สนช. เตรียมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ข้าว

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09:00 โดยวาระที่ทุกคนจับตาคือการพิจารณาพระราชบัญญัติ ข้าวในวาระ 2 และ 3 หลังกรรมาธิการพิจารณาปรับแก้ไขแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 37 มาตรา เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา

โดยสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ข้าว มีหลายเรื่องน่าสนใจ อาทิ กำหนดให้จัดทำ Zoning ผลิตข้าว ทั้งประเทศภายใน 3 ปี ดูแลสนับสนุนเรื่องคุณภาพ มาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว มีกรรมการข้าวตรวจสอบรับรองพันธุ์ข้าวให้ปรับก่อนเข้าระบบ 3 ปี เพิ่มองค์ประกอบกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว จากภาคชาวนาเกษตรกร ภาคเอกชน เพิ่มมาตรการป้องกันการลักลอบนำข้าวจากต่างประเทศเข้ามาในไทย การซื้อขายเมล็ดพันธุ์ทำได้ปกติไม่ได้ห้ามจำหน่าย ให้โรงสีออกใบรับรองข้าวเปลือก เพื่อเป็นหลักฐาน สำหรับบทลงโทษ หากฝ่าฝืนไม่ออกใบรับซื้อข้าว ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ออกใบรับซื้อข้าวอันเป็นเท็จ จำคุก ไม่เกิน1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทำรายงานผลตรวจสอบเท็จ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรียกรับ ให้ทรัพย์ รับเงินผู้ตรวจสอบ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ก่อนเข้าวาระมีเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก มายื่นหนังสือร้องคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวและขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ข้าว ต่อ พลเอกศุภวุฒิ อุตมะ หนึ่งในกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ข้าว โดยเครือข่ายเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวกำหนดให้กรรมการจากผู้แทนองค์กรเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 4 คนซึ่งน้อยเกินไป การจัดให้มีเขตศักยภาพการผลิตข้าวของประเทศนั้น ไม่ควรพิจารณาเพียงแค่กายภาพของพื้นที่แต่ต้องให้ความสำคัญกับระบบนิเวศ และไม่ควรส่งเสริมพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวรับรองเท่านั้น แต่ควรส่งเสริมพันธุ์ข้าวที่เกิดขึ้นโดยชาวนารายย่อยและชุมชนชาวนา ซึ่งพลเอกศุภวุฒิ ชี้แจงว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ไม่ต้องการเอาผิดเกษตรกรและยืนยันว่าหากตีความตามบทกฎหมายก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะเอาผิดกับชาวนาด้วย เพราะเรามีนักกฎหมายในกรรมาธิการซึ่งได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนเรื่องการจำกัดพื้นที่การเพาะปลูกนั่นเป็นการเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งต้องดูหลายอย่างไม่ใช่เฉพาะเรื่องดิน แต่ต้องดูถึงความพร้อมเกษตรของเกษตรในหลายด้าน ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีศักยภาพในการเพาะปลูกข้าวก็ต้องได้รับการสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม ทางกรรมาธิการยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรมากกว่า 2 ปีแล้ว แต่ทุกความเห็นของเกษตรกรที่มีการยื่นเข้ามาในวันนี้ก็จะถูกนำไปพิจารณาในการประชุมสนชวันนี้ด้วย