
SHORT CUT
ความสัมพันธ์ไทย–ซาอุดีอาระเบียกลับมาอีกครั้งTME FORUM: THAILAND–SAUDI BRIDGE เปิดวิสัยทัศน์ “VISION 2030 และโอกาสธุรกิจไทยสู่ซาอุดีอาระเบีย”
หลังจากความสัมพันธ์ไทย–ซาอุดีอาระเบีย กลับมาอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศเริ่มชัดขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นเศรษฐกิจที่ทั่วภูมิภาคจับตามอง การเดินหน้าเชื่อมโยงความร่วมมือทั้งด้านพลังงาน การท่องเที่ยว เกษตร อาหาร และโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ได้เป็นเพียงการ “เปิดประตูใหม่” แต่คือโอกาสทองของไทยที่จะยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจสู่ตลาดตะวันออกกลางที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ซาอุดีอาระเบียเองก็กำลังมองหา ‘พาร์ตเนอร์เชิงยุทธศาสตร์’ เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์เศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ทำให้ดีลไทย–ซาอุฯ ถูกพูดถึงมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ล่าสุดได้มีการงาน TME FORUM: THAILAND–SAUDI BRIDGE จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “VISION 2030 และโอกาสธุรกิจไทยสู่ซาอุดีอาระเบีย” เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน โดยจัดขึ้นเมื่อที่ 19 พ.ย. 68 ณ โรงแรมอัล-มีรอซ กรุงเทพฯ
โดยในช่วงแรกของงานเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ โดย Mr. Mansour Al-Ajmi ผอ.หอการค้าริยาด (Riyadh Chamber) "ประธานในพิธี" , คุณดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด และประธานหลักสูตร TME กิตติมศักดิ์ , ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย นักวิชาการอิสระ และ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษาจุฬาลงกรณ์ และผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและวิจัย สถาบัน TME Institute "ประธานจัดงาน"
โดย ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ในฐานะประธานจัดงาน ได้กล่าวถึงบทบาทของสถาบัน TME ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ว่า สถาบัน TME ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้าง สะพานความรู้ สะพานเศรษฐกิจ และสะพานเครือข่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเดินเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางได้อย่างมั่นใจ ภายใต้แนวคิด "Connection to Empowerment"
ดร.ศราวุฒิ ระบุว่า TME ไม่ได้เพียงสร้างการเชื่อมโยง แต่ยังสร้างพลังที่ทำให้ธุรกิจไทยเติบโตได้จริง โดยปัจจุบันสถาบัน TME ได้ลงนามความร่วมมือกับ กระทรวงการลงทุนแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และกำลังขยายเครือข่ายสู่หอการค้าเมืองริยาด เพื่อวางโครงสร้างความร่วมมือ ไทย-GCC ที่แข็งแรงและต่อเนื่องในระยะยาว
หลักสูตรเรือธงของ TME มุ่งเน้นการสร้างทุนมนุษย์ที่เข้าใจตะวันออกกลางแบบรอบด้าน โดยหลักสูตรทั้งหมดได้รับการรับรองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.ศราวุฒิ หวังว่า TME Forum จะเป็นเวทีที่เชื่อมความคิด และความร่วมมือ เพื่อนำพาทุกประเทศไปสู่อนาคตที่เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
'ดามพ์ บุญธรรม' เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด และประธานหลักสูตร TME กิตติมศักดิ์ เน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยจัดให้ซาอุดีอาระเบียเป็น 1 ใน 10 ประเทศเป้าหมายสำคัญด้านการค้าและการลงทุน เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มีกำลังซื้อสูง และมีศักยภาพในการขยายตัวสูง
ดามพ์ ชี้ให้เห็นว่า Vision 2030 มี 3 เสาหลักที่สำคัญ ได้แก่ การสร้างสังคมที่มีชีวิตชีวา , การสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อน และการเป็นชาติที่มีความทะเยอทะยาน
ซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางทางการค้า เศรษฐกิจ และการทูตของภูมิภาค โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีคณะผู้แทนต่างประเทศหลั่งไหลเข้าสู่กรุงริยาดอย่างต่อเนื่อง การจัดตั้ง สภาความร่วมมือซาอุดีอาระเบีย-ไทย (STCC) ซึ่งมีการประชุมครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี ถือเป็นการสร้าง "สะพานเชื่อมขนาดใหญ่" ที่หายไประหว่างสองประเทศ สำหรับการทำธุรกิจ
ซึ่งคุณดามพ์เน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นจากสัญญา แต่เริ่มต้นจาก มิตรภาพ และ ความไว้วางใจ เป็นสิ่งสำคัญ
ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย นักวิชาการอิสระ ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแสวงหา "พื้นที่หากินเฉพาะตัว" หรือพื้นที่ทำกินใหม่ๆ แทนที่จะยึดติดกับตลาดเก่าที่ซบเซาอย่างยุโรปหรือจีน โดยกลุ่มประเทศ GCC เป็นพื้นที่ใหม่ที่เปิดโอกาสอย่างกว้างขวางและมีศักยภาพทางการค้าสูง
ดร.นิติภูมิธณัฐ ระบุว่าความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบียที่ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้วนี้เป็น "โอกาสทอง" ที่คนไทยไม่ควรพลาด แต่การบุกตลาดเองนั้นยากลำบากและมีความเสี่ยง ผู้ประกอบการต้องอาศัย "ตัวเชื่อม" หรือช่องทางที่เป็นทางการ ที่วางไว้โดยผู้หลักผู้ใหญ่หรือสถาบันการศึกษาที่เข้มแข็ง ซึ่งรวมถึง สถาบัน TME , สถานเอกอัครราชทูตไทย, และหอการค้า ณ กรุงริยาด
ในช่วงที่ 2 เป็นการเปิดเวทีเสวนา โดยผู้นำธุรกิจจากหลายภาคส่วน เพื่อให้มุมมองเชิงปฏิบัติในการเข้าสู่ตลาดซาอุดีอาระเบีย ได้แก่ คุณเนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มด้านการลงทุนและ CEO บริษัท Bitkub Ventures จำกัด , คุณชัยวัฒน์ นันทิรุจ CEO, Eka Global , คุณนุจรี ภักดีเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย , คุณธีรยุทธ สุขสุด กรรมการผู้จัดการ SCG International Arabia (LLC) ดำเนินรายการโดย คุณระวี ตะวันธรงค์ ผอ.ฝ่ายสื่อสารเชิงกลยุทธ์และความสัมพันธ์องค์กรในประเทศ-TME Institute
'ระวี ตะวันธรงค์' ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ได้เริ่มต้นเปิดประเด็นว่า ในสถานการณ์ที่โลกเผชิญสงครามภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาเศรษฐกิจ Vision 2030 กลายเป็น "ทางออก" ที่สำคัญ เพราะจุดศูนย์กลางกำลังย้ายไปสู่ตะวันออกกลาง ที่มีความต้องการสินค้าสูงมาก ตั้งแต่สินค้าก่อสร้าง เทคโนโลยี อาหาร ไปจนถึงการดูแลสุขภาพ ที่มีมาร์จิ้นสูง การเข้าสู่ตลาดดังกล่าว ถือเป็น "ไฟท์บังคับ" สำหรับผู้ประกอบการไทยในการหาตลาดใหม่
'ธีรยุทธ สุขสุด' กรรมการผู้จัดการ SCG International Arabia (LLC) กล่าวว่า SCG International Arabia ก่อตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 โดยคนไทยถือหุ้น 100% คุณธีรยุทธชี้ว่ามีอัตราการเติบโตสูงมากในภาคการก่อสร้าง เนื่องจากกรุงริยาดกำลังขยายขนาดเป็นสองเท่า
ซาอุดีอาระเบียต้องนำเข้าอาหารทุกอย่าง และตลาดอาหารไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว (ร้านอาหารไทยในริยาดเพิ่มจาก 1 เป็นประมาณ 30 ร้านใน 2 ปี) นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวซาอุมีกำลังซื้อสูงและชื่นชอบวัฒนธรรมไทย ข้อแนะนำสำคัญคือ ต้องเริ่มทำธุรกิจจาก ความไว้ใจ และการเป็นเพื่อนกันก่อน และต้องเข้าใจบริบทท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
'เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี' ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มด้านการลงทุนและ CEO บริษัท Bitkub Ventures จำกัด มองว่า Digital Economy เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงตาม Vision 2030 โดยเสนอการใช้ Blockchain เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบข้อมูล และการให้บริการเป็นที่ปรึกษาในการระดมทุนรูปแบบใหม่ผ่าน Tokenization
โดยเฉพาะ Investment Token ซึ่งสามารถแบ่งส่วนให้เล็กได้ และสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการเงินอิสลาม เพราะสามารถใช้ทรัพย์สินจริงค้ำประกัน และผลตอบแทนสามารถจ่ายในรูปแบบของการแบ่งปันผลกำไร แทนการจ่ายดอกเบี้ย
'ชัยวัฒน์ นันทิรุจ' CEO, Eka กล่าวว่า Global Eka Global เชี่ยวชาญในการผลิต บรรจุภัณฑ์แบบกั้นอากาศ (barrier packaging) ที่ช่วยยืดอายุการจัดเก็บอาหารได้นานถึง 2 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการอาหารไทยที่มีฝีมือสามารถส่งออกไปยังตลาดตะวันออกกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Vision 2030
'นุจรี ภักดีเจริญ' ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ระบุว่า IBank วางตำแหน่งตัวเองเป็น Strategic Connector และเป็นสะพานเชื่อมโยงทางการเงิน
'นุจรี' ชี้ว่า การเงินอิสลาม (Islamic Finance) เป็นจุดเริ่มต้นของความไว้ใจทางการเงิน ปัจจุบัน Vision 2030 อยู่ในช่วงปลายเฟส 2 และกำลังจะเข้าสู่เฟส 3 ที่เน้นการเร่งความสำเร็จ โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวเกินเป้าหมาย (ตั้งเป้า 100 ล้าน ได้ 115 ล้าน และขยับเป้าเป็น 150 ล้าน) และ GDP ที่ไม่ใช่น้ำมันใกล้ 60%
IBank เป็นธนาคารเดียวที่สามารถทำธุรกรรม SAR transaction (โอนเงินตรงจากบาทเป็นริยาล) ได้อย่างถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม ทำให้ลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน IBank พร้อมเป็นสะพาน 4 ด้าน ได้แก่ สะพานความรู้ (Knowledge), สะพานทางการเงิน (Financial), สะพานการเข้าถึงตลาด (Market Entry), และสะพานตลาดทุน (Capital)
แน่นอนว่าความร่วมมือรอบใหม่นี้อาจไม่ใช่เพียงตัวเลขการลงทุนหรือปริมาณการค้า แต่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เศรษฐกิจระยะยาวที่ทั้งสองประเทศกำลังร่วมกันออกแบบ หากไทยสามารถใช้จุดแข็งด้านอาหาร ท่องเที่ยว แรงงานฝีมือ และซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่น ผสานเข้ากับศักยภาพเงินทุนและวิสัยทัศน์ของซาอุดีอาระเบียได้อย่างลงตัว นี่อาจกลายเป็นอีกเสาหลักใหม่ของเศรษฐกิจไทยในอนาคต การบูมครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียง “ความหวัง” แต่คือโอกาสที่จับต้องได้ และกำลังรอให้ไทยก้าวขึ้นไปคว้าไว้ให้เต็มมือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง