อัยการเผย 4 แนวทางคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นไปได้ กรณี กกต. ยื่นตีความสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ระบุมีความเป็นไปได้ทั้งไม่รับเรื่องไว้พิจารณา และรับไว้พิจารณา
นาย ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสุงสุด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นข้อกฎหมาย เกี่ยวกับแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจเป็นไปได้ ในกรณี กกต.ให้วินิจฉัยสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์
โดย นายธนกฤต ระบุว่า แนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะเป็นไปได้คือ
1.ไม่รับเรื่องไว้พิจารณา โดยอ้างเป็นคดีเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กกต. แต่ยังไม่เกิดขึ้น หรือ เป็นหน้าที่ที่กกต.ต้องดำเนินการตามหน้าที่
2.ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณา และมีคำวินิจฉัยว่า คดีไม่มีประเด็นปัญหาในเรื่องอำนาจหน้าที่ของ กกต. โดยเหตุผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามแนวที่ 1 และหรือแนวที่ 2 ดังกล่าวไว้แล้วในแนวทางคำวินิจฉัยที่ 1
3. ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณา และมีคำวินิจฉัยว่า กกต. มีอำนาจหน้าที่ในการคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณที่รัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กำหนดโดย กกต. ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
แต่ไม่ได้วินิจฉัยรับรองวิธีการคำนวณที่ กกต. จะนำมาใช้ในการคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากเห็นว่าเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต. เป็นการเฉพาะ
และแนวทางคำวินิจฉัยที่ 4 ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณา และมีคำวินิจฉัยในแนวทางว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อให้ได้ครบ 150 คน ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตสำหรับแนวทางคำวินิจฉัยที่ 4 นี้ว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในแนวทางนี้ จะเป็นการที่ศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปรับรองความถูกต้องของวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต. ที่จะต้องรับผิดชอบคำนวณจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อให้ถูกต้อง และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณที่กฎหมายกำหนด และหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในแนวทางนี้ ก็จะทำให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อในการเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งต่อๆ ไปด้วย