ซีพีส่งผู้นำรุ่นใหม่สู่เวทีโลก ชูสันติภาพเริ่มที่ลดความเหลื่อมล้ำ

จาก "ความมั่นคงในใจ" สู่ "สันติภาพที่ยั่งยืน": ภารกิจผู้นำรุ่นใหม่ซีพีบนเวทีโลก และความท้าทายในการโอบอุ้มสังคม

ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายหลายมิติ ตั้งแต่ความขัดแย้งที่มองเห็นได้ในสนามรบ ไปจนถึงวิกฤตความเหลื่อมล้ำที่กัดกินสังคมอย่างเงียบๆ คำว่า "สันติภาพและความมั่นคง" (Peace & Security) ไม่ได้ถูกจำกัดความอยู่แค่ในตำราเรียนหรือเวทีการเมืองระหว่างประเทศอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นโจทย์ใหญ่ที่ภาคธุรกิจต้องหันมาเผชิญหน้าอย่างจริงจัง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ในฐานะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ได้แสดงเจตจำนงในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ผ่านการสนับสนุนผู้นำรุ่นใหม่ 20 คนสู่เวที One Young World 2025 ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี หนึ่งในนั้นคือ คุณรัชพร ศิริพงษ์ (เนเน่), Program Manager จากสถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CPLI) ผู้ที่เลือกจะลงลึกในประเด็น Peace & Security ด้วยมุมมองที่เริ่มต้นจากจุดที่ใกล้ตัวที่สุด นั่นคือ "ความมั่นคงของมนุษย์

นิยาม ‘สันติภาพ’ ใหม่: เริ่มต้นจากโอกาสที่เท่าเทียม

เนเน่ รัชพร เปิดเผยกับทีม SPRiNG ว่า สันติภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่หยั่งรากลึกอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน

"สันติภาพที่แท้จริงไม่ได้หมายถึงแค่การไม่มีความขัดแย้ง แต่คือการที่มนุษย์ทุกคนมีชีวิตที่มั่นคง มีศักดิ์ศรี และสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียมกัน" เธอกล่าว

"เพราะความรุนแรงที่แท้จริง มันคือ ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ที่เราอาจมองไม่เห็น จากประสบการณ์ทำให้เชื่อว่า ‘ความไม่เท่าเทียม’ คือรากฐาน (Root Cause) ของความไม่สงบในใจของพวกเราทุกคน"

มุมมองของเธอยิ่งเฉียบคมขึ้นหลังเข้าร่วมกิจกรรม Bootcamp ที่เครือซีพีจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม ที่นั่นเธอได้เรียนรู้แนวคิดเรื่อง "ความมั่นคงของมนุษย์" (Human Security) จากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ตระหนักว่าปัญหาสันติภาพต้องมองจากล่างขึ้นบน (Bottom-up) โดยมีปัจจัยพื้นฐานอย่างการเข้าถึงการศึกษา, สาธารณูปโภค, และอาชีพที่มั่นคงเป็นจุดเริ่มต้น ในฐานะคนทำงานในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่กระจายตัวไปในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชนเล็กๆ ถึงระดับประเทศ

เนเน่ รัชพร เชื่อว่านี่คือจุดแข็งที่ทำให้ภาคธุรกิจสามารถ "มองเห็นผลกระทบของความเหลื่อมล้ำได้แบบ First-hand" และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแนวคิดให้เป็นการลงมือทำที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาชีพ หรือการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเท่าเทียม

บทบาทของเนเน่ที่ CPLI ยิ่งตอกย้ำภารกิจให้ชัดเจนขึ้น หน้าที่ของเธอคือการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ในเครือซีพี เธอเชื่อว่าจะสามารถแทรกซึมแนวคิดเรื่องความเท่าเทียม, สิทธิมนุษยชน, และ Human Security ให้ว่าที่ผู้นำของเครือซีพีได้ซึมซับ เพื่อที่ว่าเมื่อเขาได้ก้าวออกไปอยู่ในส่วนต่างๆของสังคม จะได้ช่วยกระจายสิ่งเหล่านี้ออกไปในวงกว้าง

สันติภาพและความมั่นคง ไม่ใช่แค่สงคราม แต่คือความมั่นคงของทุกคน

สันติภาพ ความมั่นคงของมนุษย์ ไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการหรือการเมืองระหว่างประเทศ นักวิชาการที่สนใจประเด็นเรื่องสันติภาพอย่าง รศ. ดร.นฤมล ทับจุมพล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฉายภาพให้ชัดขึ้นอีกว่า “ความท้าทายด้านสันติภาพและความมั่นคงในปัจจุบันนั้นซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา มีนัยยะที่มากกว่าแค่เรื่องการทหาร" รศ. ดร.นฤมล กล่าว

"แม้เราจะเห็นสงครามในยูเครนหรือกาซ่า แต่ผลกระทบมันลุกลามไปทั่วโลกในรูปแบบของวิกฤตเศรษฐกิจและความอดอยาก ปัญหาเหล่านี้ยิ่งผลิตซ้ำความเหลื่อมล้ำ (Reproducing Inequality) ให้มากขึ้น และคนรุ่นใหม่คือกลุ่มที่ต้องเผชิญกับภาวะนี้โดยตรง"

รศ. ดร.นฤมล เน้นย้ำว่า นิยามความมั่นคงใหม่ต้องเอา "มนุษย์เป็นศูนย์กลาง" ซึ่งครอบคลุมทั้งความมั่นคงทางเศรษฐกิจ, อาหาร, สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจขนาดใหญ่อย่างซีพีเกี่ยวข้องโดยตรง "สันติภาพเป็นเรื่องของการโอบอุ้มซึ่งกันและกัน และในแง่นี้บริษัทธุรกิจก็เกี่ยวข้องอยู่แล้วในชีวิตประจำวันของผู้คน"

ความท้าทายของภาคธุรกิจ จาก "ผู้ตาม" สู่ "ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง”

การส่งคนรุ่นใหม่สู่เวทีโลกอย่าง One Young World คือสัญญาณที่ดี  รศ.ดร.นฤมล ยังตั้งคำถามที่ท้าทายและชวนให้ขบคิดต่อไปว่า พลังของภาคธุรกิจจะถูกนำไปใช้อย่างไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง

"สิ่งที่คาดหวังคือ พวกเขาต้องกลับมาเป็น 'ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง' (Change Maker) ไม่ใช่แค่ผู้ตาม (Follower)" และเสนอว่า การสร้างสันติภาพต้องฝังลึกลงในกระบวนการทำงาน (In-process) และกระบวนการผลิต”

อ.นฤมล ได้ทิ้งโจทย์ใหญ่ไว้ให้องค์กรธุรกิจ โดยระบุว่า "อย่าลืมว่าเมื่อมันเกิดสงคราม หรือความขัดแย้ง มันจะมีคนที่ดีขึ้นและมีคนนึงที่แย่ลง ถ้าเราอยู่เฉยๆ เท่ากับว่าเรากำลังปล่อยให้กระบวนการของความเหลื่อมล้ำมันเกิดขึ้น ดังนั้นธุรกิจต้องกล้าตั้งคำถามว่า จะใช้พลังของตนเอง (Power Position) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำนั้นได้อย่างไร”

ข้อเสนอของ รศ. ดร.นฤมล คือการเปลี่ยนจากการ "ดึง" ผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาอยู่ในระบบของตนเอง ไปสู่ "การเปิดพื้นที่" ให้พวกเขามีที่ยืนและเติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งนี่คือหัวใจของคำว่า "อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง" (Inclusivity) ที่ไม่ใช่แค่การไปก่อนแล้วดึงตาม แต่คือ "การพาไปด้วยกัน"

การเดินทางของคุณเนเน่และเพื่อนๆ ตัวแทนจากซีพีสู่เวที One Young World 2025 จึงเป็นภาพสะท้อนของความตั้งใจจริงจากองค์กรที่เชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่ และเป็น "ผู้สร้างสันติภาพ" ที่โอบอุ้มมนุษย์ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน