svasdssvasds

สมช. แถลงการณ์ 7 ข้อ หากถูกรุกราน ไทยมีสิทธิป้องกันตัว ย้ำ JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

สมช. แถลงการณ์ 7 ข้อ หากถูกรุกราน ไทยมีสิทธิป้องกันตัว ย้ำ JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

สมช.ออกแถลงการณ์ 7 ข้อ ปมไทย-กัมพูชา ยัน “หยุดยิง” เป็นมติร่วม ยึดกรอบ “ทวิภาคี“ สะท้อนความจริงใจ ทำตามที่ตกลง หลังส่งคืน 18 ทหาร หากกัมพูชาละเมิดอธิปไตย จำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้สิทธิป้องกันตนเอง ชี้ประชุม JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

SHORT CUT

  • สมช. ยืนยันสิทธิอันชอบธรรมของไทยในการป้องกันตนเอง หากถูกละเมิดอธิปไตยหรือถูกรุกรานอีกครั้ง
  • การแก้ไขปัญหาเขตแดนผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ต้องรอการพิจารณาจากรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ
  • กองทัพไทยจะดำรงความพร้อมในการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของประชาชน

สมช.ออกแถลงการณ์ 7 ข้อ ปมไทย-กัมพูชา ยัน “หยุดยิง” เป็นมติร่วม ยึดกรอบ “ทวิภาคี“ สะท้อนความจริงใจ ทำตามที่ตกลง หลังส่งคืน 18 ทหาร หากกัมพูชาละเมิดอธิปไตย จำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้สิทธิป้องกันตนเอง ชี้ประชุม JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

วันที่ 31 ธ.ค. 2568 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกคำแถลงการณ์ประเด็นสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีเนื้อหาสรุป 7 ข้อ

   1. สมช. ยินดีกับแถลงการณ์ร่วมจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สะท้อนให้เห็นความจริงใจของไทยในการแก้ความขัดแย้งด้วยสันติวิธีผ่าน

   2. สมช. ขอยืนยันว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เป็นผลจากการพิจารณาและตัดสินใจร่วมกันของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชีวิตและความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่และประชาชน ในกรณีที่ประเทศไทยถูกละเมิดอธิปไตยหรือถูกรุกรานอีกครั้ง ประเทศไทยมีความจำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

   3. ประเด็นการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สมช. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนอย่างเหมาะสม

 

   4. ประเด็นด้านมนุษยธรรม ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชีวิต ศักดิ์ศรี และความปลอดภัยของบุคคลที่ไม่เข้าร่วมการสู้รบเป็นหลัก จึงนำมาซึ่งการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชาจำนวน 18 คนในวันนี้ (31 ธันวาคม 2568) ตามมติ สมช. ครั้งที่ 18/2568 ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ประเทศไทยคาดหวังให้กัมพูชาแสดงท่าทีและบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติตามหลัก กฎหมายระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรมในลักษณะเดียวกัน เช่น การคุ้มครองสวัสดิภาพและอำนวยความสะดวก คนไทยในกัมพูชาให้กลับประเทศได้อย่างปลอดภัย การป้องกันอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้ กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจในการร่วมมือและเร่งรัด การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่อย่างจริงจัง

   5. ประเด็นการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศของไทยร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วน ระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติรวมถึงการหลอกลวงทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ร่วมกับกัมพูชา แต่การดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก จึงต้องการเห็นกัมพูชาร่วมมือในการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดและเป็นรูปธรรมเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค

สมช. แถลงการณ์ 7 ข้อ หากถูกรุกราน ไทยมีสิทธิป้องกันตัว ย้ำ JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

   6. ประเด็นเขตแดน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และยึดถือตาม แผนที่ 1 : 50,000 เป็นหลัก เนื่องจากมีความชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ การประชุม JBC ที่จะมีขึ้นในอนาคตจำเป็นต้องคำนึงถึงเงื่อนไขและห้วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในอนาคตที่จะพิจารณาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป ซึ่งอาจมีการทบทวน บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU 2543) จึงต้องคำนึงถึงเงื่อนไขในอนาคตด้วย

   7. สุดท้ายนี้ยืนยันว่าประเทศไทยจะดำรงการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมฯ ตราบเท่าที่กัมพูชาจะดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทหารจะดำรงความพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ

สมช. แถลงการณ์ 7 ข้อ หากถูกรุกราน ไทยมีสิทธิป้องกันตัว ย้ำ JBC ต้องรอรัฐบาลใหม่

related