เลือกตั้ง 62 : "อ.เจษฎ์" ขอโทษพรรคอนาคตใหม่ รับจำข้อกฎหมายสลับมาตรา
อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ขอโทษ พรรคอนาคตใหม่ รับให้ความเห็นด้านกฎหมายสลับมาตรา เรื่องข้อมูลบนเว็บไซต์ผิดพลาด ย้ำหากพิสูจน์ชัดว่า "ธนาธร" ไม่เกี่ยวก็ไม่ถึงยุบพรรค
จากกรณีที่ นายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ได้ออกมา แสดงความคิดเห็นด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการที่เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาด นานถึง 5 เดือน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (เลือกตั้ง 62 : ให้ข้อมูลผิด ชีวิตอาจเปลี่ยน อนาคตใหม่ส่อเจอมรสุมยุบพรรค)
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นายเจษฎ์ ได้ออกมาขอโทษ เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เนื่องจากความเห็นทางกฎหมายครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพรรคอนาคตใหม่ โดยโทษของการกระทำผิดตามมาตรา 73 ของ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. นั้นคือการปรับ จำคุก หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งผู้กระทำผิดอาจไม่ใช่ตัวธนาธร กรรมการบริหาร หรือพรรคอนาคตใหม่ถ้าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วย แต่เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ที่อาจมีความเข้าใจผิด และหากพิสูจน์ได้ว่าไม่มีเจตนาก็อาจจะไม่ถูกลงโทษก็ได้ตามหลักการพิจารณากฎหมายอาญา
ขณะเดียวกัน นายเจษฎ์ เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดของผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งธนาธร หรือพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวขออภัย ยอมรับความผิดพลาดที่ลงประวัติของธนาธรผิด แต่เป็นเรื่องผิดพลาดเชิงเทคนิคและผู้ดูแลเว็บไซต์ก็เร่งแก้ไขทันทีภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากได้รับการแจ้ง ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง และตัวธนาธร เองก็ไม่เคยมีการพูดโฆษณาว่าตนเองเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ เชื่อว่ากระแสความนิยมในตัวธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ มาจากจุดยืนทางอุมดมการณ์แนวนโยบาย และความมุ่งมั่นในการทำงานการเมือง ไม่ได้เป็นเพราะการที่ประชาชนถูกทำให้เข้าใจว่าธนาธรเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด
พร้อมขอบคุณ นายเจษฎ์ ที่ออกมายอมรับว่าเข้าใจผิด โดยเชื่อว่า รศ.ดร.เจษฎ์ มีความหวังดี อย่างไรก็ตามหากมีผู้แจ้งความดำเนินคดีใดๆ ทางพรรคก็มีทีมกฎหมายพร้อมรับมือตามขั้นตอนกระบวนการอยู่แล้ว จึงไม่มีความกังวลใด ต่อทั้งคดีนี้และคดีอื่นๆ เช่น คดี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ที่นายธนาธรและกรรมการบริหารอีก 2 ท่านอาจถูกฝากขัง โดยเชื่อว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งจะมีความพยายามเพื่อสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่เช่นนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดีหรือการปล่อยข่าวเท็จ เพราะเกรงกลัวว่าพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นที่รวมตัวกันของผู้ต้องการความเปลี่ยนแปลง ผู้ที่ไม่ยอมจำนนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น จนอาจจะชนะเลือกตั้ง
