ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
ธุรกิจฟาสฟู๊ดเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของพฤติกรรมผู้บริโภครวมถึงการเปลี่ยนมือด้านบริหารอย่าง ไทยเบพ จะมีความคืบหน้าอย่างไร
เมื่อความสะดวกและรวดเร็วเป็นปัจจัยหลัก ไลฟ์สไตล์ของการรับประทานอาหารจึงเปลี่ยนไป จุดเริ่มต้นของธุรกิจฟาสฟู้ดจึงเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวัน จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจึงทำให้ธุรกิจกลุ่มธุรกิจอาหารบริการด่วน หรือ Quick service restaurant อย่าง Fastfood หรือว่า KFC เข้ามาเป็นปัจจัยหลักต่อการบริโภคอาหารในแต่ละมื้อของคนรุ่นใหม่ ด้วยความสะดวกและรวดเร็ว ทั้งด้านราคาและรสชาดรวมถึงการให้บริการและโปรโมชั่นที่จูงใจ
เมื่อเปิดดูมูลค่าธุรกิจอาหารบริการด่วนในไทย ปัจจุบันมีมูลค่าปีละ 34,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดไก่ทอด 40% หรือประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่ง KFC มีส่วนแบ่งตลาด 53% หรือประมาณ 9,000 ล้านบาท ในรอบปีที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซื้อกิจการร้านไก่ทอดเคเอฟซี จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เจ้าของแฟรนไชส์เคเอฟซี
ในปัจจุบันเคเอฟซีในประเทศไทยมีทั้งหมด 586 สาขา แบ่งออกเป็นของกลุ่ม CRG ในเครือเซ็นทรัล 219 สาขา สัดส่วน 37% และอาร์ดี 123 สาขา สัดส่วน 21% และอีก 240 สาขา สัดส่วน 42% ที่เป็นของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลังจากที่ได้บรรลุข้อตกลงการซื้อร้านเคเอฟซี จาก บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ที่เหลืออยู่ทั้งหมด 240 สาขา เรียบร้อยแล้ว รวมมูลค่ากว่า 11,300 ล้านบาท
สำหรับการตกลงเข้าซื้อร้านเคเอฟซี ของกลุ่มไทยเบฟ ดูเหมือนว่าจะเป็นนัยยะสำคัญทางธุรกิจ หรือ Business model ที่จะเกิดขึ้นใหม่ เพราะนอกจากจะเป็นการขยายเพื่อเพิ่มช่องทางธุรกิจและโอกาสทางการค้าแล้ว กลุ่มธุรกิจในเครือไทเบฟเองก็สามารถที่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจ fast-food ได้อย่างครบวงจร
[embed]https://youtu.be/-DB4Lb5Sd5w[/embed]