โซเชียลฯ เตือนภัย! ชายแปลกหน้า ย่องเข้า รร.พยายามให้นักเรียนหญิง ดื่มน้ำอัดลมที่ถือมา

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กที่ชื่อ  Surasak Ken Sanorsan ได้ขึ้นข้อความและภาพ ว่าใครรู้จักบุคคลตามภาพ หรือเคยเห็นช่วยแจ้งเบาะแสผมทีนะครับ พฤติกรรมคือจะเข้าไปในโรงเรียนตอนโรงเรียนเลิก ...แล้วเรียกเด็กที่กำลังเล่นกันที่กำลังรอผู้ปกครองมารับ...โดยเรียกเฉพาะเด็กผู้หญิง..จะทำทีเป็นหาลูกตัวเองไม่เจอ...ให้เด็กช่วยหาลูกตัวเองว่าอยู่ไหน..พอเด็กคนไหนหลงเชื่อก็จะเดินตามช่วยหา และจะทำที่คุยนี่นั่นกับเด็กแล้วจะให้เด็กกินน้ำเป๊ปซี่ ที่มันถือมา...ซึ่งมันคงใส่ยาอะไรลงไปในแป๊บซี่เป็นแน่...ถ้าเด็กหลงกินเข้าไปก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น “

ซึ่งรายละเอียด ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวผมคือ ...ช่วงเวลานั้นลูกสาวผมเล่นซ่อนแอบอยู่บริเวณที่มันยืนอยู่พอดี..เลยเดินเข้าไปหาลูกสาวผมแล้วมันให้ลูกสาวช่วยเดินตามหาลูกสาวมันตามที่กล่าวอ้าง...พอลูกสาวผมช่วยเดินตามหาจนถึงข้างสหกรณ์ของโรงเรียนซึ่งเป็นซอกแคบ ๆ และมีโต๊ะนั่ง..จากนั้นมันนั่งลงและดึงแขนลูกสาวผมไปใกล้ ๆ

มันแล้วถามชื่อ ถามที่อยู่ถามอะไรสารพัด..สุดท้ายมันบังคับให้ลูกสาวผมกินน้ำเป๊ปซี่ที่มันถือมา แต่ลูกสาวตนไม่กินและสะบัดแขนหลุดแล้ววิ่งออกมาได้ ซึ่งจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน เส้นทางของผู้ชายคนนี้ในการเข้าออกโรงเรียน ไม่มีผู้ปกครองคนไหนใช้ในการมารับลูก เตือนภัยกันนะครับ ถึงว่าลูกสาวผมโชคดีไปวันนี้ เด็กคนอื่นอาจจะไม่โชคดีแบบนี้

ในวันนี้ที่ 24 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นตนที่ไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ โรงเรียนคลองเก้า ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้พบกับนายมนตรี แผ้วฉ่ำ ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

โดยผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 16.48 น.ของวานนี้ที่ 23 กันยายน ตามภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกได้ เนื่องจากในโรงเรียนของเรามีผู้ปกครองเข้ามารับเด็กกันอยู่มากพอสมควร

เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เราก็เลยแยกไม่ออกว่าคนไหนเป็นผู้ปกครองคนไหนเป็นคนไม่ประสงค์ดี แต่จากการทีเด็กได้มาแจ้งครูว่ามีคนเข้ามา และก็ได้ออกไปโดยได้มาชักชวนเด็กนักเรียนของเราให้หลบไปในที่ลับ แต่เด็กของเราก็มีวุฒิภาวะพอที่ไม่ทำตามและไม้เดินตาม และมาฟ้องครู แล้วเราได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่าชายคนดังกล่าวเข้ามาจริง และจากการสอบถามแล้วชายคนดังกล่าวไม่ใช้ผู้ปกครองของนักเรียนคนไหน อย่างนี้โรงเรียนเราต้องมีมาตราการณ์เพิ่มและเข้มงวดขึ้นและต้องคุยกับผู้ปกครองว่า การที่จะมารับนักเรียนจะต้องเข้ามาทางประตูไหน และเราอาจจะต้องปิดประตูที่ไม่ค่อยมีคนเข้าออกโดยปิดตายในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนและให้ผู้ปกครองมารับเด็กทางเดียว

ส่วนทางด้านแม่ของ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) วัย 10 ขวบ ได้เล่าว่า โดยชายคนดังกล่าวเข้ามาเดินวนไปมาอยู่ภายในโรงเรียนเหมือนมาหาลูกไม่เจอและจะเดินถามเฉพาะเด็กผู้หญิงว่าเห็นลูกตนหรือเปล่าแต่ตนจำชื่อไม่ได้ ทำเหมือนจารับลูกแต่หาลูกไม่เจอ พอทางลูกเราบอกว่าไม่รู้จัก ชายคนดังกล่าวก็มาถามชื่อถามที่อยู่ และอยู่ที่ไหนใครมารับซึ่งขณะนั้นลูกสาวตนกำลังเล่นซ่อนแอบอยู่กับเพื่อน ๆ ก็วิ่งเล่นอยู่ในโรงเรียนผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้ามา ถือน้ำมาด้วย 1 ขวด

ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวก็ได้ถามเด็กนักเรียนหญิงวัยเดียวกับลูกสาวตนไป 2 คนแล้ว โดยเขาก็ขวักมือเรียกแต่ทางพี่สาวไม่ให้ไป เขาก็เลยเดินทางเจอลูกสาวตนที่กำลังเล่นซ่อนแอบอยู่กับเพื่อนทางด้านตู้น้ำดื่มและมันเป็นซอกโรงเรียนพอดี เขาก็เดินเข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังซอกดังกล่าว และก็เรียกลูกสาวตนไป ลูกสาวตนก็คิดว่าจะถามอะไร พอเดินเข้าไปชายคนดังกล่าวก็ถามว่าชื่ออะไรอยู่ที่ไหนมีใครมารับหรือเปล่า และก็พยายามดึงแขนลูกสาวตนเข้าไปใกล้ ๆ และก็ให้ลูกสาวตนกินน้ำ ก็คือน้ำเป๊ปซี่ที่เขาถือมา

แต่ลูกสาวตนไม่กินและสะบัดจนหลุดก่อนวิ่งออกมา ซึ่งตรงนั้นมันไม่ใช่ทางเดินที่ทุกคนใช้และก็ไม่มีใครเดินผ่าน หลังจากที่ลูกสาวตนดิ้นหลุดออกมาชายคนดังกล่าวก็เดินอ้อมหลังอาคารและก็วนไปออกอีกด้านหนึ่งของอาคาร ก่อนออกประตูไป ชายคนดังกล่าวยังพยายามขวักมือเรียกนักเรียนหญิงคนอื่น ๆ อีก แต่ไม้มีใครไป ระหว่างนั้นเด็กนักเรียนหญิงสองคนแรกที่ถูกเรียก ดูเหมือนจะรู้ว่าผิดปกติ จึงได้ไปเรียกเพื่อน ๆ มาช่วยกันดู

จนชายคงดังกล่าวเหมือนจะรู้ตัวจึงรีบเดินออกประตูและรีบวิ่งหนีไป โดยชายคนดังกล่าวรูปร่างท้วมสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อยึดคอกลมสีเขียวใส่กางเกงขาสั้นแบบ เจเจ ใส่รองเท้าแตะในมือถือน้ำมาขวดหนึ่ง เดินปะปนเข้ามาในโรงเรียนเหมือนจะมารับลูกตามปกติ ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่มันยังไม่เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวตน

ที่มา :