สมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "อย่าผลักนิสิตออกนอกรั้ว" หลังจุฬาฯ ประกาศ ไม่อนุมัติให้จัดกิจกรรม
หลังจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศ ไม่อนุมัติให้จัดกิจกรรมในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ก็ได้โพสต์ข้อความ ดังนี้
“อย่าผลักนักเรียน นักศึกษา ออกนอกรั้ว การชุมนุมในรั้วของโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย อย่างน้อยที่สุดก็ยังไม่ผิด พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 เพราะในมาตรา 3 (4) ได้ยกเว้น การชุมนุมในสถานศึกษา ว่า ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของพรบ.ฉบับนี้
“ดังนั้นการที่สถาบันการศึกษาไม่อนุญาตให้นักเรียนนักศึกษาใช้สถานที่เท่ากับการผลักให้การชุมนุมไปอยู่ภายนอกมหาวิทยาลัยซึ่งจะจัดอย่างไรก็มีความผิดที่ตามมามากมาย
“เช่น ต้องขออนุญาตก่อนล่วงหน้า ห้ามกีดขวางทางจราจร ห้ามใช้เสียงเกินกว่าระดับเสียงที่กำหนด และ มี กม.ที่สามารถเอาผิดได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พรบ.จราจร พรบ.รักษาความสะอาด ฯลฯ
“การเจรจากับผู้จัด และให้จำกัดขอบเขตของการอภิปราย และ ขอไม่ให้ใช้ถ้อยคำที่ยั่วยุ ไม่ให้เกียรติ และกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ของสถานศึกษา
“คิดให้ดีครับ หากผู้บริหารมีเมตตาต่อเด็กจริง อย่าผลักเด็กออกนอกมหาวิทยาลัย”
ส่วนการประกาศสำนักบริหารกิจการนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ไม่อนุมัติให้จัดกิจกรรมในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย มีเนื้อหาดังนี้
ตามที่กลุ่มคณะจุฬาฯ และสปริงมูฟเมนต์ มีหนังสือขออนุญาตจัดกิจกรรมภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อผลักดันปัญหาของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเพื่อให้ความรู้ด้านการเมืองของนิสิตต่อสถานการณ์ทางการเมืองไทยในปัจจุบัน ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 15.00 -20.00 น. นั้น
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเรียนให้ทราบว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายสนับสนุนการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และไม่กระทำการใดที่เป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
เมื่อพิจารณาหนังสือของนิสิตแล้วเพื่อให้เป็นไปตามกรอบการใช้สิทธิเสรีภาพในฐานะประชาชนของนิสิตและเพื่อเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยให้แก่นิสิตอย่างเต็มที่
สำนักบริหารกิจการนิสิตจึงเห็นว่าควรจะได้มีการหารือกับนิสิตผู้ขออนุญาตโดยตรงถึงแผนการดำเนินการจัดการชุมนุมให้เกิดความรอบคอบทั้งในแง่ของรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมการจัดกิจกรรมที่เป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย
ตลอดจนแผนการบริหารการจัดการพื้นที่และดูแลความปลอดภัยที่ครบถ้วนเพียงพอมิให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายและขยายวงความขัดแย้งจนอาจจะนำไปสู่ความรุนแรง
การที่ผู้ขออนุญาตได้จัดส่งหนังสือขออนุญาตจัดกิจกรรมดังกล่าวในระยะเวลาที่กระชั้นชิดมาก ทำให้สำนักบริหารกิจการนิสิตไม่สามารถประสานงานกับหน่วยงานภายในและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องตามที่แจ้งขอได้ทันกำหนดเวลา
ด้วยความห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนิสิตตลอดจนประชาคมจุฬาฯ สำนักบริหารกิจการนิสิต จึงยังไม่อาจอนุญาตให้จัดกิจกรรมในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ได้
ทั้งนี้ขอให้ผู้ประสานงานของนิสิตผู้ขออนุญาตมาพบที่สำนักบริหารกิจการนิสิต เพื่อหารือในรายละเอียดการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมและทำความตกลงร่วมกันกับมหาวิทยาลัยในการจัดกิจกรรมต่อไป
อนึ่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถอนุญาตให้นิสิตจัดกิจกรรมของนิสิตได้โดยกิจกรรมต้องมีรูปแบบการจัดกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ และไม่ต้องห้ามตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1. เป็นกิจกรรมที่จัดโดยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรูปแบบเชิงวิชาการ
2. เป็นกิจกรรมที่ไม่มีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
3. เป็นกิจกรรมที่ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย
4. เป็นกิจกรรมที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพหรือความเชื่อของผู้อื่น
5. เป็นกิจกรรมที่ไม่มีความเสี่ยงนำไปสู่ความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และนำไปสู่ความรุนแรงในสังคม
ทั้งนี้ หากปรากฏว่ามีการฝ่าฝืนดำเนินกิจกรรมโดยไม่รับอนุญาต นิสิตที่ขอจัดกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะถูกดำเนินการทางวินัยตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมกิจกรรมหรือใช้พื้นที่บริเวณที่มีกิจกรรม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าสนับสนุนการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนานิสิตภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเสมอโดยกิจกรรมนิสิตนั้นต้องอยู่ภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
รวมทั้งการรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และเป็นกิจกรรมที่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัย
ต่อมาทางผู้จัดกิจกรรม ได้ยืนยันว่า แม้จะมีประกาศห้ามดังกล่าว แต่ผู้จัดก็จะยันคงเดินหน้าจัดการชุมนุมในมหาวิทยาลัยต่อไป โดยเลื่อนเวลาเป็น 16.00 น. และปลี่ยนสถานที่เป็นลานพระบรมรูปสองรัชกาล