สวนกระแส “เปลเด็กไม้ไผ่” ขายดีจนผลิตไม่ทัน ส่งออก ลาว-เมียนมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันเปลที่ใช้ให้เด็กเล็กนอน ส่วนใหญ่จะผลิตจาก เหล็ก,พลาสติก, ไม้, ผ้า แต่ที่ บ้านเปลศิริโภคา นำไม้ไผ่มาจักรสานทำเป็นเปลสำหรับให้เด็กเล็กนอน โดยเริ่มกระบวนการตั้งแต่หาไม้ไผ่สีสุก ที่มีอยู่ในพื้นที่เพื่อนำมาแปรรูปทำเป็นเครื่องจักรสาน โดยจะเน้นทำเปลเป็นหลัก เศษที่เหลือจากการสานเปลจะนำไปทำจักสานชนิดอื่นๆ เช่น ตระกร้า ,ชะลอม และกระด้ง

นางสมนึก ศิริโภคา เจ้าของบ้านเปลศิริโภคา ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเปลเพื่อให้เด็กนอน เล่าให้ฟังว่า ได้เริ่มจักสานเปลมาประมาณ 30 ปี โดยฝึกมาจากคนเฒ่าคนแก่ในระแวกเดียวกัน และได้ยึดเป็นอาชีพหลัก แต่ละเดือนสามารถผลิตได้ประมาณ 50 ใบ โดยเริ่มผลิตตั้งแต่ขั้นตอนแรก คือการหาไม้ไผ่สีสุกที่มีอยู่ในพื้นที่ นำมาทำตอกเองด้วยมือ เฉลี่ยไม้ไผ่ 1 ลำ จะได้เปล 1 ใบ

หากมีอุปกรณ์ครบหมดแล้ว จะใช้เวลาในการขึ้นโครงได้วันละ 15 ใบ หลังจากนั้นจึงมาเข้าขอบ โดยจะมีพ่อค้า แม่ค้า จากในพื้นที่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดตาก มารับซื้อถึงที่ในราคา ใบละ 200 บาท นอกจากจะรับไปจำหน่ายในพื้นที่แล้ว พ่อค้า แม่ค้า เหล่านี้ ยังได้ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว และ เมียนมา ด้วย แต่หากมีลูกค้าเข้ามาสั่งให้ทำ จะจำหน่ายในราคาปลีกใบละ 300 บาท โดยจะเพิ่มความแข็งแรงบริเวณก้นเปล และขอบเปลให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น

สำหรับเศษไม้ไผ่ที่เหลือจากการสานเปล ยังสามารถนำมาผลิตชิ้นงานอื่นๆ ได้อีก ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยทางได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุโขทัย โดยอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน

ปัจจุบันการจักสานเปลเด็ก มีผู้ผลิตอยู่เพียงไม่กี่ราย ในบ้านกล้วยเหลืออยู่เพียง 3 ที่ ส่วนตัวอาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตรุ่นสุดท้ายที่ทำจักสานเปล เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ให้ความสนใจงานจักสาน ซึ่งเกรงว่าหลังจากนี้จะไม่มีผู้สืบสานงานหัตถกรรมจักสานเปลอีกต่อไป ทั้งที่เป็นงานที่สร้างรายได้อย่างแน่นอน และตลาดยังมีความต้องอยู่ โดยดูจากยอดออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี