กองปราบเร่งสอบ! พระผู้ใหญ่วัดสามพระยา ปล่อยเงินกู้ รับจำนองโฉนด

ความคืบหน้าการขยายผลคดีเงินทอนวัด สำหรับการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับพระที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ฐานร่วมกันฟอกเงินแล้ว มีรายงานว่าผู้บังคับบัญชา ยังได้สั่งการให้ตำรวจผู้เกี่ยวข้องกับคดีขยายผลไปยังคดีอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ นำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และมีการโอนเงินเข้าบัญชีพระโดยตรงหรือไม่ โดยเฉพาะการค้นพบโฉนดที่ดินของฆราวาส และญาติโยมจำนวนมากอยู่ในกุฏิของพระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร วัดสามพระยาวรวิหาร หนึ่งในผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินในคดีเงินทอนวัด ว่าเกี่ยวข้องกับการรับจำนองโฉนดที่ดินหรือออกเงินกู้ด้วยหรือไม่

ขณะเดียวกันในส่วนของพนักงานสอบสวนกองปราบฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญาฯ มาตรา 157 เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากพระพรหมดิลกถือเป็น ผู้บังคับบัญชาของพระอรรถกิจโสภณ และการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นถือเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตำแหน่ง

แฉ ! 3 บิ๊กพระโกงสมณะศักดิ์ ไม่เคยเรียนบาลี เปรียญธรรม

นอกจากนั้น ชุดสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติของพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 3 รูป เพื่อประมวลข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมณศักดิ์และตำแหน่งทางการปกครอง ของสงฆ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะส่งมอบให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นำเสนอต่อมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการพิจารณาถึงความเหมาะสมในตำแหน่งของพระทั้ง 3 รูปด้วย โดยในเบื้องต้นชุดสืบสวนพบว่า พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี จบการศึกษาชั้นนักธรรมเอก แต่ไม่ได้เล่าเรียนบาลีหรือเปรียญธรรมมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกในวงการสงฆ์ที่พระทั้ง 2 รูป ซึ่งไม่ได้จบเปรียญธรรมแม้แต่ประโยคเดียว แต่สามารถขึ้นมาถึงระดับรองสมเด็จพระราชาคณะในชั้นพรหมได้ ยิ่งไปกว่านั้นพระผู้ใหญ่ทั้งสองรูปยังมีอาวุโสน้อยมากหากเทียบกับพระสงฆ์รูปอื่น ๆ ในมหานิกาย ต่างจากพระพรหมดิลกที่จบเปรียญธรรม 9 ประโยคซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ