เกิกเหตุไม่คาดคิด ชายคนหนึ่งสวมเสื้อ บุกประชิดตัว "เพนกวิน" หวิดผู้ร่วมกิจกรรมนับร้อยลุกฮือ ตำรวจที่นำชายคนดัง กล่าวไปสอบปากคำ ไม่พบพฤติกรรมทำร้ายร่างกายก่อนปล่อยตัวไป เจ้าตัวยันการยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่กระแส แต่ทุกคนมีเชื้อไฟในความไม่พอใจรัฐบาล
เกิดเหตุระทึก เมื่อมีชายสวมชุดเชียร์ธรรมศาสตร์ บุกประชิดตัว เพนกวิน นักกิจกรรมการเมือง ขณะที่ขึ้นปราศรัย บนเวที มวลชนที่อยู่ด้านล่างเวทีไม่พอใจพากันโห่ฮา สุดท้ายจบลงด้วยดี
วานนี้ (29 ก.พ.63) ที่ลานหน้าเสาธง หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาเกษตรศาสตร์ เมื่อเวลา 17.00 น.เศษ "นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ " หรือเพนกวิน นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ นักกิจกรรมการเมือง มาร่วมกิจกรรมด้วย ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ขณะนี้ในการออกมาชุมนุมไม่ใช่ลักษณะเรื่อง พรรคการเมือง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ ธรรมชาติ เพราะว่าความอยุติธรรมของประเทศมันเกิดขึ้นพร้อมกัน คนจึงออกมาพร้อมๆ กัน โดยการยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่กระแส แต่ทุกคนมีเชื้อไฟในความไม่พอใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ อยู่แล้ว
ตราบใดที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ ยังอยู่เชื้อไฟก็ยังมีอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ตอนนี้คิดว่าจะได้เป็นโอกาสอันดีิให้พี่น้องประชาชนแสดงออกในพลังประชาธิปไตยซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะพลังบริสุทธิ์ของกลุ่มนักศึกษา "ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่คนรุ่นผม แต่เป็นของคนทุกรุ่นทุกวัย ผมขอให้พี่น้องมาทำกิจกรรมในระหว่างที่พวกเราสอบ โดยพี่น้องออกมาแสดงพลังด้วยวิธีการไหนก็ได้ เช่น ใส่เสื้อดำ จุดเทียน แล้วหลังมิดเทอมพวกเราจะมารวมพลังกันทั้งนักศึกษา-ประชาชน แล้วจะได้เคลื่อนไหวแบบยกระดับ"
ซึ่งในเวลาต่อมา ช่วง 18.40 น. ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นบริเวณลานปราศรัยหน้าหอประชุม ม.เกษตรฯ ในระหว่างที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำนักศึกษา มธ.กำลังไฮด์ปาร์คต่อหน้ามวลชน ได้มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อเชียร์ธรรมศาสตร์เดินขึ้นมา แล้วไปยืนประกบข้างนายพริษฐ์ ก่อนจะพูดแทรกว่า "ที่คุณพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มีหลักฐานอะไร" ทำให้แกนนำนักศึกษา มธ. ชะงักไปชั่วขณะว่าเป็นเรื่องจริงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนก็รู้ ชายที่ขึ้นมาป่วนบนเวทีจึงกล่าวว่าขอไมค์ นายพริษฐ์ เพื่อจะขอพูดบ้าง
ระหว่างนั้นการ์ดบนเวทีได้เข้ามารวบตัวชายรายนี้ไปด้านหลัง เนื่องจากมวลชนที่อยู่ด้านล่างเวทีไม่พอใจพากันโห่ฮา และบางส่วนกรูขึ้นมาจะรุมทำร้าย ทำให้นักศึกษากว่า 30 คน ที่อยู่บนลานปราศรัยคล้องแขนกันเพื่อสกัดกั้นเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำชายคนดังกล่าวไปสอบปากคำ ไม่พบพฤติกรรมทำร้ายร่างกายก่อนปล่อยตัวไป