svasdssvasds

"บิ๊กตู่" ย้ำ! เลือกตั้งแน่ปี 62 ขอคนไทยเปลี่ยนวิธีคิด

"บิ๊กตู่" ย้ำ! เลือกตั้งแน่ปี 62 ขอคนไทยเปลี่ยนวิธีคิด

นายกฯ ตั้งข้อสังเกตมีพรรคการเมืองหนุนกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ย้ำชัดเลือกตั้งแน่ปี 62 ขอคนไทยเปลี่ยนวิธีคิดให้นักการเมืองมีธรรมาภิบาลและนักการเมืองเดิมที่ดี

วันนี้( 1 พ.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่เริ่มกลับมาชุมนุมในพ.ค.นี้ และจะมีการปักหลักชุมนุมค้างคืนในช่วงใกล้วันครบรอบ 4 ปีรัฐประหารว่า ทุกคนย่อมทราบดี และรัฐบาลก็บอกว่าจะเลือกตั้งในเดือนก.พ. 2562 อย่างแน่นอน แต่กลุ่มดังกล่าวพยายามเคลื่อนไหว จึงต้องดูว่าเป็นกลุ่มใดและมีใครสนับสนุน

ต้องดูว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใด เป็นกลุ่มเดิมหรือกลุ่มใหม่ และมีการสนุบสนุนจากใคร สอดคล้องกับพรรคการเมืองหรือนักการเมืองใดที่ออกมาพูด ก็เป็นกลุ่มนั้นที่เป็นผู้สนับสนุน จึงอยากให้ประชาชนเรียนรู้จากอดีต มาช่วยรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา ขณะนี้ยังมีกฎหมายหากมีเหตุบานปลายต้องบังคับใช้ แต่อาจเป็นว่ารัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวเองก็ละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่นเช่นกัน

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองต้องสงบเพื่อให้สามารถทำมาหากินได้ ส่วนการท่องเที่ยวและเดินหน้าไปได้หมด หากชุมนุมไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะรัฐบาลเอาทุกประเด็นมาแก้ไขปัญหาทั้งหมดอยู่แล้ว พราะการเลือกตั้งเป็นกระบวนการตามประชาธิปไตย จึงต้องคิดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาลได้อย่างไร ดังนั้นสังคมไทยต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการเลือกตั้ง และหลักการในเลือกส.ส.ทั้งหมด ซึ่งตนบังคับใครไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับประชาชนทั้งหมดที่ต้องออกมาช่วยกันเลือกตั้ง เพื่อให้ได้นักการเมืองใหม่ขึ้นมาให้ได้ หรือได้นักการเมืองเดิมที่ดีให้ได้ และตนไม่เคยไปก้าวล่วงในเรื่องนี้

พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนเองไม่เคยเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งต่างประเทศก็ให้การยอมรับ

"ขอเถอะครับ บ้านเมืองกำลังเดินไปได้ด้วยดี ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลประกาศไปแล้วว่าจะเลือก ก.พ. 2562 และไม่มีประเทศไหนทักทวง และต่างพอใจให้ประเทศไทยเดินไปตามนั้น ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยเลื่อนการเลือกตั้ง แต่ที่ปรับมานั้นเป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งยังมีการกล่าวหาว่า ตนมายื้อกฎหมายอีก" พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ สิ่งที่น่ากังวลคือที่รัฐบาลทำไว้จะเป็นอย่างไร เพราะต้องขึ้นอยู่รัฐบาลใหม่ และสิ่งที่มีการริเริ่มไปแล้วจะมีการต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะห่วงใยมากกว่า และตอนนี้อย่าเพิ่งตีกันเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

related