"ชัยเกษม" ท้า "อุตตม" โชว์หลักฐานคดีกรุงไทย อย่าพูดเองเออเอง
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ยืนยัน พร้อมให้ตรวจสอบกรณีปล่อยกู้กรุงไทย เพราะศาลชี้ขาดมาแล้วว่าตนเองไม่ผิด ทางด้านนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด ท้า แน่จริงให้นำหลักฐานมาแสดง ว่ามีครั้งใดที่นายอุตตม ได้คัดค้านการปล่อยกู้ในครั้งนั้น เพราะแค่พูดลอย ๆ ยังไม่น่าเชื่อถือ
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีเป็น 1 ในรัฐมนตรี 6 คน ที่ฝ่ายค้านเตรียมซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี ว่า ได้เคยชี้แจงเรื่องคดีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยไปแล้วว่า กระบวนการขั้นตอนทางยุติธรรมในชั้นศาล ตนผ่านมาทุกขั้นตอนแล้วมีการชี้ชัดเจนว่าตนไม่ได้กระทำความผิด
ซึ่งหากถึงขั้นนำไปบิดเบือนมากไปจนทำให้เกิดความเสียหายตนก็จะพิจารณาว่าจะดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ หากจะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางในสภา ตนก็พร้อมตอบเพราะถือเป็นหน้าที่และพร้อมชี้แจงเช่นเดียวกับรัฐมนตรีทุกคนและไม่ได้รู้สึกหนักใจ
ชัยเกษมท้า "อุตตม" โชว์หลักฐานคดีกรุงไทย อย่าพูดเองเออเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.62) ที่ห้องประชุมชั้น 3 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเวทีเสวนา "สภาที่สาม คดีอุตตม ใครถูก ใครผิดประชาชนพิพากษา" ซึ่งเป็นการเสวนากรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้กลุ่มกฤษดามหานครและใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ข้อกู้ โดยนายอุตตม สาวนายน เป็นหนึ่งในกรรมการด้วย
นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด กล่าวว่าการประชุมเรื่องการปล่อยกู้ดังกล่าวมีการประชุม 3 ครั้ง แม้ว่านายอุตตมจะไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย 1 ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีการปรากฏว่านายอุตตมได้แสดงความเห็นคัดค้าน และถึงไม่ประชุมก็ต้องรู้รายละเอียดจากรายงานการประชุม
ดังนั้น นายอุตตม ต้องหามาชี้แจงให้ได้ว่ามีหลักฐานใด ที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยไม่ใช่แค่พูด ส่วนกรณีที่นายอุตตมไปเป็นพยาน และให้การในศาลว่าไม่เห็นด้วยนั้น การกันเป็นพยานเป็นเทคนิคในการสอบสวนเพื่อหาคนผิดมาลงโทษด้วยการกันคนที่ผิดน้อยที่สุดมาเป็นพยาน แต่ไม่ได้หมายความว่านายอุตตมไม่ผิด
ส่วนที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) สรุปสำนวนไม่ตรงกับหลักฐานที่มี นายชัยเกษม กล่าวว่า มีความพยายามเปลี่ยนข้อเท็จจริงในการที่นายอุตตมเข้าไปร่วมอนุมัติเงินกู้ด้วย แต่ไม่มีหลักฐานใดปรากฏที่ธนาคารกรุงไทย
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่การปล่อยเงินกู้จำนวนขนาดนี้จะไม่ระบุหลักฐานอะไรไว้ การที่ คตส. เชื่ออย่างนั้น ตนไม่ให้ราคา เพราะอยู่ในยุคที่บ้านเมืองไม่ปกติ วันนี้เมื่อปรากฏพยานหลักฐานใหม่ขึ้นมาอาจจะมีการรื้อคดีขึ้นมาสืบสวนใหม่ได้
ถ้ามองในมุมคดีอาญายังอยู่ในข่ายที่ถูกดำเนินคดีได้ แต่จากความรู้สึกของตน ถ้ายังอยู่ในยุคนี้ก็อย่าไปหวังเลยว่าจะมีการรื้อคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างแน่นอน
