svasdssvasds

"หมอมนูญ" เผย "โควิด" อยู่ในช่วงขาขึ้น เตือนกลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดวัคซีนให้ครบ

"หมอมนูญ" เผย "โควิด" อยู่ในช่วงขาขึ้น เตือนกลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดวัคซีนให้ครบ

"หมอมนูญ" เผยตัวเลขของผู้ติดเชื้อโควิด เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่อง ยังคงพบอาการรุนแรงในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน พร้อมเตือนกลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดวัคซีนให้ครบ

สถนการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน แนวโน้มผู้ติดเชื้อ "โควิด" พบผู้ป่วยติดเชื้อซ้ำได้น้อยกว่าคนที่ยังไม่เคยติดเชื้อ ภูมิคุ้มกันเกิดจากการฉีดวัคซีนลดลงกว่าการติดเชื้อตามธรรมชาติ สถานการณ์โดยทั่วไป จะไม่รุนแรง เพราะมีภูมิต้านทาน ยกเว้นในกลุ่มเปราะบางมีโรคประจำตัว  เช่น โรคไตเรื้อรังที่ต้องฟอกไต โรคปอดโรคหัวใจหรือ 608  ที่จะทำให้โรครุนแรง เช่นเดียวกันกับไข้หวัดใหญ่

 ด้าน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC เปิดเผยถึงสถานการณ์เชื้อไวรัส โควิด-19 ว่า

 เดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ข้อมูลของโรงพยาบาลวิชัยยุทธที่ติดตามโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาร์เอสวี (RSV) และ Human metapneumovirus (hMPV)

เดือนที่แล้วพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากการตรวจทั้ง ATK และ RT-PCR 986 ราย อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง

 พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เดือนที่แล้ว 82 ราย ลดลงเล็กน้อย เชื้อไวรัสทางเดินหายใจ RSV 98 ราย ลดลงบ้าง (ดูกราฟ) และเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ hMPV Human metapneumovirus 6 ราย

พบโรคไข้เลือดออกที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่เพิ่มขึ้นเป็น 40 ราย พบโรคชิคุนกุนยา หรือไข้ปวดข้อยุงลาย 4 ราย

โรคไวรัส Noro (โนโร) และ Rota (โรตา) ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เดือนที่แล้วพบโนโรไวรัส 11 ราย พบโรตาไวรัส 5 ราย

 

 สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอน อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง สูงกว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่และ RSV ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

 ที่น่าเป็นห่วงนอกจากจำนวนคนติดเชื้อไวรัสโควิดเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเห็นคนที่ไม่ใช่คนสูงอายุ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง 608 แต่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนเชื้อตายเพียง 1 เข็ม เมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึงแม้จะได้รับยาต้านไวรัสโมลนูพิราเวียร์ครบโดสก็ตาม ยังเกิดปอดอักเสบ ต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู

ต่างจากคนส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามด้วยเข็มกระตุ้นเวลาติดเชื้อไวรัสโควิด อาการจะน้อย ไม่หนักมาก วัคซีนป้องกันโรคโควิดสามารถลดความรุนแรงของโรคได้จริง

 ขอให้ทุกคนไปรับวัคซีนป้องกันโรคโควิดอย่างน้อย 3 เข็ม ตามด้วยเข็มกระตุ้นเพิ่มอีก 1 เข็ม 4 เดือนหลังเข็มสุดท้าย โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสโควิดตามธรรมชาติและทุกคนควรไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง

 ล่าสุด หมอมนูญ ได้โพสต์เตือนถึงความสำคัญของการตรวจร่างกายประจำปี โดยระบุว่า

 ช่วงโรคโควิดแพร่ระบาด คนกลัวไม่กล้าออกนอกบ้าน ไม่มาตรวจร่างกายประจำปี ทำให้หลายคนพลาดโอกาส ตรวจพบมะเร็งระยะต้น มาพบอีกครั้งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย สายเกินไป ช่วยไม่ทันแล้ว ทั่วโลกประสบปัญหาเดียวกันช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด คนเสียชีวิตจากมะเร็งเพิ่มขึ้นมากเพราะได้รับการวินิจฉัยช้าไป

ผู้ป่วยชายอายุ 70 ปี เป็นเบาหวาน ความดันสูง เคยสูบบุหรี่ 1 ซองต่อวัน หยุดสูบมา 10 ปี

บ้านอยู่จังหวัดสงขลา ปกติมาตรวจร่างกายประจำทุกปี แต่ช่วงโควิดแพร่ระบาด ไม่ได้เดินทางมาตรวจร่างกายมากกว่า 2 ปี

เริ่มไอแห้งๆ 3 สัปดาห์ เบื่ออาหารน้ำหนักลด 2 กิโลกรัม เหนื่อยบ้าง มาพบแพทย์วันที่ 3 ตุลาคม 2565

ตรวจร่างกาย ผอมลง เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวทั้ง 2 ข้าง เอกซเรย์ปอดครั้งก่อนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ปกติ ทำคอมพิวเตอร์ปอดเห็นฝ้าขาวทั้งปอดซ้ายและปอดขวา ค่ามะเร็ง CEA ในเลือดสูง 7.4 เจาะชิ้นเนื้อจากปอดด้านซ้าย ส่งตรวจไม่พบเชื้อวัณโรค ไม่พบเชื้อรา ตรวจทางพยาธิวิทยา พบเป็นมะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma

สรุป: ผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ส่งตรวจพิเศษไม่พบยีนกลายพันธุ์ ใช้ยามุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบำบัดไม่ได้ ผู้ป่วยไอ และเหนื่อยมากขึ้น ต้องใช้ออกซิเจนตลอดเวลา ให้เคมีบำบัดครั้งแรกแต่รับไม่ไหว เสียชีวิตอย่างสงบในรพ.วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565

 

ที่มา : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

related