ตำรวจอุตรดิตถ์ เร่งคลี่คลายคดี ย่างสดชายนิรนามในห้องน้ำปั๊มน้ำมันร้าง พบรถกระบะจอดทิ้งใกล้จุดเกิดเหตุ ก่อนเรียกนักปฏิบัติธรรมสอบปากคำ พร้อมเปิดใจถึงการเห็นนิมิต เห็นสถานที่ที่เกิดเหตุถูกไฟไหม้ พร้อมขา 2 ข้าง
วันที่ 7 ต.ค. 2562 พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังกะพี้ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ติดตามความคืบหน้าและเร่งคลี่คลายคดี หลังจากวานนี้ ( 6 ต.ค.)เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งพบศพชายนิรนาม ถูกฆ่าและใช้ไฟเผาร่างจนไหม้เกรียมทั้งตัว ดำเป็นตอตะโก ไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานได้ ภายในห้องอาบน้ำของปั๊มน้ำมันร้าง หมู่ 8 บ้านดงช้างดี ต.หาดกรวด อ.เมืองอุตรดิตถ์ ติดทางหลวงหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-พิษณุโลก (ตรงข้ามป้อมตำรวจดงช้างดี) เบื้องต้นได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณกองขยะหน้าจุดพบศพผู้เสียชีวิต พบแกลลอนน้ำมันขนาด 1 ลิตร จำนวน 1 แกลลอน รองเท้าแตะแบบสวม 1 คู่ โทรศัพท์มือถือในสภาพถูกทำลายแตกเป็นชิ้นส่วน 1 เครื่อง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่พบเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตาย และจากการติดตามสอบถามในละแวกใกล้เคียง ไม่ได้รับรายงานบุคคลสูญหาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังนายเกียรติศักดิ์ เศียรขุนทด อายุ 30 ปี และนางน้ำเย็น แก้วพันธุ์ อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่พบศพและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง โดยระบุว่า ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ตั้งจิตอธิฐาน ได้เกิดภาพหรือนิมิตสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นห้องเล็กๆถูกไฟไหม้ มีไอร้อน และกลิ่นการเผาไหม้ เมื่อชะโงกเข้าไปให้ห้องเห็นเพียงขา 2 ข้าง ก็รู้สึกกลัวจึงถอดจิตกลับทันที และนำเรื่องดังกล่าวมาเล่าให้คนในครอบครัวฟัง
จนกระทั่งได้มีโอกาสขับรถผ่านจุดเกิดเหตุ มีลางสังหรณ์และบอกทุกคนในรถทั้งพ่อแม่และยายว่า ตรงนี้คือจุดที่นิมิตเห็น จึงตัดสินใจเข้าไปดูจนกระทั่งพบผู้เสียชีวิต ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และพร้อมให้ความร่วมมือในการให้ปากคำและข้อมูล
ทั้งนี้หลังจากพบศพ ได้บอกกล่าวผู้ตายไปว่า ได้มาช่วยเหลือแล้วนะ และอยากรู้ว่าเป็นใครเหตุใด จึงทำให้ตนนิมิตเห็นและการเจอศพในครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวมั่นใจว่า ตลอดระยะเวลา ตัวเองไม่ได้บ้า แม้จะอยากบวชเรียน แต่ด้วยภาระในการดูแลพ่อแม่ที่ชรา จึงชื่นชอบในการนั่งสมาธิแผ่เมตตาอยู่ที่บ้าน และเมื่อวานวันพบศพโชคดี ที่ทุกคนในครอบครัวได้เดินทางร่วมไปกับตนเอง
พ.ต.อ.ฉัฐวัชร พงศ์วาสน์ ผกก.สภ.วังกะพี้ เปิดเผยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายคดีอย่างรัดกุม เบื้องต้นพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ข้างถนน ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร โดยรถถูกล็อคกุญแจ
สอบถามชาวบ้านทราบว่า มีคนนำมาจอดไว้ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบภายในรถ ลายนิ้วมือแฝง และเลขตัวถังของรถยนต์กระบะ เพื่อติดตามเจ้าของรถว่าเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มุ่งประเด็นหรือให้น้ำหนักการก่อเหตุครั้งนี้ไปเรื่องใดชัดเจน ต้องรอทั้งผลการชันสูตรจากแพทย์โรงพยาบาลพุทธชินราช การลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริงในเชิงลึกของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เชื่อว่าเป็นการลงมือฆ่าจากที่อื่นแล้วนำศพมาเผาเพื่ออำพรางคดี ผู้ก่อเหตุมีไม่น้อยกว่า 2 คน
ส่วนนักปฏิบัติธรรม ที่นำมาพบผู้เสียชีวิต ให้ขอความร่วมมือใน การสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอย่างดี เพื่อใช้ในการติดตามว่าผู้ตายเป็นใคร และเร่งคลี่คลายคดีดำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันมีประชาชนบางส่วนได้มาสอบถามและแจ้งบุคคลหายอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีญาติและใครยืนยันให้ข้อมูลของผู้ตายแต่อย่างใด