ประธาน กกต. ยืนยัน กกต. ที่เหลือ 4 คน ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ หลังนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ถูกคำสั่งปลดจากหัวหน้าคสช. ขณะที่ นายวีระ สมความคิด ส่งซิก ใกล้ได้เวลาออกมาขับไล่เผด็จการแล้ว
วันนี้( 20 มี.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงกรณีหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 มีคำสั่งปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นกรรมการการเลือกตั้ง ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีปัญหา เพราะ กกต.ที่เหลือ สามารถปฏิบัติหน้าที่ 4 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม สำหรับประเด็นมีการใช้คำสั่งมาตรา 44 ต่ออายุของประธานกกต. และ กรรมการกกต. บางคนที่จะมีอายุครบ 70 ปีให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่นั้น ก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน โดยผู้ที่จะมีอายุครบ 70 ปี คือ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ที่จะครบอายุในวันที่ 7 ส.ค. 2561 และตัวเอง จะครบอายุ 70 ปี วันที่ 8 ก.พ. 2562 ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่
ด้านนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า ที่ผ่านมานายสมชัย พยายามทำหน้าที่รักษาประโยชน์ให้ส่วนรวม โดยเฉพาะไม่ยอมให้เผด็จการทหาร ซึ่งตนเคยพูดไว้แล้วว่ากลุ่มเผด็จการต้องการสืบทอดอำนาจ จึงจะทำทุกทางให้ตัวเองได้เปรียบมากที่สุด ถึงเวลานี้อาจจะไม่ใช่แค่เลื่อนการเลือกตั้ง อาจจะถึงขั้นล้มการเลือกตั้ง โดยกลุ่มผู้มีอำนาจไม่สนใจบทเรียนราคาแพงในยุคของพล.อ.สุจินดา คราประยูร
อย่างไรก็ตาม นายวีระ ระบุในช่วงท้ายว่า “พี่น้องเอ๊ย ! ๆๆ ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจได้แล้ว เวลาแห่งการตอบแทนคุณแผ่นดินใกล้เข้ามาถึงแล้ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ระบุว่า ส่วนตัวผมไม่ประทับใจการทำหน้าที่กกต.ของนายสมชัย โดยเฉพาะบทกลอนทำงานใหญ่ต้องใจเอียง สะท้อนวิธีคิดของเจ้าตัวต่อสถานการณ์ก่อนยึดอำนาจชัดมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าคนที่ช่วยกันเปิดทางรัฐประหาร มีกี่คนแล้วที่ต้องอกหักเพราะหลงรักเผด็จการเหมือนอ้อเจ้า