สะพัด! เสี่ยอ้วนยังอยู่ไทยสร้างแผนลวงมีสัญญาณมือถือในกัมพูชา - แม่ขอลูกชายมอบตัว [คลิป]

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ จึงลงพื้นที่ไปยังบ้านตาปัน เซึ่งเป็นบ้านเกิดของเสี่ยอ้วน นายปัญญา ยิ่งดัง ผู้ต้องหาในคดีสังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ และนายอนันตชัย จริตรัมย์ ที่ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา  พบนางคิด ยิ่งดัง อายุ 59 ปี ผู้เป็นมารดา ไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนมีอาการเครียดและเกิดโรคความดันสูง และเบาหวาน ซึ่งพึ่งออกจากโรงพยาบาลมา อีกด้วย แต่ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า ตนเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และอยากให้ลูกชายมอบตัวตามกฏหมาย เท่านี้ครอบครัวก็ย่ำแย่พอแล้ว

ขณะที่น้องชายของเสี่ยอ้วน (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ไม่ยอมให้บันทึกภาพและสัมภาษณ์แต่อย่างใด และเปิดเผยเพียงสั้นๆว่า นานๆครั้ง ประมาณ 4-5 ปี พี่ชายถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักที ส่วนรถยนต์ CRV สีขาว หมายเลขทะเบียน 944 ภูเก็ต เป็นรถของพี่ชายที่ซื้อไว้ให้ที่บ้านใช้มานานเกือบ 10 ปีแล้ว และตำรวจชลบุรีได้นำรถไปตรวจสอบ พร้อมกับตนเอง ซึ่งตนไป 2 ให้การกับตำรวจ 2 วัน ก่อนเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้กลับมาบ้านได้ ส่วนรถยนต์ตำรวจติดต่อมาแล้วว่าจะนำมาส่งรถคืนให้ในวันพรุ่งนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับคดี ส่วนเสี่ยอ้วน พี่ชาย ตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เคยเห็น ไม่ได้กลับมาบ้านแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่มีกระแสข่าวมาว่า ตำรวจตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเสี่ยอ้วนอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา และคาดว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น แหล่งข่าวรายงานว่า อาจเป็นการตบตา เจ้าหน้าที่ด้วยการขายหรือให้โทรศัพท์มือถือกับชาวกัมพูชาเข้าไปใช้ในฝั่งกัมพูชา เพื่อหลอกและตบตา เจ้าหน้าที่ ว่าตนเองได้ข้ามฝั่งไปกัมพูชาแล้ว และอาจยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทยก็เป็นได้ในขณะนี้