ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เว็บไซต์พันทิปได้มีกระทู้หนึ่งที่กำลังเป็นดราม่า ออกมาเล่าประสบการณ์ตรงที่ผู้ตั้งกระทุ้ได้ประสบมากับการจ้างอินฟลูเอนเซอร์จากเฟซบุ๊กเพจชื่อดัง โดยบอกเล่าถึงทริปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไปแบบส่วนตัวกับครอบครัว วึ่งหมดเงินไปกว่า 5 แสนบาท มีกำหนดหารเที่ยว 6 วัน โดยได้เล่าถึงประสบการณืในการเที่ยวครั้งนี้ว่า...เราเลยอยากมาแชร์ความประทับใจนี้ให้ทุกคนได้ฟัง---- อ่านกระทู้ต้นฉับบคลิ๊ก
มันเริ่มมาจาก เราอยากไปเที่ยวแบบยกบ้านซึ่งประกอบไปด้วยผู้ใหญ่ 4 คนเด็กขวบครึ่ง 2 คน ผู้สูงอายุ ฃอายุย่าง 70 และ60 อีก2คนแน่นอนว่า ทริปจะต้องต๊ะต่อนยอนมากเลยคุยกันว่า เรามาจัดไพรเวททัวร์กันเถอะ
ชิวๆ ไม่ต้องอะไรมาก เน้นกินของอร่อย และพาเด็กๆไปเปิดหูเปิดตาเราเลือกประเทศญี่ปุ่นเพราะเดินทางไม่นานเกิน และมีอาหารอร่อยเยอะแยะคราวนี้เราจะให้ใครจัดทริปให้ดีน้องสะใภ้แนะนำว่า มีเพื่อนอยู่คนนึง ซึ่งก็เป็นเพื่อนน้องชายและเราด้วย เคยมาเล่นด้วยกันที่บ้านบ่อยๆตอนเด็กๆเค้าโตมาเป็นกูรู ทำเพจและรายการเกี่ยวกับการตะลุยกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆ มีคนติดตามเยอะแยะและเค้าสามารถจัดทัวร์ให้ได้
เราฝันหวานมาก อยากกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆบ้างเพื่อไม่ให้เด็กๆเหนื่อยเกินวันเที่ยวจริงๆจึงมีแค่ 3 วันวันไปเดินทางแต่เช้า ไปถึงญี่ปุ่นค่ำๆวันกลับก็เดินทางแต่เช้า ถึงกรุงเทพค่ำๆเช่นกันโดยราคาสำหรับการเที่ยว 3 วันคือเกินครึ่งล้านมาประมาณนึงถูกต้องจ้ะ เกินครึ่งล้าน ไม่ใช่ครึ่งแสนราคานี้สำหรับคนเค็มๆอย่างเราถือว่าหฤโหดมากแต่เพื่ออาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆ เรายอม!!
เดี๋ยวเรามาติดตามชม มหากาพย์#ทัวร์ครึ่งล้านเพื่อกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆ กันนะบอกเลย ยาว! ปล. ลืมบอกว่า ราคานี้ ได้ตั๋วอีโคโนมี่ด้วยนะจ๊ะ
ทัวร์ครึ่งล้านเพื่อกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆ
เริ่มจากตั๋วเครื่องบิน เนิ่องจากราคาครึ่งล้านที่จ่ายไป ได้แค่ตั๋วอีโค่แม้เราจะอยากนั่ง BC สวยๆเพียงใดก็คงของบป๊าไม่ได้กว่านี้แล้วแต่โชคยังดี บัตร SCB ที่ใช้อยู่ เค้าอัพเกรดตั๋วให้ได้ เพียงแต่มีเงื่อนไข และต้องซื้อตั๋วผ่านเค้าพอเช็คแล้ว คนที่ได้สิทธิ์ มีแค่เรากับหม่าม๊าเราเลยกะว่า ซื้อตั๋วชื่อเราไปก่อน ตอนขึ้นเครื่องค่อยให้ป๊าไปนั่งกะม๊าแทน ที่เหลือก็นั่งอีโค่ไปดังนั้น เราจึงต้องซื้อตั๋วเอง2ใบของเรากะม๊า
และให้น้องที่จัดทัวร์ให้ ซื้อ4ใบ ของป๊า น้องชาย น้องสะใภ้ และสามีเรา(ต่อไปนี้ขอเรียกน้องจัดทัวร์ด้วยนามสมมุติว่า น้องสุดๆ)หลังจากคอนเฟิร์มเรื่องรายชื่อ และอื่นๆแล้ว
เราก็โอนเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไป โดยสิ่งที่ได้กลับมาคือ ไฟล์โปรแกรมทัวร์ แบบคร่าวๆ เอ4 5หน้าและไม่ได้รับข้อมูล เอกสารใดๆจากน้องสุดๆอีกยกเว้นเราจะถามไป เช่น นน กระเป๋าเท่าไรคะ ไรงี้เราคิดว่า เดี๋ยวใกล้ๆวันเดินทาง น้องคงส่งรายละเอียดเพิ่มให้ พวก อุณหภูมิเท่าไร รายละเอียดตั๋ว นัดเจอกันที่ไหน ฯลฯ แบบมาตรฐานทัวร์ทั่วๆไปแต่สิ่งที่ได้คือ ไลน์มา 1 ประโยคว่าอากาศไม่หนาวมากเด้อ 10-20องศา เตรียมเสื้อกลางๆมาได้นะจ๊ะจน 2คืนก่อนวันเดินทางขณะจัดกระเป๋า เราก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า มีแต้มบัตรเยอะแยะ ทำไมไม่เอาไปแลกไมล์อัพเกรดตั๋วล่ะ? จะได้นั่ง BC กันสวยๆทุกคนแต่เราไม่มีหมายเลขตั๋ว การบินไทยเช็คอะไรให้ไม่ได้
เลยรีบไลน์หาน้องสุดๆกลางดึก ขอรายละเอียดตั๋วตอนสายๆน้องส่งมาให้พบว่า ใน 4 รายชื่อนั้นคือเรา น้องชาย น้องสะใภ้ และสามีเรา ไม่มีชื่อป๊า!! กลายเป็นว่า ตอนนี้เรามีตั๋ว 2ใบ แต่ป๊าไม่มีแถมตั๋วชื่อเรา ใบที่น้องสุดๆซื้อให้นั้นยังเป็นนามสกุลเดิมก่อนแต่งงานไปอีกผิดซ้ำผิดซ้อน 2 เด้งรีบโทรหาน้องอย่างไว ช่วยพี่ด้วย!!น้องบอกว่า น้องอยู่ญี่ปุ่น พี่โทรหาการบินไทยเองนะพี่
ไม่ยากหรอก เสียตังเพิ่มแค่2พันห้า เบอร์โทรพี่ก็เสิชเอาเองตามเว็บเด้อ หืม? แต่เดี๋ยวไม่ทัน จัดการเองก็ได้โทรหาการบินไทย เค้าบอกว่า เค้าทำไรให้ไม่ได้นะคะ ตั๋วนี้ซื้อผ่านเอเย่นออนไลน์ ไปติดต่อเอเย่นเองเด้อ อ่ะ หาเบอร์เอเย่นเอง โทรเองเอเย่นบอก ตั๋วนี้เป็นตั๋วโปรแบบซุปเปอร์ถูก เปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย ซื้อตั๋วใหม่เอาเด้อ ส่วนตั๋วเดิม อยากยกเลิกก็ได้ แต่ไม่ได้เงินคืนนะจ๊ะ
โทรหาน้องสุดๆอีกรอบ น้องบอก แค่เปลี่ยนชื่อแค่นี้ไม่น่ายาก เดี๋ยวหนูให้น้องสาวหนูที่อยู่เมืองไทยจัดการให้ พี่ไม่ต้องวอรี่ โอเค๊ ไม่โอเค พี่วอรี่มาก โทรหาการบินไทยและเอเย่นซ้ำ แต่ไม่ช่วยอะไร
การบินไทยบอกว่า ถ้าตั๋วเป็นแบบ flexible เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้นะจ๊ะ แต่ตั๋วสุดถูกแบบนี้ ทำไรไม่ได้เลยจ้า ทิ้งอย่างเดียว แน่นอนว่าแลกไมล์อัพเกรดก็ไม่ได้เช่นก้น ซึ่งสามีเช็คในเว็บให้ พบว่าตั๋วflexible คือจ่ายเพิ่มพันเดียว ฮือออออ TT โทรหา SCB อ้อนขอเค้าเปลี่ยนชื่อตั๋วเราเป็นชื่อป๊าแต่เค้าทำให้ไม่ได้ เพราะมันคือตั๋วโปรอัพเกรดซึ่งอันนี้ว่าเค้าไม่ได้เลย มันไม่ใช่ความผิดอะไรของเค้าหลังจากวุ่นวายเช็คเองอยู่ 2 ชม โดยยังไม่มีการตอบกลับใดๆจากทีมน้องสุดๆ เราจึงไลน์หาน้องอีกรอบ จากนั้น น้องสาวของน้องสุดๆก็ไลน์มาว่า เรื่องตั๋วเป็นไงบ้าง ให้หนูลองคุยให้มั้ยคะ หึมม???? แล้วที่ผ่านมาหนูทำไรอยู่คะลูก อ่ะ สงบสติอารมณ์ ให้น้องจัดการ เราก็เช็คน้องเป็นระยะ น้องบอกว่า ลองโทรให้ค่ะ แต่ไม่สะดวกนะ ขับรถอยู่อึมม น้องใจดีช่วยลองคุย ลองโทรให้เราด้วยอ่ะมีน้ำใจมาก ขนาดขับรถอยู่แท้ๆได้ฟีลเป็นกันเอง เหมือนไปเที่ยวกับเพื่อนเลอ~
ผ่านไปอีก 2 ชม น้องก็ส่งว๊อยซ์แมสเสจมาว่าอ่ะพี่ นี่เบอร์โทร พี่ติดต่อเองต่อเลยนะ หนูต้องเข้าประชุมละ บัย~
ว๊อท เดอะ ฟรุ๊ตตตตตตตตตตตกุจะเดินทางพรุ่งนี้เช้าแล้วเว้ยเฮ้ยยยยยยยยสุดท้ายน้องสุดๆก็ติดต่อกลับมาถามว่า พี่ได้ลองเช็คราคาซื้อตั๋วใหม่ละยังเคอะ?
บอกไป พี่เช็คละเค่อะ สามหมื่นหก (ราคาซื้อกับเว็บ tg แบบ flexible) น้องอึ้งๆ และเงียบหายไปสักพักจึงไลน์กลับมาว่า พี่ซื้อจากเว็บเอเย่นที่หนูแค้ปหน้าจอมาให้นี้นะคะ ถูกกว่า หนูหาได้แค่ สามหมื่นสองเอง ถูกกว่าพี่ตั้งสี่พัน เอื้อออออออ ใช่ค่ะ เราต้องซื้อตั๋วใหม่เอง น้องไม่รับผิดชอบใดๆ น้องอ้างแต่ว่า วันนั้นพี่ไม่ได้บอกแบบนี้ ซึ่งความซวยคือ ปกติจะคุยกันในไลน์กรุ๊ปแต่วันคอนเฟิร์มเรื่องตั๋ว ดันใช้โทรเอา เลยไม่มีหลักฐานใดๆมามัดตัวชี มีก็แต่เพียงว่า ชีออกตั๋วให้เราด้วยนามสกุลเก่าซึ่งพาสปอร์ตเราเปลี่ยนนามสกุลใหม่แล้วไงอันนี้ชีก็บอกว่า ไม่มีปัญหา พี่ก็ใช้พาสปอร์ตเก่าเดินทางด้ายยยย โนพรอมแพลม ไม่รับผิดชอบนะคะ
พาสปอร์ตเก่า ที่พิมพ์ canceled ตัวบักเอ้บแล้วเนี่ยนะอย่างไรก็ดี เนื่องจากนี่ก็บ่ายมากแล้ว เรายังอยู่โคราชอยู่ พรุ่งนี้เช้าตรู่ก็ต้องบินแล้ว มัวมาเถียงกันเดี๋ยวไม่ทันการเราเลยซื้อตั๋วใหม่ไปก่อน และบอกชีสุดๆ ให้จัดการรีฟันตั๋วให้ด้วย ค่าตั๋วไม่ได้ ได้ค่า tax คืนหลักพันก็ยังดีเรามานั่งนึกดูนี่ถ้าเราเกิดไม่อยากอัพเกรด ไม่ขอดูตั๋วชีก่อนไปถึงสนามบินละเพิ่งพบว่า ไม่มีตั๋วชื่อป๊า แล้วอีก 2 ชม เครื่องจะออก นี่มันจะบันเทิงขนาดไหน?
หรือแม้แต่ถ้าเป็นชื่อเราเอง ที่นามสกุลผิดถ้าไปถึง เจอนามสกุลไม่ตรง และเป็นตั๋วแบบห้ามแก้ไขเปลี่ยนแปลง ณ เวลา 2 ชม ก่อนเครื่องออกอะไรจะเกิดขึ้น?เราคิดว่า เรื่องตั๋วนี่คือจุดพีคสุดของทริปแล้วแต่เดี๋ยวก่อน มันมีสนุกกว่านั้นหลังจากจบเหตุการณ์ตั๋วระทึกขวัญค่ำๆวันนั้น สามีก็ทักว่า ถามเค้ามั้ย ว่าเอารถอะไรมารับเราหลายคน กระเป๋าเยอะ เกิดเอารถตู้แบบคอมมูเตอร์ ที่ใส่กระเป๋าไม่น่าพอนะเราก็ทักไปถามเค้า ณ ขณะนั้นคือ 10 ชม ก่อนบินเค้าตอบกลับมาว่าเป็นรถไฟแบบพิเศษ มีที่วางกระเป๋า และจอดหน้าโรงแรมเลยค่ะ ส่วนวันไปเกียวโตมีรถตู้ให้ค่ะ(เราจะอยู่โอซาก้า มีไปเที่ยวเกียวโตวันนึง) เดี๋ยวนะ ไปเกียวโตมีรถตู้ให้ แล้ววันอื่นล่ะ????????? สรุปได้ว่า วันอื่นคือนั่งรถไฟ & รถใต้ดินเอานะจ๊า~ทัวร์ไพรเวทครึ่งล่าน ที่มีคนแก่และเด็กเล็กน้องให้เดินทางด้วยรถสาธารณะเนี่ยนะ!!???!!ทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์สองหมื่น เค้ายังมีรถตู้ให้เลยมั้ย
แล้วน้องไม่บอกสักคำ ให้มารู้เอาตอนอีก 10 ชม จะบิน
Japan สนุกสุดๆเลยใช่มะล่า
หลังจากช็อคกับการให้เดินทางด้วยรถสาธารณะเราก็ส่งไม้ต่อให้น้องสะใภ้คุยเนื่องจากเราสะกดกลั้นอารมณ์กับเรื่องตั๋วมาทั้งวันสะกดต่อไม่ไหวละน้องสะใภ้เจรจาไปว่าสุดๆคิดได้ไงจ๊ะ ให้แม่ลูกอ่อน2คน ข้าวของพะรุงพะรัง กะคนแก่อายุ 70 เดินทางด้วยวิธีนี้ ชีตอบมาว่า อุ๊ยไม่มี ปห สบายมาก โรงแรมอยู่บนสถานีรถไฟพอดีเรื่องของเยอะ เดี๋ยว #วันแรก เรากะสามี จะไปรอที่สนามบิน เดี๋ยวช่วยกันขนขึ้นรถไฟ
( โปรดจำ #วันแรก นี้ไว้ เดี๋ยวมีเด็ดๆมาเล่าต่อ)เรื่องเดิน อันนี้ก็ไม่ยาก เราเดินชมเมืองขำๆ ร้านอยู่ห่าง รร แค่400เมตรเอ๊ง บอกแค่ว่า ไม่ได้จ้าาาา ไม่สะดวกจริงๆทำไมไม่บอกก่อนว่าเดินทางด้วยวิธีแบบนี้
ชีสุดๆบอก เอ้า ก็ตอนแรกที่ปรับลดราคาลงมาไง(คือตอนแรกเป็นทริปหรูกว่านี้ มีไปแช่อนเซ็นเมืองสุดยอดอะไรสักอย่าง มีไปโกเบ)นี่ลดราคามาเหลือแค่นี้ จะให้นั่งรถส่วนตัวได้ไงแล้วเรื่องนั่งรถไฟนี่ พี่เธอก็รับรู้รับทราบแล้วด้วยนะเดี๋ยวๆ เราไปรับรู้ตอนไหน??ชีบอกว่า เอ้าก็ตอนคุยกันเรื่องไปนารางั้ย เรื่องมันมีอยู่ว่าตอนแรก ชีเสนอทริปแพงกว่านี้มา(ซึ่งไปๆมาๆ สุดท้ายราคาที่เราจ่าย คือแพงกว่าอีก)เราเลยขอปรับโปรแกรม ให้ราคามันถูกลงชีเลยเสนอเปลี่ยนเมือง ให้ไปนารา"พี่สนใจไปนารามั้ยคะ นั่งรถไฟไปจากโรงแรมได้เลยค่ะ ไปเที่ยวแทนโกเบ มีวัดมีสวนกวาง กับขนมโมจิอร่อยๆ" อันนี้โควทคำพูดชีมาเลยนะ
เราก็โอเค เอาค่ะ นาราไม่เคยไป นั่นแหละ ประโยคนี้ประโยคเดียว ในทั้งหมดของการสนทนา ตั้งแต่ตอนวางแผนทัวร์ จนสรุปจบทริปมีคำว่า รถไฟ ให้ได้ยิน 1 ครั้งซึ่งนั่น ทุกคนต้องเข้าใจว่า
ทั้งทริปจะเดินทางด้วยรถไฟแทนแล้วนะในใบรายการทัวร์ที่ชีส่งมาให้ วันที่ไปเกียวโต ชีก็ระบุชัดเจน ว่านำท่านเดินทางสู่โตเกียวด้วยรถตู้ลิมูซีนส่วนวันอื่นๆที่ไม่ได้ระบุ มีแค่ นำท่านเดินทางสู่นารา
มันไม่มีคำว่ารถตู้ ก็ต้องแปลว่าไปด้วยรถไฟสิ!!หืมมมมมมม? นี่ตรรกะอัลไล??การคุยกันในแชทไลน์ มีคำว่ารถไฟ 1 คำแปลว่าทั้งทริปเดินทางด้วยรถไฟการระบุในใบรายการ มีคำว่ารถตู้ 1 คำ
แปลว่า 1ครั้งนั้นแหละเป็นรถตู้ ที่เหลือรถไฟอยู่ดียอมใจสกิลการแถของน้องสุดๆมากค่ะเราแจ้งกลับไป เราไม่โอเคขอให้เปลี่ยนยานพาหนะเป็นรถส่วนตัวด้วย ชีบอก อ่ะยอมให้นั่งรถตู้ ขาไป-กลับสนามบิน ก้ะด้ะ
แต่ระหว่างทริปต้องไปรถไฟเหมือนเดิมนะจ๊ะ นั่ง 2 รอบ นี่ 2หมื่นเลยนะ ให้ได้แค่นี้ นี่เข้าเนื้อแล้วถ้าให้จัดรถทุกวัน เค้าคิดวันละหมื่นแปด ชีไม่ไหวจริมๆ ต้องเข้าใจทางชีด้วยนะ
ทัวร์ครึ่งล่าน แต่จ่ายเพิ่ม 2หมื่นชีเข้าเนื้อเลย??หรืออาหารมันจะหรูมากระดับโชกุน?ด้วยความไว้ใจ ก่อนนี้เลยไม่ได้เช็คละเอียดเห็นมีเนื้อวากิวชั้นเลิศ โอโทโร่ ไข่หอยเม่น ปูทาราบะอาหารร้านดัง สุดยอดตำนานเมืองคันไซเราก็วางใจว่าอร่อยสุดๆแน่ รอกินอย่างเดียวพอเอารายการทัวร์มาเช็คร้านอาหารดูพบว่าส่วนใหญ่ ชีระบุแต่คร่าวๆ เช่นบริการท่านด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง เนื้อวากิว A5คุณภาพดี ณ ร้านดังย่านนัมบะ ประมาณนี้ ไม่บอกชื่อร้านมีบอกชื่ออยู่แค่ 2-3 ร้านเช่นราเม็งชื่อดัง กับชาบูระดับตำนานเอาไปเสิชดูซิ อาหารเป็นยังไงอุแม่เจ้าชาบูหัวละสองพันหน่อยๆส่วนราเม็ง ชามละ 230 บาท!!รีบไลน์ถามชื่อร้านอาหารอื่นๆในทริปที่เหลือ
เสิชดู ราคาก็ประมาณ หัวละพันสามบ้าง พันห้าบ้างนี่คืออาหารหรูอร่อยสุดๆ ระดับทัวร์ครึ่งล้านจริงๆหรือราคานี้ ได้อาหาร 7 มื้อเองนะ!!!หรือมันหรูที่กิจกรรม?
หลังจากชอกช้ำกับเรื่องตั๋ว เรื่องรถ และมึนงงกับเรื่องคุณภาพอาหารไปแล้วคราวนี้เรามาดูเรื่องกิจกรรมการเที่ยวกัน
วันที่1 ออกจาก กทม เช้าตรู่ ถึงโอซาก้าเย็นๆ กินข้าว นอน
วันที่2 เช้า ไปตลาดแถว รร (ฟรีค่าเข้า)บ่าย ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (ค่าเข้า 650)
วันที่3 เช้า ไปดูวัดทองที่เกียวโต (ค่าเข้า 112) บ่าย ไปศาลเจ้า (ฟรีค่าเข้า)
วันที่4 เช้า ไปสวนสาธารณะที่นารา (ฟรีค่าเข้า)บ่าย เดินเล่นตลาดที่นารา (ฟรีค่าเข้า)
วันที่5 ปล่อยฟรี จะทำอะไรกินอะไร ราคาไม่รวมในทริป (อันนี้เรามาขอเพิ่มทีหลัง)
วันที่6 ออกจากโอซาก้าเช้าตรู่ ถึง กทม เย็นๆไม่รอช้า ไลน์ไปหาน้องสุดๆอีกครั้งพร้อมแคปหน้าจอ ราคาอาหารแต่ละมื้อค่าตั๋วแต่ละอย่าง ว่านี่คือสิ่งที่เราจะได้จริงๆหริอ?แล้วความแพงของทริปนี้ มันแพงมาจากตรงไหน?ถ้าน้องอธิบายได้ พี่จบเลยอยากได้รถ พี่จ่ายเองได้ แค่ขอคำอธิบายเท่านั้น น้องเงียบ สิ่งที่เราทำได้ ณ เวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงจะบิน คือมานั่งจัดกระเป๋าใหม่ คัดเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ
ลาก่อนชุดสวยๆที่เอาไปเผื่อๆ ใส่ซ้ำเอาละกันแล้วเวลานัดก็มาถึง ชีบอกว่า น้องสาวชีจะมารอบริการที่สนามบินแน่นอนน้องมาช้า กว่าจะมา คือเราเช็คอินจะเสร็จแล้วที่เด็ดคือ ณ เคาน์เตอร์เช็คอิน ชื่อเราก็ยังมีซ้ำ 2 คนใช่ค่ะน้องไม่ได้ยกเลิกตั๋วให้ สงบสติอารมณ์อีกครั้งบอกน้องจัดการให้พี่ด้วยนะ แจ้งไปตั้งแต่เมื่อวานชีบอก เดี๋ยวแปดโมงหนูโทรให้นะคะ รอเค้าเปิดคือเครื่องออก 08.15 อ่ะค่ะน้อง มันจะทันไหม
น้องกราวนด์สต๊าฟเลยบอกว่า ไปแจ้งตรงTicketing office ตรงนั้นก็ได้ค่ะ แล้วค่อยไปรีฟันกับเอเจ้นวันหลัง ชีน้องถามทันที พี่ไปกะหนูมั้ยคะโว้ยยยยยยยยยยพี่ต้องรีบไปขึ้นเครื่องมั้ยยยยย หอยหลอดอ่ะ พักเรื่องเมืองไทย บินไปโอซาก้ากันดีกว่า ไปถึงชีสุดๆและสามีก็มารอรับ พร้อมรถตู้ ชีบอก โอ๋ๆพี่อย่าเครียดน้าาาาา หนูบอกจะจัดการให้แล้วไง เดี๋ยวมีรถส่วนตัวให้น้าาา ดูจิหน้าเศร้าเลยย งุงิ ปุ๊ปิ๊ เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุกน้าาาา~อ่ะ คำถามไม่ตอบ ไม่อธิบาย แต่มีรถให้ก็โอก็ได้ ระหว่างนั่งรถ ชีก็ชวนคนนั้นคนนี้คุยเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปทานปลาดิบกัน ร้านนี้เก่าแก่สุดยอดส่งปลาให้ภัตตาคารหรู ร้านมิชลินทั้งหลาย เด็ดสุดค่า น้องชายอยากกินไข่หอยเม่นใช่มั้ย มีสดๆเลย คุณพ่อล่ะคะ เคยทานเนื้อปลาวาฬมั้ย เดี๋ยวไปชิมกันเราก็คิดว่า จริงๆมันอาจจะดีก็ได้ ทำใจละกันไปถึงโรงแรม เก็บเป๋า แล้วชีก็พาแยกขึ้นแทกซี่ 2 คันไปกินข้าว เบียดๆกันไป เอาวะ อย่างน้อยก็ดีกว่าเดินคุณภาพอาหารมื้อนี้ ก็ประมาณไปกินปิ้งย่างแถวทองหล่อ ป๊าดูอึ้งๆ น้องชายเราเครียดชัดเจนส่วนเรางงๆ ว่าทำไมเมนูเขียนว่า black beef เฉยๆล่ะไหนA5 ไหนโกเบ ไหนวากิว? หรือมันเหมือนกัน?คือเมนูโกเบก็มีนะ แต่เราไม่ได้กิน ในเซ็ทมันมีแค่ black beef ตกลงมันใช่มั้ย?แต่ที่เรางงมากกว่าเมนูก็คือน้องสุดๆ และสามี มานั่งร่วมโต๊ะด้วยจ้ะกินเหมือนกันเลย กระทะเดียวกัน เนื้อจานเดียวกันคือปกติที่เราเคยไปทัวร์ทั่วๆไปลูกทัวร์ 20 30 คน ก็มีไกด์คนนึง คอยวิ่งบริการแล้วไกด์ค่อยแยกไปกินอะไรง่ายๆ ไวๆไม่เคยเจอไกด์พาสามีมานั่งร่วมโต๊ะกินด้วยแบบนี้เลยแล้วบริการมั้ย ก็ไม่นะจ๊ะ ยุ่งอยู่ต้องกินจะสั่งอะไร เอาน้ำอะไร ก็จัดการตัวเองไปโนะ
เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เจอกับชีสุดๆและสามีอีกครั้งไหนว่าจะแค่มาช่วยถือกระเป๋าให้ วันแรก ไงตกลงจะตามไปร่วมกินด้วยกันตลอดทริปเลยรึใช่แล้วจ้ะ ตกลงชีพาสามีมากินข้าวร่วมโต๊ะกับเราอาหารเหมือนกัน และห้องพักหรูเหมือนกันตลอดทริปโดยไม่แจ้งเราก่อนซักคำเหมือนเราได้โปรพิเศษอ่ะ จ่าย 6คน ได้เที่ยว 8คน คุ้ม!!วันนี้ก็ตั้งใจใหม่ ให้โอกาสชีชีบอกว่า อย่าทานบุฟ รร ตอนเช้ามาเยอะเดี๋ยวมื้อเที่ยงไม่อร่อย ร้านนี้สุดยอดแห่งปลาดิบมิชลินอ่ะ ก็พร้อมเชื่อใจชีมาถึงตลาด คนหนาแน่นสุดๆร้านก็เป็นร้านในตลาดสดพื้นแฉะๆ น้ำดำๆ คนขายใส่บูทยางเดินไปมาที่นั่งก็เป็นโต๊ะตามซอกๆร้าน มีแก้วกระดาษให้เติมชา พร้อมชุดจานชามแบบใช้แล้วทิ้งทำใจว่า อาหารเค้าคงสุดยอดจริงๆสภาพร้านแบบนี้ถึงดังได้รอโต๊ะว่างอยู่เป็นนาน สงสัยเบาๆว่าไม่ได้จองไว้หรือ? ในที่สุดก็ได้โต๊ะ ปลามาเสริฟก็เป็นแบบถาดพลาสติก
และวาซาบิแบบซองๆแจกตามซุปเปอร์สภาพปลาก็ตามภาพไข่แซลม่อนที่เหี่ยวจนจะฟีบละชิ้นปลาอื่นก็แห้งๆโอโทโร่ที่ไม่ใช่แค่ละลายในปาก แต่แทบละลายมาตั้งแต่ในจานคือเป็นปลาดิบเกรดที่เราไม่เคยกินจริงๆ
พยายามแล้วก็กินไม่หมด มันตื้อ มันจุกและกลัวท้องเสียด้วยส่วนอูนิสดๆ กับเนื้อปลาวาฬที่ชีโม้ไว้ก็หมดพอดี น่าเสียดายมากๆเลย อดกินนะจ๊ะแม้ร้านอื่นๆแถวนั้นจะมีอูนิเรียงรายเยอะแยะก็ไม่ได้ซื้อชดเชยให้แต่อย่างใดตอนนี้เริ่มสงสัยว่า นี่เราอยู่ในมิติคู่ขนานกับชีหรือไม่เพราะสามีชีก็จะมีการอัพเดทคอนเทนท์ในเพจตลอดและโพสต์ของมื้อที่พาเราไปกินนี่คือแค่อ่านโพสต์ก็กลืนน้ำลายละ น่าอร่อยสุดๆจริงๆ
ทำไมถึงต่างกับของจริงที่ได้กินเช่นนี้?แถมในรูปที่โพสต์ มีอูนิด้วยนะ ไหนว่าหมด?นี่สรุปเราจะเชื่อรีวิวในเพจ และรายการของชีได้หรือนี่?ผิดหวังกะมื้อเที่ยงไป ก็มาถึงมื้อเย็นเป็นคอร์สปิ้งย่าง แต่ไม่บุฟเฟ่ต์ละ
อันนี้เนื้อดีอยู่ แต่ปริมาณจุ๋มจิ๋มไปหน่อย ไม่อิ่ม ชีสุดๆและสามีก็เหมือนเดิม กินแบบเดียวกับที่เรากิน แต่คราวนี้โต๊ะแคบ ชีเลยต้องย่ายไปนั่งโต๊ะแยกกับสามี 2 คน ความพีคคือ เมื่อใกล้จบมื้อ จะเสริฟของหวานละ
สามีชีก็เดินมาโต๊ะเรา พร้อมจานเนื้อดิบที่เขากินเหลือเพื่อเอามาเสริฟให้เรา เผื่อพวกเราไม่อิ่มไม่ใช่เนื้อสิ ไกด์กินเนื้อไปหมดแล้ว เหลือหมูกะไก่ ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดไกด์เอาอาหารที่ไกด์กินเหลือมาเสริฟให้ลูกทัวร์ตอนนี้เราละทิ้งทุกอย่าง และเริ่มสนุกละตอนแรกที่เกิดเรื่อง เราก็คิดว่านี่คือจุดต่ำสุดละนะปรากฏว่า ไกด์ทำนิวโลว์ ลงไปกว่าเดิมได้ทุกวันเลยเราอยากดูไปเรื่อยๆละ ว่าทัวร์นี้มันจะดำดิ่งลงไปได้ถึงขนาดไหน
ถึงตอนนี้ทุกคนปลง รอวันกลับบ่านป๊าถามตั้งแต่วันที่สอง ว่าเรากลับกันเลยได้มั้ยซึ่งถ้ากลับ ก็ต้องซื้อตั๋วใหม่หมด เพราะตั๋วเค้าเปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย และเงินทุกอย่างก็จ่ายไปหมดแล้วไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ก็อดทนอยู่ไปให้ครบๆละกันจากนั้นทุกเช้า ประโยคแรกที่ป๊าจะถามเราคือนี่เหลืออีกกี่วัน เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ทริปในฝัน ที่เป็นการรวมตัวกันเที่ยวยกบ้านครั้งแรกมันพังไปจากที่คิดไว้หมดเลยและนี่คือรายละเอียดจุ๊กจิ๊กที่เกิดขึ้นในวันหลังๆมื้อราเม็ง ไม่ได้มีการจองโต๊ะใดๆไว้ ไปยืนรอกันงงๆ
สุดท้ายน้องบอกว่า เดี๋ยวไปอีกวัดไม่ทัน เราไปกันเลยดีกว่า ไม่ต้องกินละ ค่อยเดินกินสตรีทฟู้ดแถววัดเอา..โชคดีได้โต๊ะพอดี ไม่งั้นจากราเม็งชามละ 230อาจเหลือแค่ได้กินลูกชิ้นปิ้งหลักสิบบาทเรารีเควสชีสเค้กร้านดัง (ตั้งแต่ก่อนมาทริปละ)ถึงเวลาก็เช่นเคย สามีน้องไปต่อคิว พวกเราก็ยืนรองงๆสุดท้ายไม่ได้กินในร้านนะ น้องซื้อมาให้ 1 กล่องเอามาแบ่งกันกินได้คนละชิ้น ตกคนละ 40 บาทแน่ะ!!มื้อนาเบะหม้อไฟเก่าแก่สืบทอดมาหลายร้อยปีถึงเวลาพาเดินเข้าร้านข้าวราดเทมปุระได้ข้าวสวยโปะหน้าด้วยของทอดมาคนละจานแทนเพราะร้านนาเบะเค้าไม่รับเด็กเล็กค่ะ กินนี้แทนนะจ้ะ ตอนนี้พี่กินแค่ให้อิ่มๆไป พอละ ไม่หวังอะไรละ ไวไฟที่ชีแจกให้ ก็ล่มๆ ติดๆดับๆ ตลอดทริปเป็นเฉพาะของลูกทัวร์นะ ของชีสองคนปกติลื่นปรื๊ดบรรยากาศการเที่ยว ก็เป็นกันเองสุดๆเหมือนเพื่อนมาพากันมาเที่ยว มาแชร์อาหารกันไม่มีการดูแลใดๆจากไกด์ นอกจากเดินนำ
และแว้บมาถ่ายรูปให้เมื่อว่างเนื่องจากไกด์ต้องไปถ่ายรูป ถ่ายคลิปต่างๆลงเพจก่อนลูกทัวร์ก็ยืนงงๆกันไป ไกด์หายไปไหนอีกแล้วนะ?หิวน้ำ ก็หากดน้ำตู้กินเองนะ กดฝากไกด์ด้วยทัวร์ส่วนตัว แต่ไม่มีน้ำแจกนะจ๊ะ ทัวร์ไฟไหม้ยังมีเลอ ไกด์นำผิดทาง ลูกทัวร์ต้องบอกทางที่ถูกต้องให้บ้างไกด์งงๆ เดินหาร้านอาหารไม่เจอบ้างเอ๊ะตกลงไกด์เคยมากินร่านเหล่านี้จริงๆหรือเปล่าทำไมไม่รู้ว่าร้านอยู่ตรงไหน?จนในที่สุดก็มาถึงวันสุดท้าย ซึ่งเป็นวันฟรีเดิมชีเสนอทริปมา ได้เที่ยว 3 วันเราขอเพิ่ม 1 วัน แต่โปรแกรมว่างไว้ก่อนเดี๋ยวว่ากัน
ชีว่า โอเคค่า ค่าห้องเพิ่มคืนละ 11,000 x 3 ห้องนะค้า เราเช็คบุคกิ้ง อโกด้า มัน 5-7 พันเองนะแต่ตอนนั้นยังไว้ใจ คิดว่า มันคงเป็นห้องคนละแบบและอาจเป็นค่าอาหารเช้าด้วยไรงี้ เลยปล่อยผ่าน
ประกอบกับชีบอกให้รีบสรุป เดี๋ยวตั๋วขึ้นราคาก็จัดเลย เอาค่ะ โอนไว(ซึ่งเรามาเช็คทีหลังพบว่า ราคา 5-7 พันนั้น มันก็ห้องแบบเดียวกัน ได้อาหารเช้าเหมือนกันกับ 11,000 นี่แหละ)แต่เดี๋ยวก่อน มันยังไม่หมดแค่นั้น
มันมีค่าใช้จ่ายอื่นๆของหนูอีก 1วัน คิด 8,000 ถ้วนค่าตอนนั้นก็คิดว่า หุย วันละ 8พันเลยหรอแต่เพื่อการบริการระดับราชา ให้ป๊าม๊าสบายราคานี้ จ่ายได้!!แต่พอถึงวันจริง การบริการก็ตามที่เห็น
วันสุดท้ายเลยคุยกันว่า เราเที่ยวกันเองดีกว่าแจ้งชีไป ชีบอกแค่ ได้เลยค่าาาาา แล้วก็หายตัวไปไม่มีการแนะนำว่า ควรทำอะไร ไปไหนไม่มีการเอ่ยถึงค่าใช้จ่าย ที่สุดท้ายไม่ได้ใช้บริการใดๆ กลับมาที่เรื่องห้องพัก
ก่อนนี้เราแจ้งชีไป ว่าช่วยเช็คกับ รร ให้หน่อยว่าที่พักเนี่ย ได้แต้มสะสมมั้ย เพราะเราเป็นสมาชิกอยู่ชียังไม่ตอบมา เราเลยไปเช็คกะโรงแรมเองพบว่า สะสมแต้มได้จ้าาา และได้มีการสะสมไปแล้ว
ภายใต้ชื่อสามีชีสุดๆนี่แหละ โอ้โหสุดจริงตั๋วเครื่องบิน ไมล์ต้องสะสมเป็นชื่อผู้โดยสารเองอันนี้จองแบบถูกสุดผ่านเอเย่น ไม่มีไมล์สะสมให้ห้องพัก แต้มสะสมเป็นชื่อใครก็ได้ แต่ต้องจองตรงผ่านโรงแรม ซึ่งราคาแพงกว่าจองกับเอเย่นอันนี้จองจ้ะ แพงกว่าไม่เป็นไร ชั้นจะได้เก็บแต้มไว้เองเอาทุกเม็ดเลยวุ้ยแต่ทั้งนี้ โรงแรมก็เปลี่ยนคืนเป็นชื่อเราให้ได้เพื่อความแฟร์ เราเลยขอคืนแค่ 3ห้องที่เราพักไม่แตะห้องชีสุดท้ายก็มาถึงวันที่จะได้กลับบ้านรถตู้มารับพวกเราแต่เช้า ส่วนชีสุดๆและสามีจะนั่งรถไฟไป กลัวใส่กระเป๋าไม่พอถึงสนามบิน เราก็เช็คอินเอง ไร้การดูแลใดๆเช่นเคยมานึกได้เมื่อสาย ว่าทำไมไม่เช็คอินออนไลน์มาก่อน
นี่ไฟล์ทเต็ม ต้องนั่งแยกๆกัน อดเลือกที่นั่งเองเลยเหลือบมองไป พบชีสุดๆและสามี ในช่องโหลดกระเป๋าสำหรับคนที่เช็คอินออนไลน์มาแล้วจ้ะไม่บริการไม่พอ ยังไม่มีการเตือนอะไรใดๆให้ลูกทัวร์มาจัดการกันเองโลดรักษามาตรฐานได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
ปิดท้ายด้วยเมื่อถึงเมืองไทยชีแจ้งว่า เรื่องแต้มห้องพัก รร บอกว่าสะสมไม่ได้นะคะเราก็ทำได้เพียงยิ้มอ่อนกลับไปและฝากเช็คเรื่องรีฟันตั๋วด้วย ได้แค่ tax คืนก็ยังดีนี่ก็ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้วจากวันรีฟัน ทุกอย่างยังเงียบ
ซึ่งเราก็ไม่ได้แปลกใจอะไรละก็จบไปแล้วทัวร์ครึ่งล้านเพื่อกินอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยสุดๆ ของเราถึงตอนนี้เราก็ยังงงๆอยู่ว่าแล้วตกลงมันแพงจากตรงไหน? ทำไมเค้ากล้าทำเช่นนี้? ถือว่าเราผิดที่ไว้ใจล้วนๆเลยไม่คิดว่าคนรู้จักกันแถมมีเพจดัง มีรายการทีวีของตัวเองดูน่าเชื่อถือขนาดนี้ จะทำแบบนี้ได้ตอนแรกเราตามเพจเค้านี่คือน้ำลายหกอยากตามรอยไปกินทุกร้าน ทุกเมืองจากนี้ไป เราคงไม่กล้าเชื่อรีวิวอะไรแบบนี้จนหมดใจอีกแล้วเป็นทริปเที่ยวญี่ปุ่น ที่ไม่อร่อยสุดๆเลย
CR : pantip