svasdssvasds

สภาองค์กรของผู้บริโภค ฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ กสทช. ควบรวม True-Dtac

สภาองค์กรของผู้บริโภค ฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ กสทช. ควบรวม True-Dtac

สภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ กสทช. กรณีที่ควบรวมทรู-ดีแทค และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง  เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภคนายแทนคุณ จิตต์อิสระ , นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ เดินทางมายื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนมติ กสทช. กรณีที่ควบรวมทรู-ดีแทค และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

น.ส.สารี เปิดเผยว่า วันนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เดินทางมายื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  บอร์ด กสทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ สำนักงาน กสทช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ต่อศาลปกครองกลาง

โดยมีผู้ฟ้องคดีจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย สภาองค์กรของผู้บริโภค  ผู้รับบริการทั้ง 3 เครือข่าย และผู้บริโภคที่ร่วมสนับสนุนทั้งสิ้น 2,022 ราย เพื่อให้เพิกถอนมติกสทช. “รับทราบ” การรวมธุรกิจระหว่าง ทรู-ดีเเทค เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา

เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยที่กสทช. ได้มีลงมติในครั้งนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดการควบรวมธุรกิจ หรือ ผูกขาดตลาด ขึ้น ซึ่งมติดังกล่าวอาจจะขัดต่อกฎหมาย และมีขั้นตอนไม่ถูกต้อง อาจจะก็ส่งผลต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหวังว่าศาลจะให้ความคุ้มครองชั่วคราวเพื่อที่จะลดผลกระทบต่อนักลงทุนและผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหลาย น.ส.สารี ระบุ

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากเห็นคือ อยากให้ กสทช. ใช้อำนาจของตนเองตามกฎหมายในการพิจารณาเรื่องนี้ไม่ใช่ดำเนินการในระดับ “รับทราบ”และลงมติให้ควบรวมโดยที่การลงมติ เห็นด้วย 2 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง และงดลงคะแนน 1 เสียง ก่อนที่ประธานจะออกเสียงชี้ขาดเป็น 3:2 ให้มีการควบรวมเกิดขึ้น

อ่านเรื่งอราวที่เกี่ยวข้อง

น.ส.สารี ระบุว่าจากพฤติกรรมของ กสทช. อาจถือได้ว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และดำเนินการให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี และเป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ถือได้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 60 และขัดต่อพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรขึ้นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 รวมถึงขัดต่อพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 ตลอดจนไม่เป็นไปตามแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2562-2566)

4 คำร้อง กรณีที่ควบรวมทรู-ดีแทค ของ กสทช.

ดังนั้น สภาองค์กรของผู้บริโภคจึงได้ยื่นคำขอไต่สวนฉุกเฉิน และขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพื่อขอให้ศาลโปรดมีคำสั่ง ดังนี้

  1. ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติรับทราบการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565  ทั้งหมด โดยให้ผลแห่งการทุเลาคำสั่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565
  2. ขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งห้ามหรือระงับการกระทำและนิติกรรมที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องมติรับทราบการรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค ในการประชุม กสทช. นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565  ทั้งหมดจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
  3. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดำเนินการชะลอหรือระงับการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบบริษัทระหว่างทรูและดีแทคไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
  4. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชะลอหรือระงับการรับจดทะเบียนและการดำเนินการควบรวมบริษัททรูและดีแทคไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

น.ส.สารี ยืนยันว่า การเดินหน้าคัดค้านการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค เพื่อต้องการรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน ไม่ให้ประชาชนต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นกว่า 244% และไม่ได้เป็นการทำเพื่อองค์กรใดองค์กรหนึ่ง จะเห็นได้จากผู้ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนกว่า 2000 รายชื่อ มีทั้งผู้ใช้บริการทั้ง 3 ค่าย เพราะไม่ต้องการให้เกิดการควบรวมและการผูกขาดขึ้นในอนาคต  ซึ่งรายชื่อ 2022 รายชื่อที่สนับสนุน ถือว่า เป็นจำนวนมากที่สุดตั้งแต่สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้จัดทำกิจกรรมขึ้นมา

และที่ผ่านมาทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เดินหน้าคัดค้านตั้งแต่ที่กสทช.มีมติให้ควบรวมกิจการ โดยได้ยื่นหนังสือคัดค้านการควบรวมไปยังสำนักงาน กสทช. รวมถึงได้เดินทางมายื่นฟ้องศาลปกครองในวันนี้  และยังมีอีก 1 เรื่องที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค จะดำเนินการต่อซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

ด้าน นส.ศิริกัญญา ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ ตนเองจะเดินทางไปยื่นหนังสือ คัดค้านการควบรวมทรู-ดีแทค ที่สำงาน ปปช. ในเวลา 10.00 น.

related