"วิษณุ -ปิยบุตร-ไอติม" แลกหนังสือ แจกลายเซ็น "ลงเรือแป๊ะ-การเมืองแห่งความหวัง-Why so democracy" งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 โดยรองนายกรัฐมนตรี บอกคนอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก พร้อมแนะคนไม่ชอบรัฐบาลต้องอ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 ต.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ไปร่วมมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 24 ที่เมืองทองธานี เพื่อแจกลายเซ็นในหนังสือ "ลงเรือแป๊ะ" ที่บูธมติชน โดยได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก
ซึ่งหนังสือลงเรือแป๊ะนี้ เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ต.ค.62 ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาตินี้ และในวันเดียวกันนี้จัดพิมพ์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน นายธงทอง จันทรางศุ ก็ได้มาแจกลายเซ็นหนังสือ “ดวงใจในทรงจำ จดหมายเหตุภาคประชาชน เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาพิเศษ 2562”
นอกจากนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้มาแจกลายเซ็นในหนังสือ “การเมืองแห่งความหวัง” ที่บูธมติชนด้วยเช่นกัน โดยระหว่างแจกลายเซ็นนายปิยะบุตร ได้เข้ามาสวัสดี และนำหนังสือที่ตนเองเขียนมามอบให้นายวิษณุ ขณะเดียวกันนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม หลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เข้ามาสวัสดี พร้อมมอบหนังสือ "Why so democracy "ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะถ่ายภาพร่วมกัน
นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ ว่า ที่ผ่านมาตนเขียนหนังสือเยอะ หลายประเภท จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ต้องขอบคุณประชาชนที่มาเที่ยวงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 24 นี้ ถือว่าเป็นงานที่ทำให้ผู้พิมพ์ยังสามารถอยู่ได้ และผู้อ่านก็สามารถเลือกซื้อหนังสือที่มีประโยชน์ หนังสือบางอย่างที่ไม่คิดว่ามีอยู่ก็สามารถหาเจอได้ที่งานนี้
สำหรับหนังสือลงเรือแปะตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ส่วนจะมีตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 3 หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะเรื่องนี้ทางสำนักพิมพ์มติชนเป็นผู้จัดการให้ ส่วนเรื่องรายได้จากการขายหนังสือก็มอบให้กับมูลนิธิต่างๆ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมอบให้มูลนิธิใด
นายวิษณุกล่าวว่า คนที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ชื่อก็บอกแล้วว่าลงเรือแป๊ะ สุภาษิตโบราณ "ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ" คล้ายกับเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเป็นการรวบรวมเรื่องราวการทำงานกับรัฐบาลตลอด 5 ปี ว่าผ่านเหตุการณ์อะไรกันมาบ้าง แล้วได้ตามใจแป๊ะหรือไม่ จริงๆ ตอนแรกตนคิดว่าคงอยู่ร่วมกับรัฐบาลเพียง 5 ปีนั้น แล้วออกไปเขียนหนังสือต่อ แต่เมื่อยังต้องอยู่ต่อก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งในรัฐบาลหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อหรือไม่
“คนที่ไม่ชื่นชอบรัฐบาลควรจะต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเมื่อชื่นชอบ ไม่มีใครมาเขียนก็ไม่ได้อยากจะรับรู้อะไรแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านแล้วอาจจะเจอประเด็นที่ “ว่าแล้ว” หรือมิเช่นนั้นอาจจะรู้สึกชอบขึ้นมาบ้างก็ได้ ต้องเข้าใจและเห็นใจคนที่เป็นรัฐบาล ผมพูดได้เพราะอยู่กับรัฐบาลในหลายชุด บางชุดเป็นรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบ บางชุดเป็นรัฐบาลที่ประชาชนไม่ชื่นชอบ แต่ต้องการให้เข้าใจว่าคนที่ตกที่นั่งเป็นรัฐบาลแล้วนั้น บางครั้งเขาต้องทำอะไรในสิ่งที่ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ แต่เขาจำเป็นต้องทำ หรือบางครั้งเขาไม่ทำในสิ่งที่เราอยากจะเห็นเขาทำ แต่เขาก็มีเหตุผลที่เขาไม่อาจจะทำได้ มาเป็นรัฐบาลแล้วถึงจะรู้ ถ้าไม่เป็นรัฐบาล เป็นแค่ฝ่ายค้าน เป็นแค่ฝ่ายกลางๆ หรือเป็นแค่คนที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาล หรือไม่ได้ตกที่นั่งอย่างนั้น ก็ทำใจอย่างนี้ซะก่อน ก็อ่านไปเถอะ จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับรัฐบาลใดก็อ่านไป ผมว่ามันคงจะมีอะไรที่เป็นความรู้ทั้งสิ้น” นายวิษณุ กล่าว