อาย วราไพรินทร์ โดนผู้มีอิทธิพลข่มขู่ หลังเรียกร้องให้ผู้เสียหาย Forex-3D

อีกหนึ่งคนบันเทิงที่เป็นผู้เสียหายในคดี "Forex-3D" สำหรับนักแสดงสาว "อาย วราไพรินทร์" หรือ "อาย สงครามนางงาม" ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมายอมรับแบบไม่อายเลยว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายคนแรกๆในคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D แถมยังเดินทางไปแจ้งความ ยื่นฟ้องกับ "DSI" เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหาย

ล่าสุด อาย วราไพรินทร์ ได้ร่วมเปิดโครงการ Happy CEO บริหารมาตรฐานใหม่ในยุคล่อลวง ร่วมกับ "เคนโด้ เกรียงไกรมาศ" พิธีกรและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ซึ่งเกาะติดคดีดังกล่าวตั้งแต่แรกๆ โดยงานนี้สาวอายได้เปิดใจ หลังออกมาทวงความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายในแชร์ลูกโซ่ Forex 3D จนถูกผู้มีเส้นสายข่มขู่  

"คืออายเป็นผู้เสียหายหนึ่งในนั้น และอายก็โพสต์เฟซบุ๊ก จากนั้นก็มีผู้เสียหายคนอื่นๆ ทักมา แล้วพอมาฟังข้อมูลจากพี่เคนโด้และหลักฐานเพียบเลย อายก็เลยต้องออกมาวันนั้น เพื่อทำให้ข่าวนี้เป็นคดีพิเศษให้ได้"

"ของอายเสียเงินอยู่ประมาณ 2 ล้านค่ะ อายได้รู้จักกลุ่มคนที่ทำงานอยู่ในบริษัทนั้น เป็นรุ่นน้องอายนี่แหละ แต่เขาใช้ชีวิตดี อายเลยถามว่าลงทุนอะไร พอเราเห็นว่าน่าเชื่อถือ อายก็เลยลองดู แต่ไม่ได้ไปแนะนำใคร ไม่มีดาวน์ไลน์อะไร แต่เราก็ไม่รู้เลยว่าวันนึงมันจะเป็นเรื่องขนาดนี้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

รู้จักสาวเก่ง อาย วราไพรินทร์ ดาราคนเดียวที่กล้าเปิดหน้าสู้คดี Forex-3D

ไบร์ท วชิรวิชญ์ โดนขุดคลิปร่วมเฟรม CEO Forex-3D เพจแจงไม่พบหลักฐานเชื่อมโยง

พิ้งกี้ สาวิกา ตัดผมสั้น-เดินเท้าเปล่าขึ้นศาล Forex-3D ทำท่าโอเคทักทายสื่อ

"ถามว่าออกมาเคลื่อนไหวโดนขู่ด้วยไหม ก็หลายคนจะบอกว่าเขามีเส้นสายเยอะ มีผู้ใหญ่หลายส่วน คือเยอะมาก แต่ก็ตัดสินใจออกมาค่ะ เพราะมันต้องมีคนที่ออกมาพูด แต่ก็มีหลายคนมาบอกว่าหยุดเถอะ ให้อยู่นิ่งๆ แล้วไม่ต้องออกมาอีกเลยก็ได้ ถ้าไม่อยากหายอะไรทำนองนี้"

"ส่วนที่ถามว่าตอนนี้ยังโดนข่มขู่อยู่ไหมนั้น คือช่วงก่อนที่จะออกสื่อรอบล่าสุด ยังมีอยู่ค่ะ แต่จะมาเป็นลักษณะที่ว่าให้นิ่งนะ หยุดนะ อย่ายุ่ง เพราะยังไงก็ไม่ได้เงินคืนหรอก แต่สิ่งที่อายทำ ไม่ได้คิดว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า เพียงแต่ที่ออกมาคือต้องหยุดกระบวนการเหล่านี้ และให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ของเขา"

"เขามาข่มขู่ในลักษณะที่ว่าให้หยุดให้นิ่ง แล้วที่เหลือให้คิดเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่คนที่โดนเต็มๆ คือผู้เสียหายที่อยู่ในส่วนของอาย ซึ่งน้องๆ เขาโดนถึงขั้นว่า รู้นะว่าคนที่คุณรักอยู่ไหน ลูกคุณ ญาติคุณ อยู่ที่ไหนเป็นใคร เขาก็จะไปตามเอาข้อมูลหรือให้คนเหล่านั้นหยุด"

"พี่เต๊ะก็ให้คำปรึกษาว่าเราอยู่ในที่แจ้ง ถ้ามีใครเป็นไรไป มันก็จะต้องมีคนเห็นอยู่แล้วว่ามันจะต้องไปในทางไหน เขาก็ต้องเกรงกลัวอยู่บ้าง ฉะนั้นให้อายนึกถึงคนที่เขาฆ่าตัวตาย คนที่เป็นโรคซึมเศร้า คนที่เป็นหนี้ ให้นึกถึงครอบครัวที่เขาแตกแยก ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด พอเรานึกถึงตรงนั้นก็เข้าใจว่าเป็นยังไง ก็โทรถามพี่เคนโด้ด้วย เพราะไม่สบายใจที่โดนเตือนแบบนี้ แต่วันนี้ออกข่าวก็ไม่รู้ว่าจะยังไงนะ ออกข่าวชัดมากเลย"

นอกจากนี้ เคนโด้ ยังพูดต่อว่า "คือคนที่ออกมาส่วนมากที่ข่มขู่ คือคนที่เชื่อใน CEO อยู่ในตอนแรกๆ ผมโดนเยอะ ทั้งทำหนังสือมาถึงสถานีให้ปลดกลางอากาศ จะมาสถานีบ้าง ท้ามาต่อยทำร้ายร่างกายบ้าง สุดท้ายเราไปตรวจดู คือคนที่เขายังเชื่อใน CEO คนนี้อยู่และไม่พอใจที่ว่าเรามาแฉทำไม เขารอได้ตังค์อยู่ เขาเลยกลับไม่ได้ตังค์เพราะเรา"