svasdssvasds

ระบบ เตือนภัยน้ำท่วม ภัยพิบัติ หมวดหมู่หลักมี 6 ประเภท หนึ่งในนั้นคือวิทยุ

ระบบ เตือนภัยน้ำท่วม ภัยพิบัติ หมวดหมู่หลักมี 6 ประเภท หนึ่งในนั้นคือวิทยุ

ระบบสื่อสารวิทยุ (วิทยุทรานซิสเตอร์) หนึ่งในรูปแบบการแจ้งเตือนระบบเตือนภัยพิบัติตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันการสูญเสียถึงชีวิตแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบนโนบายแก้ปัญหาน้ำท่วม เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม โดยในช่วงหนึ่งได้กล่าวถึง      การเตรียมความพร้อมเรื่องศูนย์อพยพ รวมถึงการให้บริการไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ถ้าระบบมันล่มไปทั้งหมด การสื่อสารแจ้งข้อมูลจะทำได้ลำบาก อาจต้องไปใช้ วิทยุทรานซิสเตอร์ ในการออกอากาศแจ้งเตือนประชาชนอีกทาง ซึ่งเคยใช้กันเมื่อปี 2554 เพราะตอนนั้นไฟฟ้าดับหมด ดังนั้น เราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้ด้วย ในกรณีที่อาจเกิดปัญหา 

จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวางหลังจากนั้นถึงความเหมาะสมของการเลือกช่องทางสื่อสารผ่าน วิทยุทรานซิสเตอร์ นั้นล้าสมัยตกยุคไม่มีคนใช้แล้วรึเปล่า

ระบบ เตือนภัยน้ำท่วม ภัยพิบัติ หมวดหมู่หลักมี 6 ประเภท หนึ่งในนั้นคือวิทยุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยในวันต่อมา นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ออกมาเผยข้อมูลย้ำในเรื่องการสื่อสารเพื่อแจ้งเตือนไปยังชุมชน หมู่บ้านและประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมซึ่งสอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านทางวิทยุ เพราะวิทยุถือได้ว่าเป็นสื่อที่ยังเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด โดยอ้างอิงผลสำรวจข้อมูลยืนยันว่า สื่อวิทยุนั้นยังเป็นที่นิยมของประชาชนทุกช่วงวัย พบว่า ตัวเลขผลสำรวจพฤติกรรมการรับฟังรายการวิทยุทั่วประเทศ จากจำนวนผู้ฟัง 3,655 คน โดยอ้างอิงจากสำนักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. และสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนี้ 

 

  • ร้อยละ 68.9 ของกลุ่ม ผู้ฟังวิทยุยังนิยมรับฟังจากเครื่องรับวิทยุ ทั้งจากวิทยุในบ้าน วิทยุพกพา หรือวิทยุในรถยนต์
  • ร้อยละ 19.3 รับฟังจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 3G 4G และ wifi 
  • ร้อยละ 7.8 เป็นการรับฟังจากวิทยุที่อยู่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ และแท็บเล็ต และน้อยที่สุด
  • ร้อยละ 0.3 เป็นการรับฟังผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน๊ตบุ๊ก แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์พกพา

โดยที่ข้อมูลพฤติกรรมการรับฟังวิทยุ ปี 2022 จากข้อมูลจำนวนผู้รับฟังวิทยุคลื่นหลักในระบบ FM จำนวน 40 สถานี จากทุกช่องทาง ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และข้อมูลการโฆษณาผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงคลื่นหลักในระบบ FM ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 36 สถานี อ้างอิงจาก บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด

ได้ระบุถึงพฤติกรรมการรับฟังวิทยุ ปี 2022 จำนวนผู้ฟังวิทยุรายเดือน แยกตามช่วงอายุ Generation โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2565 พบว่า

  • ผู้ฟังกลุ่ม Gen X อายุ 40-59 ปี เป็นกลุ่มที่ฟังวิทยุมากที่สุดถึงกว่า 3.5 ล้านคน 
  • ผู้ฟังกลุ่ม Gen Y อายุ 20- 29 ปี ฟังวิทยุกว่า 3.3 ล้านคน 
  • ผู้ฟังกลุ่ม Baby Boomer อายุ 60-71 ปี ฟังวิทยุสูงเกือบ 2 ล้านคน
  • ผู้ฟังกลุ่ม Gen Z อายุ 12-19 ปี ก็มีการฟังวิทยุถึงกว่า 8 แสนคน

ซึ่งถ้าคิดจากจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ ที่มีจำนวนประมาณ 66 ล้านคน เท่ากับ 12.12%

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก World Risk Report 2021 ทำการศึกษาใน 181 ประเทศ หรือ 99% ของประเทศทั้งหมดในโลกนี้ รายงานเป็นดัชนี World Risk Index

สำหรับประเทศ 10 อันดับ ที่ต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติมากที่สุด ได้แก่

  1. วานูอาตู (WRI 47.73)
  2. หมู่เกาะโซโลมอน (WRI 31.16) 
  3. ตองกา (WRI 30.51) 
  4. โดมินิกา (WRI 27.42) 
  5. แอนติกาและบาร์บูดา (WRI 27.28) 
  6. บรูไนดารุสซาราม (WRI 22.77) 
  7. กายอานา (WRI 21.83)  
  8. ฟิลิปปินส์ (WRI 21.39) 
  9. ปาปัวนิวกินี (WRI 20.90) 
  10. และกัวเตมาลา (WRI 20.23) 

ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 92 (WRI 6.52) มีดัชนีความเสี่ยงปานกลาง

แม้ภัยพิบัติจะไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าความเสียหายได้อย่างแน่นอน ทั้งมีบางประเภทก็เกินกำลังการควบคุมของมนุษย์ เช่น ภูเขาไฟระเบิด แต่ความสามารถของมนุษย์ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินให้เร็วที่สุด สามารถบรรเทาความสูญเสียได้ที่มีอันตรายถึงชีวิตต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ผ่านระบบเตือนภัย ทั้งนี้ระบบเตือนภัยฉุกเฉินที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันหลักๆ สามารถจำแนกออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้ 

1.ระบบแจ้งเตือนมวลชน 
เป็นระบบการแจ้งเตือนด้วยข้อความที่บันทึกไว้ส่งผ่านไปยังโทรศัพท์บ้าน ในพื้นที่รัศมีใกล้เคียงกับจุดเสี่ยงภัย แต่วิธีนี้ได้รับความนิยมน้อยลงไปมากเมื่อจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์บ้านลดลง

2.การแจ้งเตือนฉุกเฉินแบบไร้สาย (WEA) 
เป็นระบบแจ้งเตือนข้อความที่ส่งจาก Federal Emergency Management Agency (FEMA) รวมถึงหน่วยงานรัฐหรือท้องถิ่นไปยังอุปกรณ์ไร้สายหรือโทรศัพท์มือถือของประชาชน ในพื้นที่ใกล้เคียงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ 

3.ระบบข้อความ SMS
เป็นระบบส่งข้อความ SMS ไปยังหมายเลขในฐานข้อมูลที่เปิดรับข้อความแบบฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉิน

4.ระบบเตือนภัยสาธารณะกลางแจ้ง
เป็นระบบการกระจายเสียงผ่านลำโพงหรือไซเรนในบริเวณชุมชน โดยในแต่ละประเทศจะมีเสียงสัญญาณ Emergency Alert System (EAS) แตกต่างกัน 

5.การใช้รหัสสีเตือนภัย
เป็นระบบที่มักใช้ในโรงพยาบาลและสถานพยาบาล เพื่อสื่อสารกับพนักงานในองค์กรที่ได้รับการฝึกซ้อมความเข้าใจกันมาก่อน ซึ่งจะไม่ทำให้คนไข้และญาติผู้ป่วยแตกตื่นโดยแต่ละสีเพื่อสื่อถึงภัยที่แตกต่างกันมีมาตราฐานที่ใกล้เคียงกัน เช่น 

  • รหัสสีน้ำเงิน - เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ที่คุกคามชีวิต
  • รหัสสีแดง – ไฟไหม้หรือไฟที่น่าจะเป็น
  • รหัสสีม่วงหรือชมพู – เด็กหายหรือลักพาตัว
  • รหัสสีเทา – เพื่อเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่ามีบุคคลอันตรายหรือกิจกรรมทางอาญาเกิดขึ้นในสถานที่

6.ระบบแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินขององค์กร
เป็นระบบแจ้งเตือนภายในองค์กร ซี่งแต่ละธุรกิจสามารถนำไปใช้เพื่อสื่อสารเรื่องฉุกเฉินกับพนักงานขององค์กร ผ่านช่องทางคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ในกรณีที่มีเหตุเพลิงไหม้ สารเคมีรั่วไหล หรือภัยธรรมชาติ 

คลิปตัวอย่าง ระบบเตือนภัยแต่ละประเทศรอบโลก

สำหรับประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อยู่ในอันดับความเสี่ยงภัยพิบัติในระดับมาก อยู่อันดับที่ 46 (WPI 9.66) จากทั้งหมด 181 ประเทศ แต่มีระบบเตือนภัยที่ได้รับการยกย่องให้เป็นระบบ “ดีที่สุดในโลก” ที่ชื่อ J-ALERT EAS (Emergency Alert System) หรือ ที่คนท้องถิ่นรู้จักในว่า Zenkoku Shunji Keihō Shisutemu/J Ararto [全国時報システム]

เป็นระบบเตือนภัยที่ครอบคลุมทั้งประเทศผ่านระบบดาวเทียม เมื่อมีเหตุภัยพิบัติ แผ่นดินไหว สึนามิ และขีปนาวุธ ผ่านการออกอากาศการแจ้งเตือนไปยังสื่อท้องถิ่นและประชาชนได้โดยตรงผ่านระบบลำโพงทั่วประเทศ โทรทัศน์ วิทยุ อีเมล์ และการออกอากาศทางมือถือ ซึ่งจะแจ้งเตือน, ข้อควรปฏิบัติ คู่มือสำหรับประชาชนเตรียมรับมือ และประเมินพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่ออพยพประชาชน

โดยจะเห็นว่าช่องทางโทรศัพท์ดูจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงประชาชนเป็นรายบุคคลที่ญี่ปุ่นเองก็เลือกใช้ ซึ่งตรงกับข้อมูล ของ We Are Social ได้เปิดข้อมูล Data & Insight สรุปเป็นรายงาน Digital Stat 2022 พบว่า ทั่วโลกมีเจ้าของโทรศัพท์มือถือมากกว่าคนละ 1 เครื่อง โดยค่าเฉลี่ยในการเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 104.6% ส่วนคนไทยนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกแตะอยู่ที่ 136.5% เข้ามาอยู่ในอันดับที่ 18

โดยที่คนไทยที่มีมือถือสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ 3G, 4G และ 5G เป็นจำนวน 100% ซึ่งเทียบได้ในระดับเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ออสเตเรีย ไต้หวัน และฮ่องกง ซึ่งค่าเฉลี่ยโลกนั้นอยู่ที่ 86.5%

ทั้งนี้การเลือกช่องทางการใช้ระบบเตือนภัยแต่ละประเภท ควรขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย เหตุการณ์และพื้นที่ รวมทั้งระดับความรุนแรง

ระบบ เตือนภัยน้ำท่วม ภัยพิบัติ หมวดหมู่หลักมี 6 ประเภท หนึ่งในนั้นคือวิทยุ

ส่วนไทยมีเว็บไซต์ระบบเตือนภัยที่เป็นส่วนหนึ่งของห้องปฏิบัติการเฝ้าระวังและเตือนภัย น้ำหลาก - ดินถล่ม สำนักวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำแจ้งข้อมูลแบบเรียลไทม์ http://ews1.dwr.go.th/ews/index.php เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ประชาชนตรวจเช็กข่าวสาร ความเคลื่อนไหวและเตรียมความพร้อม ซึ่งเหมาะกับผู้ที่โทรศัพท์มือถือสามารถเข้าอินเทอร์เนตได้เท่านั้น

ระบบ เตือนภัยน้ำท่วม ภัยพิบัติ หมวดหมู่หลักมี 6 ประเภท หนึ่งในนั้นคือวิทยุ

ที่มา

alert-software.com

lexipol.com

skdesu.com

everydaymarketing.co

related