
SHORT CUT
กัมพูชาระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และอาวุธหนักเข้าใส่ที่มั่นของไทยในหลายพื้นที่ของ จ.สระแก้ว ไทยใช้ F-16 ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ กองกำลังบูรพา ถล่มอาคารเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่ตั้งพลซุ่มยิง
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 22 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. กองกำลังบูรพาปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 15
โดยกองทัพอากาศ ใช้ F-16 ได้ปฏิบัติการโจมตีที่หมายทางทหาร จำนวน 2 ที่หมาย ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามบ้านคลองแผง และตรงข้ามบ้านหนองจาน
นอกจากนี้ กองกำลังบูรพาได้ปฏิบัติการต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่บริเวณฝั่งปอยเปต ตรงข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ โดยพิสูจน์ทราบว่าเป็นอาคารของเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นที่ตั้งพลซุ่มยิงและติดตั้งระบบแอนตี้โดรน
ที่สำคัญ ได้รับรายงานการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ ในพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จำนวน 1 นาย คือ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประกาศให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์ มีประชาชน รวม 17,441 คน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ใช้อาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองเสม็ด อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนของประชาชนไทย โดยมิใช่พื้นที่ทางทหารนั้น การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้กำลังที่ไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
เหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีโดยตรงรวมจำนวน 8 ราย แบ่งเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวน 7 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชุมชนอีก 1 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายมีอาการรุนแรงจากสะเก็ดและแรงระเบิด ในจำนวนนี้ มีประชาชนเพศชาย อายุ 71 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดและแรงระเบิด มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณแผ่นหลัง ได้ส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสระแก้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการรุนแรงอีก 3 ราย ได้แก่ ประชาชนเพศหญิง อายุ 73 ปี ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดบริเวณไหล่ซ้ายและศีรษะ มีอาการหูอื้อ ประชาชนเพศหญิง อายุ 55 ปี มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ลึกถึงกระดูกบริเวณข้อเท้าขวา กระดูกหักและกระดูกโผล่ รวมทั้งมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ขาซ้าย และประชาชนเพศชาย อายุ 43 ปี มีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณศีรษะ ไม่สามารถจำเหตุการณ์ได้ โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลโคกสูง อันเป็นผลจากความรุนแรงในการใช้อาวุธจรวดโจมตีเข้าสู่พื้นที่ชุมชน
ขณะเดียวกัน การโจมตีดังกล่าวยังส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน ทำให้ที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้ดำรงชีวิตได้ตามปกติ และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง
โฆษกกองทัพบกย้ำว่า การใช้อาวุธจรวด BM-21 ซึ่งมีอานุภาพทำลายล้างสูง โจมตีเข้าสู่พื้นที่พลเรือนโดยตรงเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ในทุกกรณี และสะท้อนถึงการใช้กำลังโดยไม่คำนึงถึงชีวิต ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน ก่อให้เกิดความสูญเสีย และความเดือดร้อนอย่างรุนแรงแก่ประชาชนในพื้นที่
กองทัพบกขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการใช้กำลังต่อพื้นที่พลเรือน และตระหนักถึงผลกระทบอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมทั้งขอสงวนสิทธิในการดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของชาติ
ที่มา : Wassana Nanuam , กองทัพภาคที่ 1