พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการหน่วยงานรัฐ เร่งสนับสนุน 3 สาขา BCG อาทิ ยาและวัคซีน เกษตร และนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย เพิ่มรายได้เกษตรกร และเร่งลดโลกร้อน
วานนี้ (31 ต.ค. 2565) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจ ชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model) ครั้งที่ 2/2565
ทั้งนี้ได้สั่งการหน่วยงานรัฐ เร่งสนับสนุน 3 สาขาโมเดลเศรษฐกิจ BCG เล็งจัดตั้งศูนย์แปลผลข้อมูลพันธุกรรมสำหรับการแพทย์ แม่นยำในโรคมะเร็ง-โรควินิจฉัยยาก คาด 4 ล้านคนไทยได้ประโยชน์ พร้อมสร้างมาตรฐานเพื่อรองรับการผลิตวัคซีนโรคระบาดในฟาร์ม-หนุนราชบุรี Sandbox จัดการโรคระบาดในสุกร มอบ ก.คลัง ทบทวนภาษีเพื่อผ่อนปรนให้ ‘เอกชน’ จัดตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพ ‘พอลิเอทิลีน’ (Bio-PE) คาดปล่อยคาร์บอนฯ ต่ำกว่าปิโตรเลียมถึง 5 เท่า
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบเคาะมาตรการสนับสนุนการขับเคลื่อน 3 สาขายุทธศาสตร์ ได้แก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง 2022 ในงาน “APEC BCG Economy Thailand 2022"
โลกเปลี่ยน ธุรกิจก็ต้องเปลี่ยน โมเดล BCG จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้อย่างไร?
BCG เทรนด์ที่โลกให้ความสำคัญ ลดใช้ทรัพยากร สร้างมูลค่า สร้างเศรษฐกิจใหม่
ยุทธศาสตร์ BCG โมเดล ตรวจสอบ carbon footprint มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
1. สาขายาและวัคซีน ให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณ 661.79 ล้านบาท เพื่อการจัดตั้งศูนย์แปลผลข้อมูลพันธุกรรมสำหรับการแพทย์แม่นยำในโรคมะเร็ง และศูนย์แปลผลข้อมูลพันธุกรรมสำหรับการแพทย์แม่นยำในโรคหายากและโรควินิจฉัยยาก ซึ่งคาดว่าจะมีคนไทยกว่า 4 ล้านคน มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการดังกล่าว ส่งเสริมการจัดตั้งโรงงานผลิตวัตถุดิบทางยา (Active Pharmaceutical Ingredient, API) ครั้งแรกของประเทศเพื่อความมั่นคงทางด้านสุขภาพการจัดตั้งโรงงานดังกล่าวคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ในรูปแบบของการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด องค์การเภสัชกรรม และ สวทช.
2. สาขาเกษตร ได้สั่งการให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิต Autogenous Vaccine ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการผลิตวัคซีนใช้ป้องกันโรคระบาดที่สำคัญในฟาร์ม เสริมการดำเนินงานของราชบุรี Sandbox ในการจัดการโรคระบาดในสุกร และมอบให้ทุกหน่วยงานที่จัดเก็บข้อมูลตลอด Supply Chain เปิดเผยข้อมูลเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการสู่เกษตรสมัยใหม่ด้วยการใช้คลังข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งนี้มีเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกร ผลิตได้ตรงเป้าและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติต่าง ๆ ด้วยการวางแผนรับมือได้ล่วงหน้า
และ 3. สาขานวัตกรรม โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาแนวทางลดอุปสรรคทางภาษีเพื่อสนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท Braskem ซึ่งเป็นผู้ผลิตโพลิเมอร์ชีวภาพรายใหญ่ที่สุดในโลก ในการจัดตั้งโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพ พอลิเอทิลีน (Bio-PE) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท กำลังการผลิต 2 แสนตัน/ปี ใช้เอทานอล 450 ล้านลิตร/ปี โดยทุกตันของ Bio-PE ที่ผลิตปล่อยก๊าซคาร์บอนออกไซด์ต่ำกว่าปิโตรเลียม 5 เท่า
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจBCG ได้สั่งการและเน้นย้ำให้ภาครัฐทุกกระทรวงเร่งเครื่องสนับสนุนการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการและให้หารือสภาพัฒน์ฯ เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ BCG ทุ่งกุลาร้องไห้ ต่อไป รวมทั้งให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสนับสนุนการใช้สัญลักษณ์ T-Mark (Thailand Trust Mark) สำหรับผู้ประกอบการ BCG และกลุ่มวิสาหกิจขนาดย่อมเพื่อสนับสนุนการขยายตลาดให้กับผู้ประกอบการ BCG อีกทางหนึ่ง
สำนักงบประมาณได้นำแนวคิด BCG ไปเป็นแนวทางการจัดสรรงบประมาณและเตรียมผลักดันให้มี “งบบูรณาการ BCG” ในปีงบประมาณ 2567 และหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการปลดล็อกกฎหมายเพิ่มเติม ได้แก่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานของภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติก” อนุญาตให้ใช้ภาชนะบรรจุที่ทำจากพลาสติกแปรใช้ใหม่ (Recycled Plastic) เพื่อการบรรจุอาหารได้ ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง “ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ” เพื่อการอนุรักษ์ รักษา ฟื้นฟู ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ และประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง “หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอใช้สิทธิเสียภาษีในอัตราศูนย์สำหรับสุราสามทับที่นำไปใช้ในการอุตสาหกรรม” ให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มเติม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวคิดการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล ได้ดำเนินการภายใต้จุดแข็งของประเทศทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมมาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งสอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ ส่งผลดีทำให้ภาคเอกชนไทยต่างขานรับโมเดลเศรษฐกิจ BCG
โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีเอกชนขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มูลค่าประมาณ 80,000 ล้านบาท มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 36 ของมูลค่าโครงการ โดยธุรกิจนวัตกรรมที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน เช่น การผลิตวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ผลิตชุดตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์และน้ำยาสำหรับชุดตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ การผลิตพืชด้วยโรงงานผลิตพืช (Plant Factory) และการผลิตโปรตีนจากพืช และสถาบันการเงินมีการให้สินเชื่อเพื่อการสนับสนุนการประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจ BCG ด้วยมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2570 ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพิ่มจาก 5 หมื่นล้านบาท เป็น 1 แสนล้านบาท
สำหรับการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในภาคสังคมได้เตรียมการจัดตั้ง “ธนาคารอาหารออนไลน์” ด้วยระบบ “คลาวด์ ฟู้ด แบงค์” ครั้งแรกในประเทศไทยด้วยความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ แบบจตุภาคี ซึ่งแพลตฟอร์ม “คลาวด์ ฟู้ด แบงค์” เป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมโยงระหว่างผู้ที่ต้องการบริจาคอาหารกับกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการรับและการส่งต่ออาหาร โดยเอสโอเอสเป็นผู้พัฒนาและดูแลระบบโดยมีบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาแพลตฟอร์ม