มองรากลึก วิกฤติ เศรษฐกิจครั้งใหญ่ เวเนซุเอลา

รากลึก วิกฤติเศรษฐกิจ เวเนซุเอลา

วิกฤตเศรษกิจ ในประเทศเวเนซูเอลา ฝังรากลึก มานานแล้ว หากย้อนไปตั้งแต่ เวเนซูเอลา ได้รัฐบาลประชานิยมในปี 1999 นำโดยประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ มาจนถึงคนล่าสุด นิโคลัส มาดูโร แม้ว่า นโยบายสังคมนิยม ของชาเวซ จะมีจุดประสงค์ เพื่อช่วยคนจน โดยการสร้างเพดานราคา เครื่องอุปโภคบริโภคหลายอย่าง แต่ก็เป็นสาเหตุ ที่ทำให้บริษัทที่ผลิต ไม่สามารถสร้างผลกำไร เพื่อดำเนินการต่อ รวมไปถึงการควบคุมค่าเงิน ที่รัฐบาลทำมา ตั้งแต่ปี 2003

เวเนซูเอลา เป็นประเทศร่ำรวยน้ำมัน มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก แต่นี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุ ของวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อมีน้ำมันมาก เวเนซูเอลา ก็ไม่เคยนึกถึง อุตสาหกรรมอื่น และนำเข้าสินค้า แทบทุกอย่าง เมื่อรายได้จากการขายน้ำมันนับเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ จากการส่งออก ของประเทศ ราคาน้ำมัน ที่ดำดิ่งลงในปี 2014 ทำให้ค่าเงินโบลิวาร์ ของเวเนซูเอลาเริ่มระส่ำ ด้วยก้อนเงินเท่าเดิมที่นำเข้าสินค้าได้น้อยลง ทำให้สินค้าหลายอย่างเริ่มหายากขึ้น ร้านค้าก็ขึ้นราคาสินค้า ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อมากขึ้น

นอกจากนั้น รัฐบาลสั่งพิมพ์ธนบัตร เพิ่มมากขึ้น และปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ สูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพยายามดึงแรงสนับสนุน จากประชาชนที่ยากจน ค่าเงินจึงถูกลดคุณค่าอย่างรวดเร็ว  รัฐบาลเริ่มหมดเงินสด และกลายเป็นไม่ชำระหนี้  กับพันธบัตรรัฐบาล บางตัว ทำให้เจ้าหนี้  ไม่อยากลงทุนกับเวเนซูเอลา อีกต่อไป แล้วรัฐบาล ก็พิมพ์ธนบัติเพิ่ม ยิ่งทำให้ค่าเงินโบลิวาร์ ตกต่ำลงอีก

อัตราเงินเฟ้อ เดือนกรกฎาคม  ที่ผ่านมาอยู่ที่ 83,000 เปอร์เซ็นต์ ราคาข้าวของเครื่องใช้ สูงขึ้นเท่าตัวทุกๆ 26 วัน จนรัฐบาล ประกาศปรับค่าเงินเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตัดศูนย์ออก 5 ตัวจากธนบัตร เท่ากับว่า ธนบัตรใหม่ 1 โบลิวาร์ จะมีมูลค่าเทียบเท่าธนบัตร 100,000 โบลิวาร์เดิม ขณะที่ประธานสมาพันธ์หอการค้าแห่งเวเนซุเอลามองว่า ธนบัตรใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Strong Bolivar หรือเงินโบลิวาร์ที่แข็งแกร่ง จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไร้เสถียรภาพ

การปรับค่าเงินโบลิวาร์ เป็นหนึ่งในมาตรการเศรษฐกิจใหม่ ที่รัฐบาลโฆษณาว่า เป็นสูตรมหัศจรรย์ ที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาตรการอื่นๆนอกจากนี้ คือปรับค่าแรงขั้นต่ำ มาแล้วถึง 34 ครั้ง ภายในเกือบ 1 ปี ผูกค่าเงินโบลิวาร์ กับน้ำมันปิโตรเลียม ลดการชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิง และขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 4 เปอร์เซ็นต์ เป็น 16 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ชั้นวางของ ในร้านค้าปลีก ก็ยังว่างเปล่า เพราะสินค้าขาดแคลน และบริษัทต่างๆ ก็ยังไม่รู้ว่าจะจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ ที่เพิ่มขึ้นมา 34 เท่า ได้อย่างไร เมืองบางเมือง ถึงขนาดลดการจ่ายน้ำ และไฟฟ้า เพราะขาดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จนกระทบการทำงานของโรงพยาบาล นักวิเคราะห์ระบุว่า ไม่นาน เวเนซุเอลา จะวนกลับเข้าสูปัญหาเดิม หากไม่แก้ปัญหา ที่ต้นเหตุคือเงินเฟ้อขั้นรุนแรง