svasdssvasds

"ดีเอสไอ" เข้าเยี่ยม "ภรรยาบิลลี่" รับปากทำคดีเต็มที่-ไร้ใบสั่ง

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

"มึนอ"​ ภรรยา นายบิลลี่​ พอละจี รักจงเจริญ ร่ำไห้ต่อหน้า​รอง​อธิบดีดีเอสไอที่มาเยี่ยมบ้านและมาแจ้งผลการตรวจนิติวิทยาศาสตร์​โครงกระดูกบิลลี่อย่างเป็นทางการ​ เจ้าตัวเผยหวั่นผู้มีอิทธิพล​แทรกแซงคดีจนสาวไม่ถึงฆาตกร​ ด้าน​ DSI​ รับปากทำคดีทำเต็มที่ไร้ใบสั่ง

5​ ก.ย.​ 62​ นางพิณนภา​ (มึนอ)​ พฤกษาพรรณ กล่าวกับ​ DSI​ ทั้งน้ำตาว่าเป็นห่วงว่าจะมีผู้มีอิทธิพล ทำให้เกิดการแทรกแซงคดีจนที่สุด​ไม่สามารถหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าสามีได้​ อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณกรมสอบสวนคดีพิเศษที่หาโครงกระดูกบิลลี่จนพบ​ นำมาสู่ขั้นตอนของการค้นหาฆาตกรต่อไป​

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่อุทยาน​ฯ​ ระบุว่าบริเวณสะพานแขวนที่ลอยอังคารของกะเหรี่ยง​ นั้นมึนอยืนยันว่าวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงไม่​มีการลอยอังคารลงในน้ำ​ จะมีก็แต่ฝังในป่าและเผา จะไม่นำกระดูกกลับมา ด้าน​ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร​ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมาเยี่ยม​ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยา นายพอละจี รักจงเจริญ ที่บ้านป่าเด็ง​ อ.แก่งกระจาน​ จ.เพชรบุรี ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ฝากความห่วงใยมาด้วย​ และยังเป็นการแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการด้วย​

นอกจากนี้ได้นำแผนผังคดีมามอบให้มึนอดู ว่าเท่าที่รับฟังการแถลงข่าวทางทีวีแล้วยังติดใจหรือสงสัยประเด็นใด จะชี้แจงให้กระจ่างชัด เพราะตามกฎหมายถือว่ามึนอเป็นผู้เสียหาย แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่ก็เป็นภรรยาโดยพฤตินัย เป็นโจทก์ร่วมในคดีได้

สำหรับกระดูกที่พบในบริเวณใกล้เคียงกับถังน้ำมัน 200 ลิตร มีจำนวน 20 ชิ้น​ ตรวจสอบเป็นชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว 8 ชิ้น​ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ​ ส่วนชิ้นกะโหลกศีรษะด้านซ้าย  เชื่อมโยงทาง DNA แล้วพบว่าเป็นของนายบิลลี่ ทั้งนี้จะมอบเงิน ช่วยเหลือคดีจากกรมคุ้มครองสิทธิ์​ให้แก่มึนอ​ ในวันที่ 18 กันยายนนี้  ยืนยันว่าจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา​ เต็มความสามารถ​ ไร้ใบสั่งจากใครทั้งสิ้น

ส่วนประเด็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระบุว่าสะพานแขวนเป็นจุดลอยอังคาร จึงพบเห็นเศษกระดูกอยู่บ่อยๆ และรวมถึงเหล็กเส้น และถังแดงนั้น รองอธิบดีดีเอสไอบอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ ไม่อยากตอบโต้

related