
SHORT CUT
จบไปอีกปีสำหรับ 2568 ปีที่ชาวเน็ตไทยไม่ได้พักผ่อน เพราะต้องรับบทตั้งแต่ ‘นักยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา’ ยัน ‘กรรมการนางงาม’ ล่าสุด ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) สรุป 10 ประเด็นที่ชาวโซเชียลสนใจมากที่สุดของปีนี้ ทะลุพันล้านเอ็นเกจเมนต์
ปี 2568 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ชาวเน็ตต้อง 'ทำงานหนัก' เพราะมีประเด็นที่ให้ติดตาม แสดงความคิดเห็น และร่วมแชร์แทบทุกวัน ตั้งแต่กรณีพิพาทที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของชาติกับประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้โซเชียลมีเดียดุเดือด ไปจนถึงเรื่องราวของการแข่งขัน SEA GAMES ที่สร้างทั้งความภาคภูมิใจจากชัยชนะของนักกีฬาไทย และการถกเถียงในหลากหลายประเด็นอย่างร้อนแรง รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สร้างความตระหนกและผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายพื้นที่แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ Zocial Eye เพื่อวิเคราะห์และจัดอันดับประเด็นที่ชาวโซเชียลพูดถึงมากที่สุด โดยเก็บข้อมูลช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 ธันวาคม 2568 เพื่อสรุปให้เห็นภาพชัดเจนว่าในปีที่ผ่านมา มีประเด็นใดบ้างที่สร้างกระแส พร้อมเผย 10 ประเด็นร้อนแรงที่สุดของปี 2568 เราไปดูกันว่าประเด็นไหนที่ได้รับความสนใจในปีนี้บ้าง
ถ้าจะถามว่าเรื่องไหนที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศหันมามองเรื่องเดียวกันได้มากที่สุดในปีนี้ คงหนีไม่พ้นประเด็น "ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา" ที่พุ่งทะยานขึ้นอันดับหนึ่งแบบทิ้งห่างประเด็นอื่นหลายเท่าตัว ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์มหาศาลกว่า 1 พันล้านครั้ง
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงกลางปี (กรกฎาคม-สิงหาคม 2568) เมื่อสถานการณ์ชายแดนกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง จากข้อพิพาทและการอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้าง เรื่องนี้กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโซเชียลมีเดีย เราได้เห็นปรากฏการณ์ที่คนไทยพร้อมใจกันติดตามสถานการณ์ชายแดนแบบนาทีต่อนาที ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ข้อมูล การวิเคราะห์พื้นที่ทับซ้อน หรือการแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตย จนแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องขึ้นเทรนด์ต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่กระทบคนไทยทุกคนและสร้างกระแสมากที่สุดในปี 2568
นอกจากนี้ในประเด็นสถานการณ์ไทย-กัมพูชานี้ยังมีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรี การตั้งคำถามการทำงานต่อนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการแสดงท่าทีจากนานาชาติ การได้รับข้อมูลข่าวสารคนละด้านจากทั้งสองประเทศ ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้สังคมหันมาให้ความสนใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อทิศทางการเมืองและการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า
ในฝั่งวงการบันเทิง ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้หนีไม่พ้นกระแสของวง BUS (Because of You I Shine) ที่กวาดยอดเอ็นเกจเมนต์ไปได้ถึง 416 ล้านครั้ง ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฐานแฟนคลับที่สามารถสร้างกระแสบนโลกออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง
ตลอดทั้งปี 2568 ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีการปล่อยผลงานเพลงใหม่ การจัดคอนเสิร์ต หรือแม้แต่การเปิดตัวพรีเซนเตอร์แบรนด์ต่างๆ เราจะเห็นยอดการมีส่วนร่วมที่พุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของการแชร์ข้อมูลและการผลักดันแฮชแท็กให้ติดเทรนด์อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าสนใจคือพลังสนับสนุนนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโลกออนไลน์ แต่ยังส่งผลไปยังยอดขายบัตรคอนเสิร์ตหรือสินค้าที่เกี่ยวข้องที่ถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้ปีนี้กระแสของวง BUS กลายเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญของการเติบโตในอุตสาหกรรม T-Pop ที่มีฐานพลังโซเชียลเป็นแรงผลักดันหลัก
ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับพี่น้องชาวภาคใต้ ชาวโซเชียลมีเดียทั่วประเทศร่วมใจกันระดมความช่วยเหลือผ่านทุกช่องทาง มีการแชร์พิกัดขอความช่วยเหลือ โพสต์รายการของบริจาค และส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวใต้อย่างไม่ขาดสาย
ความรุนแรงของน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้หลายจังหวัดประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งบ้านเรือนเสียหาย การคมนาคมเป็นอัมพาต และผู้ประสบภัยจำนวนมาก แฮชแท็กน้ำท่วมต่างๆ ทำให้ยอดเอ็นเกจเมนต์พุ่งสูงเป็นอันดับ 3 สะท้อนถึงความห่วงใยและน้ำใจที่ไม่ทิ้งกันของคนไทยในยามที่ต้องการความช่วยเหลือ
กระแสซีรีส์ Girls Love ยังคงแรงดีไม่มีตกในปีนี้ โดยคู่จิ้น "หลิง-ออม" กลายเป็นไอคอนคู่ขวัญแห่งปีที่กวาดหัวใจแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ ความเคมีที่ลงตัวทั้งในซีรีส์และนอกจอ ทำให้พวกเธอได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
การออกงานคู่กันแต่ละครั้งของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นงานแถลงข่าว การถ่ายแบบ หรือแฟนมีตติ้ง ล้วนสร้างพลังบนโซเชียลมีเดีย คลิปและรูปภาพของพวกเธอถูกแชร์กันไปอย่างต่อเนื่อง แฟนคลับจากหลายประเทศต่างพากันติดตาม สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของวงการ Girls Love ของไทยที่กำลังเป็นที่จับตามองในระดับสากล
หลังจากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติจาก UNESCO สงกรานต์ปี 2568 จึงถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่และเป็นพิเศษในฐานะ "World Water Festival"
ชาวโซเชียลมีเดียแห่กันแชร์บรรยากาศความสนุกสนาน ภาพการสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน และความคึกคักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แห่มาร่วมงานกันล้นหลามในทุกจังหวัด จนทำให้สงกรานต์ปีนี้กลายเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งที่สุดของปี และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยไปทั่วโลก
เทศกาลใหญ่ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนและคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันอย่างมาก ปีนี้มีการเฉลิมฉลองอย่างคึกคักทั่วประเทศ ทั้งการแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้าสวยงาม การไหว้เจ้าขอพร การแจกอั่งเปา และการท่องเที่ยวตามย่านไชน่าทาวน์
ไฮไลต์ที่สร้างกระแสอย่างมากคือการมูเตลูออนไลน์ที่ชาวเน็ตแชร์กันสนั่นไทม์ไลน์ในช่วงต้นปี การตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟแดง การเตรียมขนมอวยพร และความเชื่อเรื่องการแก้ชงประจำปีเกิด กลายเป็นคอนเทนต์ยอดนิยมที่ทุกคนสนใจแชร์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน SEA GAMES ครั้งที่ 33 ในเดือนธันวาคม 2568 กระแสความตื่นเต้นและการเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสร้างความคึกคักบนโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง ทั้งการชื่นชมชัยชนะของนักกีฬา การวิจารณ์พิธีเปิด-ปิดการแข่งขัน และดราม่าผลการแข่งขันในแต่ละชนิดกีฬา ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการตัดสิน ความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือโมเมนต์สุดประทับใจของนักกีฬาไทย ล้วนทำให้ยอดเอ็นเกจเมนต์คึกคักและสร้างความภูมิใจให้กับคนไทยในการส่งท้ายปี
เหตุการณ์ภัยพิบัติที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้อย่างชัดเจนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกและรีบออกมาจากอาคารเป็นจำนวนมาก
ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยการค้นหาข้อมูล การสอบถามสถานการณ์ว่าใครรู้สึกแรงสั่นสะเทือนบ้าง การแชร์วิธีรับมือกับแผ่นดินไหว และการรายงานสถานการณ์สดบนโซเชียล แฮชแท็กเกี่ยวกับแผ่นดินไหวติดเทรนด์ทันที พร้อมกับการเผยแพร่ความรู้เรื่องมาตรการความปลอดภัยและการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ
ปรากฏการณ์ Live Commerce ที่สั่นสะเทือนวงการอีคอมเมิร์ซไทยอย่างแท้จริง "เทศกาลเจนนี่" โดย เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น (รัชนก สุวรรณเกตุ) ที่ไลฟ์ขายของแบบมาราธอนและกวาดยอดขายได้อย่างถล่มทลายหลายร้อยล้านบาทในแต่ละงาน
แฟนๆ และลูกค้าต่างลุ้นกันซื้อสินค้าแบบสดๆ สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการช็อปปิ้งสินค้าออนไลน์ไทย อย่างไรก็ตามก่อนสิ้นปีก็เกิดดราม่าเมื่อมีการประกาศยกเลิกการจัดงานในภายหลัง สร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ และลูกค้าจำนวนมาก ถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญของวงการ Live Commerce และแม่ค้าออนไลน์ในปีนี้ที่ทุกคนต้องติดตาม
เวทีนางงามที่การันตีความดราม่าและความสนุกสนานทุกปี และปีนี้ Miss Grand International 2025 ก็ยังคงได้รับความนิยมเสมอ ทั้งกระแสของผู้เข้าประกวดจากทุกประเทศ ชุดประจำชาติที่มีทั้งสวยงาม แปลกตา และเป็นที่ถกเถียง
สิ่งที่ทำให้ยอดเอ็นเกจเมนต์พุ่งทะลุ 119 ล้านครั้ง คือการที่ชาวเน็ตพร้อมใจกันเป็น "กรรมการหน้าจอ" ทั้งการวิเคราะห์ชุดประจำชาติที่ปีนี้มีทั้งงานปักสุดอลังการและดีไซน์แปลกตาที่เป็นไวรัล ไปจนถึงการตัดคลิปในช่วงการตอบคำถามมาทำมีมและถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน นอกจากนี้ พลังการสนับสนุนตัวแทนประเทศไทยยังคงแข็งแกร่งมาก มีการเกาะติดสถานการณ์และวิเคราะห์โอกาสชนะแบบรอบต่อรอบ ทำให้ช่วงการประกวดปีนี้กลายเป็นช่วงเวลาที่โลกโซเชียลคึกคักและเต็มไปด้วยสีสันมากที่สุดช่วงหนึ่งของปี
นอกจากนี้ยังมีประเด็นน่าจับตามองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระแสฟุตบอลที่กลายเป็นไวรัลทั้งประเทศ หรือกระแสการเมืองที่ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง เช่น
"หมอนทองวิทยา" โรงเรียนม้ามืดจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่สร้างตำนาน "รถขนฝัน" ที่พาพวกเขาล้มยักษ์ใหญ่ไปเรื่อยๆ จนทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศในกีฬาฟุตบอลนักเรียน แชมป์กีฬา 7HD
เรื่องราวของทีมนักเตะเยาวชน จากโรงเรียนที่ไม่มีใครจับตามอง กลับสามารถเอาชนะทีมดังและทีมเก่งๆ ได้อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นไวรัลที่ปลุกใจคนทั้งประเทศและสร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล แม้ในที่สุดจะไม่ได้แชมป์ แต่พวกเขาก็ได้ชนะใจมหาชนไปเต็มๆ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่าความตั้งใจและความพยายามสามารถสร้างความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ได้
ปิดท้ายด้วยประเด็นการเมืองใหญ่แห่งปี การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทยของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างกว้างขวาง
การประกาศนโยบาย การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ต่างกลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตติดตาม วิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก ทำให้แฮชแท็กการเมืองกลับมาร้อนแรงอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ และสะท้อนถึงความสนใจของประชาชนที่มีต่อทิศทางการบริหารประเทศในอนาคต
จาก 10 ประเด็นยอดนิยมประจำปี 2568 สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ‘Social Movement’ มีบทบาทในการขับเคลื่อนสังคมและกำหนดทิศทางมากกว่าที่เคย ตั้งแต่ประเด็นการเมืองไปจนถึงภัยพิบัติธรรมชาติ จากเวทีนางงามระดับโลกไปสู่สนามฟุตบอล
ทุกยอดไลก์ ทุกการแชร์ และทุกคอมเมนต์ ล้วนมีพลังในการสร้างกระแสและส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ แบรนด์ต่างๆ และแม้กระทั่งนโยบายสาธารณะ ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า ปี 2568 ไม่ใช่เพียงแค่ปีแห่งการรับชมและติดตามคอนเทนต์ แต่เป็นปีที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทุกคนกลายเป็น 'ผู้สร้างกระแส' และ 'ผู้กำหนดทิศทาง' ของสังคมอย่างแท้จริง