svasdssvasds

ภาวะฝุ่น PM 2.5 ออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัย

ภาวะฝุ่น PM 2.5 ออกกำลังกายอย่างไรให้ปลอดภัย

สายสุขภาพคงกังวลใจ ว่าช่วงที่มีภาวะฝุ่น PM 2.5 คุกคาม สร้างมลพิษในอากาศ ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแน่นอน การออกกำลังกายอาจต้องระวังเป็นพิเศษ

การออกกำลังกายช่วง PM 2.5

ออกกำลังกาย ท่ามกลาง PM 2.5

  • ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง ผ่านทางกรมควบคุมมลพิษ หรือแอปพลิเคชั่นคุณภาพอากาศ
  • ออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เพราะต้นไม้ช่วยกรองฝุ่น
  • เมื่อมีประกาศระดับฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 อยู่ในระดับสีส้ม ควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายบริเวณที่มีระดับฝุ่นสูง เช่น สถานที่ก่อสร้าง และริมถนนซึ่งมีปริมาณฝุ่นสูงที่มาจากรถยนต์
  • ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย N 95 ในขณะที่ออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร่างกายหายใจแรงและเร็วขึ้น ส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้
  • ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ ให้งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง เมื่อมีประกาศระดับฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 อยู่ในระดับสีส้ม สีแดง

PM 2.5 อันตรายกว่าที่คิด

  • โรคเยื่อบุตาอักเสบ
  • ภูมิแพ้ที่ตาเรื้อรัง
  • โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ
  • มีอันตรายต่อเด็กในครรภ์
  • โรคหลอดเลือดในสมอง
  • โรคหัวใจขาดเลือด
  • โรคผิวหนังอักเสบ
  • โรคภูมิแพ้
  • โรคสมาธิสั้นและสมองพัฒนาการช้าในเด็ก
  • หากสูดเข้าปอดเป็นเวลานานหลายปี ก็จะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งปอด และมะเร็งอื่นๆ ได้

การป้องกัน

  • ใส่แว่นตาป้องกันฝุ่นและลมทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร
  • ใส่หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปิดปากทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร หากใช้หน้ากาก N95 ก็จะป้องกันได้ดีกว่าหน้ากากธรรมดา
  • ใช้สายตา 30 นาทีและพักสายตา และทุกๆ การจ้องมองจอโทรศัพท์มือถือนานติดต่อกันเกิน 10 นาที ควรพักสายตาเพื่อลดอาการตาแห้ง ปวดตา
  • หยอดน้ำตาเทียมวันละ 4 ครั้ง ในกลุ่มที่มีอาการตาแห้งอาจหยอดทุก 2 ชั่วโมง
  • ไม่ควรล้างตาบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตาแห้งมากขึ้น หากต้องการล้างตาให้ใช้น้ำตาเทียมล้างแทน
  • ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดอาการตาแห้ง
  • ทำความสะอาดบ้านให้ปลอดจากฝุ่น ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด
  • ไม่ควรออกนอกบ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้านในวันที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้ที่ให้วิตามิน เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน หรือกินวิตามินเสริมอย่างวิตามิน C และ E
  • หากพบว่าตาอักเสบไม่หาย หรือร่างกายมีความผิดปกติควรไปพบแพทย์ ไม่ควรรอให้มีอาการมาก เพราะจะทำให้การรักษายากขึ้น

ที่มา กรมควมคุมมลพิษ ,โรงพยาบาลพญาไท

related