น้องมิ้ม วัย 26 ปี สร้างกุศลยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย ครอบครัวยินยอมการบริจาคอวัยวะไตและตา ช่วยต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ 4 ชีวิต สภากาชาดเชิดชูเกียรติ ร่วมงานฌาปนกิจ
การสร้างกุศลครั้งสุดท้าย ด้วยการมอบชีวิตใหม่ให้กับเพื่อนมนุษย์ เป็นความยิ่งใหญ่ ที่ผู้เสียชีวิตและครอบครัวของ น้องมิ้ม น.ส.จิราภรณ์ ภิญโญ อายุ 26 ปี ที่เสียชีวิตด้วยภาวะสมองตายเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยญาติได้แสดงความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะและดวงตา เพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายและผู้ที่สูญเสียการมองเห็นจำนวน 4 ราย ให้ได้กลับมามีชีวิตใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แห่ชื่นชมครอบครัว น้องเขต-กานต์ สิงหะ บริจาคอวัยวะหลังอุบัติเหตุทำสมองตาย
เช็กเงื่อนไข "บริจาคร่างกาย" ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ร่างแบบไหนนำไปใช้ได้
ช่างภาพผู้ถ่ายทอดประเด็นสังคม-สิ่งแวดล้อม ผ่านงานศิลปะภาพถ่าย
ทั้งนี้ทาง เฟซบุ๊ก ของ ศูนย์ประสานงานรับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้โพสต์ขอบคุณและเชิดชูเกรียรติ โดยกล่าวว่า
ผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา รายที่ 2/2566
วันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 09.30 น. นางนุชจรินทร์ บุญทัน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นพ.ชายตา สุจินพรัหม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมวางพวงหรีดดอกไม้ แล้วแสดงความเสียใจกับญาติ พร้อมเชิดชูเกียรติความดีของผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา น.ส. จิราภรณ์ ภิญโญ (น้องมิ้ม) อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ซึ่งเสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ซึ่งญาติได้แจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะและดวงตาให้แก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย อวัยวะที่บริจาคคือ ไต 2 ข้างและดวงตา 2 ข้าง และส่งมอบให้กับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อต่อลมหายใจอีก 4 ชีวิต ให้กับผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายและผู้ที่สูญเสียการมองเห็น ที่หมดหวังจากการรักษา ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
ซึ่งในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 นพ.ชุมนุม วิทยานันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ มอบหมาย นพ.ชายตา สุจินพรัหม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์และตัวแทนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์เดินทางไปร่วมงานฌาปนกิจและได้กล่าวเชิดชูเกียรติ มอบใบประกาศจากสภากาชาดไทย ให้แก่ญาติ น.ส.จิราภรณ์ ภิญโญ ณ วัดประทุมธรรมชาติ ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
โรงพยาบาลสุรินทร์และสภากาชาดไทยขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้บริจาคอวัยวะ และขออนุโมทนาบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ที่ท่านมีจิตเมตตาเสียสละบริจาคอวัยวะเป็นทาน “ความดีที่ไม่สิ้นสุด คือการอุทิศอวัยวะ เมื่อยามสิ้นสูญ”
ทั้งนี้ สภากาชาด ได้สรุปข้อมูลยอดการบริจาคอวัยวะ ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 ได้ดังนี้
ซึ่งเงื่อนไขของ การบริจาคอวัยวะ ประกอบด้วย
โดยอวัยวะที่สามารถนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วย ได้แก่ ไต 2 ข้าง, ปอด 2 ข้าง, หัวใจ, ตับ, ตับอ่อน นอกจากนี้ยังมีเนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายได้ ได้แก่ ลิ้นหัวใจ, หลอดเลือด, ผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กระจกตา อย่างไรก็ตามขั้นตอนการ-ปลูกถ่ายนั้นต้องพิจารณาจากหมู่เลือด ความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อ ระดับภูมิต้านทานต่อเนื้อเยื่อ ระยะเวลาที่รออวัยวะ และอายุผู้ป่วยด้วย
ในกรณีที่ผู้บริจาคเสียชีวิตจากภาวะสมองตาย จะไม่สามารถระบุให้นำอวัยวะผู้เสียชีวิตไปให้ญาติหรือคนในครอบครัวได้ แต่ในกรณีที่ผู้บริจาคอวัยวะยังมีชีวิตอยู่ สามารถบริจาคอวัยวะ เช่น ไต 1 ข้าง, ตับ, ไขกระดูก เป็นต้น ให้กับญาติโดยสายเลือด หรือคู่สมรสที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกันไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือมีบุตรที่เกิดจากสามี ภรรยาคู่นั้นเท่านั้น
ร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะออนไลน์ได้ที่ลิงก์
https://organdonate.in.th
ร่วมแสดงความจำนงบริจาคดวงตาออนไลน์ได้ที่ลิงก์
http://bit.ly/2bw7cDl
ศึกษาข้อมูลขั้นตอนได้ที่ลิงก์ ของศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย
https://www.organdonate.in.th/
ที่มา