ปิดด่านปาดังเบซาร์ฆ่าเชื้อ ด่านสะเดาพร้อมเปิดสิ้นเดือนนี้

ด่านปาดังเบซาร์ คนไทยในมาเลเซียที่ยื่นความประสงค์ขอกลับประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนไทย-มาเลเซียในพื้นที่ จ.สงขลา หรือด่านปาดังเบซาร์ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค. 63 ต้องชะลอการเดินทางอย่างน้อย 3 วันเพื่อรอให้ด่านเปิดทำการใหม่ในวันที่ 31 พ.ค. นี้ โดยจะเปลี่ยนไปใช้ช่องทางด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลาแทนด่านปาดังเบซาร์หลังจากที่พบนักศึกษาไทยที่กลับจากซาอุดิอาระเบียใช้ช่องทางดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 จำนวน 6 ราย

ล่าสุด เช้าวันนี้ (28 พ.ค. 63) ที่ด่านปาดังเบซาร์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประตูเชื่อมขายแดนไทย-มาเลเซียถูกปิดล็อคไว้มีเพียง จนท.ด่านฯ ที่ได้ร่วมกันทำความสะอาดอาคารสถานที่ทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดยฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัย ขณะที่พื้นที่โดยรอบที่เคยใช้เป็นสถานที่ลงทะเบียนคนไทยกลับบ้านก็ถูกเก็บและบางส่วนถูกย้ายไปยังด่านสะเดาเพื่อเปิดทำการในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไทยที่ยื่นความจำนงค์กลับประเทศไทยและต้องชะลอการเดินทางไปก่อนหน้านั้นมีประมาณ 300 คนหรือเฉลี่ยวันละ 100 คน ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนผู้ที่เดินทางในวันที่ 31 พ.ค. ประมาณ 100 คนคาดว่าจะมีผู้เดินทางเข้ามาพร้อมกันที่ด่านสะเดาคือ 400 คนและทุกคนต้องกักตัว 14 วัน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่และด่านสะเดายืนยันว่ามีการเตรียมความพร้อมในการดูแลไว้เรียบร้อยแล้ว

สำหรับด่านสะเดา จ.สงขลา ในช่วงที่ผ่านมาแม้ไม่ได้เปิดรับคนไทยให้เข้าประเทศผ่านช่องทางนี้ แต่มีการเปิดทำการด่านตามปกติ โดยเน้นให้บริการเฉพาะระบบขนส่งโลจิกติกส์ระหว่างประเทศ ซึ่งการกลับมาเปิดทำการให้คนไทยกลับบ้านก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่จะมีการแยกพื้นที่เพื่อความปลอดภัยเท่านั้นเอง