วิกฤตหนัก! เชียงใหม่ PM 2.5 พุ่งสูงสุดในโลก

สถานการณ์ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ของประเทศไทยกลับมาวิกฤตหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะที่ภาคเหนือ ที่ยังคงมีปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ เว็บไซต์ AirVisual ได้ประกาศให้ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือเอคิวไอ ที่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 มากสุดของโลก คือ สูงสุดที่ 234 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีค่าสีม่วงหรือ อันตรายร้ายแรง

โดยกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนบนโซเชียล พากันโพสต์ข้อความถาม นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับบทบาทการแก้ปัญหา และถามว่าผู้ว่าฯอยู่ไหน เพราะบางส่วนยังไม่เห็นการพยายามดำเนินการบรรเทาปัญหา

ซึ่งภายหลัง ปรากฎว่า เฟซบุ๊กของนายศุภชัย ระบุว่านายศุภชัยเดินทางไปประชุมที่ จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้สำหรับต้นเหตุของ PM 2.5 ภาคเหนือ ส่วนหนึ่งยังคงมาจากปัญหาไฟป่า และการจุดเผา โดยที่เชียงใหม่วานนี้ สภาพหมอกควันได้ปกคลุมจนทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามได้ บริเวณดอยสุเทพได้ และประชาชนจำนวนมาก ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นควัน

ส่วนที่ จ.เชียงราย บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่ง อ.แม่สาย ปริมาณหมอกควันยังมีจำนวนมาก แม้ทางจังหวัดจะประกาศห้ามการเผาใดๆ ทั้งสิ้นโดยเด็ดขาด ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.

ส่วนที่ จ.พะเยา ผลจากเหตุไฟไหม้ป่าที่บริเวณมหาวิทยาลัยพะเยา เมื่อเย็นวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่ป่าจำนวนหลายร้อยไร่ ได้รับความเสียหาย ซึ่งตลอดวานนี้ เจ้าหน้าที่เร่งสกัดเปลวไฟที่ยังลุกลามอยู่หลายจุด

ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงาน 9 จังหวัดภาคเหนือ คุณภาพอากาศโดยรวมมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ พะเยา และ ตาก

ส่วน กรุงเทพฯวานนี้ เว็บไซต์ AirVisual จัดให้เป็นพื้นที่ ที่มี PM2.5 อยู่อันดับ 12 ของโลก อยู่ที่ 47.5 ไมโครกรัม ต่อ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีค่าสีส้ม หรือ อันตรายสำหรับกลุ่มที่มีความรู้สึกไว โดย กรมควบคุมมลพิษ รายงานว่า สถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เกินมาตรฐานหลายจุด ที่ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร และริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมือง สมุทรสาคร