ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยัน กองทัพจะไม่ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพียงเพราะคนกลุ่มเดียว พร้อมสั่งห้ามผู้บังคับบัญชา ลงโทษพลทหารด้วยวิธีการที่รุนแรง โดยให้ถือว่าเป็นน้องชายคนเล็กของกองทัพ
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงนโยบายการดูแลพลทหารใหม่ที่เข้ารายงานตัวประจำการระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2561 ว่า ตนมีนโยบายสร้างทหารต้นแบบ จึงให้ความสำคัญกับพลทหาร ซึ่งถือเป็นน้องชายคนเล็กหรือน้องชายคนสุดท้องของหน่วยทหาร ซึ่งการจะดูแลให้หน่วยฝึกทหารใหม่ดีได้ กำลังพลต้องอยู่ดี กินดี ดังนั้น พลทหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารเกณฑ์หรือทหารที่สมัครเข้ามาประจำการ กองทัพจะต้องดูแลให้ดีที่สุด จึงได้ออกระเบียบใหม่ ดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ที่ต้องถูกสุขลักษณะและที่อยู่อาศัยต้องพอเพียง ไม่แออัด
พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึงการลงโทษพลทหารที่รุนแรงเกินกว่าเหตุว่า เป็นความผิดร้ายแรง หากยังมีอีกถือว่าผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นไม่ใส่ใจดูแล ซึ่งเป็นนโยบายที่เข้มงวด และตนได้สั่งการด้วยตัวเองไปแล้ว
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ยังกล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ว่า เป็นแค่เสียงของคนกลุ่มเดียว เพราะขณะนี้ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่มีทหาร ดังนั้นการยกเลิกการเกณฑ์จึงเป็นไปไม่ได้ พร้อมฝากถึงบรรดาผู้ปกครอง ยืนยัน กองทัพจะดูแลลูกหลานที่เข้ามาเป็นทหารอย่างดีที่สุด
สำหรับการเกณฑ์ทหารเป็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งในทางปฏิบัติพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 กำหนดหน้าที่นี้ให้เฉพาะชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมายมีหน้าที่ต้องเข้ารับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน เมื่ออายุครบ 21 ปี บริบูรณ์ ยกเว้นผู้ที่เรียนหลักสูตรรักษาดินแดง (รด.) ครบ 3 ปี หรือผู้ที่ได้รับการยกเว้นหรือผ่อนผันตามที่กฎหมายกำหนด อาทิ ผู้พิการ เป็นต้น