svasdssvasds

"ป๋าเปรม" จากนายทหารบ้านนอก สู่ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

"ป๋าเปรม" จากนายทหารบ้านนอก สู่ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2559 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ ทรงมีพระราชดำรัสที่ตราตรึงจิตใจคนไทย และจะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เรื่องที่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มาเป็นประธานองคมนตรีว่า "ได้ป๋ามา...ก็ถือว่าอุ่นใจแล้ว" เป็นพระราชดำรัสที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา โดย พล.อ.เปรม เป็นประธานองคมนตรีถึง 2 แผ่นดิน บุคคลที่เป็นรัฐบุรุษ บุคคลที่เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรมต.กลาโหม อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย 8 ปี ย่อมมิใช่บุคคลธรรมดา ทั้งๆ ที่ พล.อ.เปรม นับได้ว่าเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่เติบโตในหน้าที่ราชการกองทัพบก

"ป๋าเปรม" จากนายทหารบ้านนอก สู่ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

ทุกคนเริ่มเรียกพล.อ.เปรมว่า "ป๋า" ก็เพราะว่าเป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ยศ พล.ต.เปรม ติณสูลานนท์ จากนั้นก็ไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 และขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ในปี พ.ศ.2517 โดยปกติทั่วไปแม่ทัพภาคที่ 2 ก็มักจะเกษียณในตำแหน่งประจำกองทัพบกมียศ พล.อ. แต่นายทหารที่มองปัญหาทางการเมืองของสังคมไทยขึ้นขัดแย้งจนผู้คนฆ่ากันตายอย่างมากมายมหาศาล ว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ที่เข้ามาแทรกแซงนั้นเป็นเรื่องที่คนไทยด้วยกันเองทั้งสิ้น จึงต้องให้คนไทยทำความเข้าใจกัน

"ป๋าเปรม" จากนายทหารบ้านนอก สู่ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

จากแม่ทัพภาคที่ 2 จึงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกในปี พ.ศ.2520 และผู้บัญชาการทหารบกในปี พ.ศ.2521 พร้อมๆ กับเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลของพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ที่สุดก็ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ ถึง 3 สมัย ใช้ระยะเวลา 8 ปี และเป็น 8 ปีที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะหลังการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 24 กรกฎาคม 2531 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลเชิญกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง ได้เกิดวาทะที่จดจำทั้งประเทศว่า "ผมพอแล้ว"

"ป๋าเปรม" จากนายทหารบ้านนอก สู่ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

เมื่อเป็นนายกฯ ผลงานสำคัญนอกเหนือจากการประคับประคองประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าแล้ว ยังสามารถทำให้สงครามการเมืองของคนไทยด้วยกันเองยุติลงด้วยนโยบาย 66/2523 และยังแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยการฟังผู้รู้และตัดสินใจอย่างเฉียบขาด จนประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตไปได้ จึงไม่แปลกที่หลังจากวางมือออกจากการเมือง จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี และหลังจากท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ได้เสียชีวิตลง พล.อ.เปรม จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นประธานองคมนตรี และยังเป็นสามัญชนเดียวในปัจจุบัน ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ นับว่าเป็นคนธรรมดาสามัญคนหนึ่งของประเทศไทยที่ประวัติศาสตร์ไทยจะจารึกและจดจำไว้ไปตลอดกาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Breaking News : “พล.อ.เปรม” ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถึงแก่อสัญกรรมวัย 98 ปี

เปิดประวัติ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ประธานองคมนตรี 2 แผ่นดิน

พระองค์ทรงเรียก! และเหตุผลที่คนทั้งประเทศ เรียกพล.อ.เปรม ว่า “ป๋า”

related