svasdssvasds

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ทหารยศร้อยตรี รับโอนเงิน 25 ล้านบาทจากพระผู้ใหญ่ มาให้ปากคำวันจันทร์นี้

จากกรณี ตำรวจกองปราบปราม บุกค้นบ้านพักหรูในซอยมิสทีน ของ ร.ต.ฐิติทัศน์ นิพนธ์พิทยา นายทหารประจำศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังสืบทราบว่า มีการรับโอนเงิน 25 ล้านบาทจากพระผู้ใหญ่ วัดดังในพื้นที่กรุงเทพ ฯ ไปเข้าบัญชีของ น.ส.นุชรา สิทธินอก ซึ่งเป็นแม่บ้าน ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด รวมทั้งยังตรวจพบอาวุธปืนกว่า 20 กระบอก เก็บไว้ในตู้เซฟ กระทั่ง พล.อ.อ.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีคำสั่งให้ ร.ต.ฐิติทัศน์ พ้นช่วยปฏิบัติราชการ สำนักงาน เสธ.ทหาร ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2561 เป็นต้นไป

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

ล่าสุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก ร.ต.ฐิติทัศน์ เข้าให้ปากคำในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคมนี้ ขณะที่นางสาวนุชรา ถูกกันตัวไว้เป็นพยาน และทำการสอบปากคำเสร็จสิ้นก่อนปล่อยตัวไป

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

ส่วนอาวุธปืนสั้นและปืนยาว รวม 23 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกกว่า 1 พันนัด ที่ยึดได้จากบ้านพัก ร.ต.ฐิติทัศน์ ถูกนำงกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อตรวจสอบ เลขทะเบียนปืน ร่องรอยการขูดลบขีดฆ่าเลขทะเบียนต่างๆ รวมทั้งตรวจสอบเจ้าของใบอนุญาตว่ามีและข้อมูลการครอบครองถูกต้องหรือไม่ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 7 วัน ซึ่งในฐานะดูแลคดีความมั่นคง ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดภายในบ้านพักจึงมีอาวุธและเครื่องกระสุนจำนวนมากเช่นนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมจะก่อเหตุเกี่ยวกับความมั่นคงหรือไม่

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

บิ๊กป้อม ลั่นไม่ปกป้อง ร.ต.เอี่ยวเงินทอนวัด

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด

ออกหมายเรียก นายทหารที่เอี่ยวเงินทอนวัด 25 ล้านบาท ให้ปากคำตำรวจ 21 พ.ค.

ขณะที่ พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงิรทอนวัดว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนไปทั้งหมด 13 สำนวน จำนวน 13 วัด ซึ่งเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐในการทุจริตเงินในวัดต่าง ๆโดยเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกัน ขณะที่ศาลจะพิจารณาลงโทษเป็นรายกระทงไปเช่นกัน ซึ่งโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 50 ปี ในแต่ละคดี แต่หากถูกนำโทษของแต่ละสำนวนมารวมกัน โทษก็อาจจะสูงสุดถึง 200 ปีได้

related