงให้โดนเกลียด? 
• อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ยอดคุณครูจากเรื่อง Harry Potter ผู้ให้คำแนะนำชีวิต